บทที่ 20 7.2 สมรสพระราชทาน
หลิวฮองเฮาทรงหันมารับสั่งกับนางกำนัลคนสนิท “หวังกูกู เจ้าไปค้นตัวพวกนางทั้งสาม หากไข่มุกราตรีจากปิ่นพระราชทานนั้นอยู่บนตัวผู้ใด ผู้นั้นคือคนที่กล้าหมิ่นเบื้องสูง ลักขโมยสิ่งของพระราชทานของหลานสาวข้าไป!”
“เพคะ” หวังกูกูน้อมรับพระเสาวนีย์ของหลิวฮองเฮา นางกำนัลอาวุโสเดินมาหยุดตรงหน้าสตรีทั้งสาม พร้อมด้วยนางกำนัลอีกสามนาง พวกนางช่วยกันตรวจค้นร่างกายของสตรีทั้งสามอย่างละเอียด จนกระทั่ง...
“เจอแล้วเจ้าค่ะท่านกูกู” นางกำนัลที่ค้นตัวจางเซียวหรู หยิบไข่มุกราตรีออกมาจากอกเสื้อของอีกฝ่าย จางเซียวหรูร้องลั่น
“หม่อมฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ นะเพคะไทเฮา ฝ่าบาท หม่อมฉันโดนปรักปรำเพคะ!” จางเซียวหรูร้องตะโกนเสียงดัง นางหันมามองจางอวิ๋นซีน้องสาวต่างมารดาตาขวาง นางชี้นิ้วด่าทอจางอวิ๋นซีต่อหน้าทุกคน
“เจ้ามันนางมาร! เจ้าอิจฉาที่ข้าดีกว่าเจ้า เจ้าเลยคิดกำจัดข้าอย่างนั้นรึ! นังสารเลว!” ถ้อยคำก่นด่าของจางเซียวหรู ทำให้ภาพสะท้อนของจางอวิ๋นซีคนเก่าที่ถูกทำร้ายเช่นนี้ลอยเข้ามาในหัวจางอวิ๋นซีราวกับภาพดลใจ
ภาพนั้นจางอวิ๋นซีคิดว่าเป็นเหตุการณ์ที่จางเซียวหรูใส่ร้ายว่าจางอวิ๋นซีคนเก่าขโมยอาภรณ์พระราชทานจากหยางเต๋อเฟยไป จนทำให้อีกฝ่ายต้องคุกเข่าโขกศีรษะอย่างน่าเวทนา ไร้ซึ่งความเมตตาใดๆ วันนี้สิ่งที่จางเซียวหรูทำเอาไว้จะต้องได้รับการสนองคืนอย่างสาสม
จางอวิ๋นซี เธอนอนหลับให้สบายเถิด คนพวกนี้ฉันจะจัดการแทนเธอเอง จางอวิ๋นซีคิด
“หลักฐานคาตาขนาดนี้ เจ้ายังกล้าปฏิเสธอีกหรือ? หวังกูกู!” หลิวฮองเฮาทรงพระพักตร์มาทางจางกูกูที่พร้อมรอรับพระเสาวนีย์ หวังกูกูเดินเข้ามาประชิดตัวจางเซียวหรู ตรึงแขนของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น ไม่ว่าจางเซียวหรูพยายามดิ้นอย่างไรก็ไม่อาจดิ้นหลุดได้
“เจ้าโกหก และยังคิดปฏิเสธความผิด มีโทษฐานลบหลู่เบื้องสูง เจ้าไม่ละอายแก่ใจหรืออย่างไร?” หานฮ่องเต้ทรงกล่าวเสียงดังกับจางเซียวหรู จางเยี่ยนผู้เป็นบิดา ไม่อาจทนเห็นบุตรสาวคนโตผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจจากสตรีที่ตนรักต้องทนรับความอับอายได้ จึงก้มลงคุกเข่าขอพระราชทานอภัยโทษจากหานไทเฮา
“ไทเฮา บุตรสาวกระหม่อมกระทำเรื่องที่ขลาดเขลา แต่ขอให้ทรงพระราชทานอภัยให้แก่นางเถิดพะยะค่ะ กระหม่อมในฐานะบิดาจะยอมรับการลงโทษแทนนางเอง” ไท่ฮูหยินเมื่อได้ยินบุตรชายกล่าวเช่นนั้น จึงกล่าวกับหานไทเฮา
“ไทเฮาเพคะ เรื่องนี้หาได้เกี่ยวกับจางเยี่ยน อย่างไรเสียขอทรงพระราชทานอภัยให้กับหลานสาวคนนี้เถิด” ไท่ฮูหยินไม่ต้องการให้เรื่องเลยเถิดจนสร้างความอับอายมากไปกว่านี้ นางต้องการจบเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด
หานไทเฮาทรงหันมากล่าวกับจางอวิ๋นซี “ซีเอ๋อร์ เรื่องนี้เจ้าคือผู้เสียหาย ให้เจ้าตัดสินใจเอาเองเถิด ข้ายอมรับทุกการตัดสินใจของเจ้า”
จางอวิ๋นซีหันมายิ้มกับหรูหรง
“ขอบพระทัยเพคะไทเฮา หม่อมฉันเห็นแก่สายสัมพันธ์พี่น้อง จึงไม่คิดติดใจเอาความพี่สาวเพคะ แต่ว่าสิ่งที่พี่สาวทำต่อหม่อมฉันนั้นถือเป็นการหลู่เกียรติของหม่อมฉันและฮองเฮาผู้เป็นเสด็จป้า ถ้าหากพี่หญิงยอมคุกเข่าโขกศีรษะกับพื้นและกล่าวขออภัย หม่อมฉันก็ไม่ติดใจเอาความเพคะ” จางเซียวหรูนางมองจางอวิ๋นซีด้วยแววตาอาฆาต
จางอวิ๋นซีรีบปรับเปลี่ยนสถานการณ์ให้เข้าข้างตนทันที
“เดิมที หม่อมฉันก็ไม่คิดทำเช่นนี้ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่พี่สาวเคยกล่าวร้ายต่อหม่อมฉัน หาว่าหม่อมฉันขโมยของพระราชทานไป นางบังคับให้หม่อมฉันทำเรื่องน่าอายคุกเข่าโขกศีรษะขออภัยต่อนาง หากนางยอมทำเช่นนี้กับหม่อมฉันต่อหน้าทุกคนและกล่าวขออภัย หม่อมฉันจะไม่ติดใจเอาความนางกับเรื่องที่ผ่านมา”
“ได้ยินหรือไม่จางเยี่ยน!” หลิวฮองเฮาตวาดใส่จางเยี่ยนเสียงดัง
จางเยี่ยนจำเหตุการณ์ที่จางอวิ๋นซีถูกกล่าวหาว่าขโมยอาภรณ์พระราชทานจากหยางเต๋อเฟยได้ดี เป็นภาพนั้นที่บุตรสาวคนรองต้องคุกเข่าโขกศีรษะขออภัยต่อจางเซียวหรู แต่เขาผู้เป็นบิดากลับเอาแต่นิ่งเฉย มิได้สนใจใยดีต่อบุตรสาวคนรองนัก บุตรสาวคนรองที่อยู่นอกสายตา
“ไม่เอานะเจ้าคะท่านพ่อ ข้าไม่ได้ทำ!” จางเซียวหรูไม่มีวันยอมคุกเข่าให้กับจางอวิ๋นซีเป็นแน่ นางยืนกำหมัดแน่น
“เจ้าเอะอะโวยวายเสียงดังเช่นนี้ มีโทษถึงประหารนัก! ทหารนำตัวนางออกไป!” หานไทเฮาทรงรับสั่งกับทหารองครักษ์เสียงดัง วันนี้เป็นวันมงคลของพระนาง แต่ไฉนเลยต้องมีกลิ่นไออัปมงคลเกิดขึ้นในวังเพลานี้ด้วยนะ!
จางเซียวหรูตัวสั่น นางนั่งคุกเข่าต่อหน้าจางอวิ๋นซีและคุกเข่าโขกศีรษะพร้อมกับกล่าวขออภัยต่ออีกฝ่ายหลายครั้ง เหล่าทหารที่จะมารุมล้อมจับนางจึงแยกย้ายกันไป
“ข้าขออภัยต่อเจ้า ต่อไปข้าจะไม่ทำเช่นนี้อีก!” จางเซียวหรูคุกเข่าโขกศีรษะกับพื้นหินอ่อนถึงสามครั้ง นางทั้งอายทั้งเจ็บแค้นใจยิ่งนัก!
จางอวิ๋นซีกับหรูหรง รวมถึงจางฮูหยินและไท่ฮูหยินลอบยิ้มสะใจเล็กๆ จางอวิ๋นซีนับตั้งแต่หายตัวไปคราวนั้นนางก็เปลี่ยนไป แข็งแกร่งขึ้นและดุดันขึ้นยิ่งนัก แม้แต่หานไทเฮาและหลิวฮองเฮาก็ยังอดตะลึงกับนางผู้เป็นคนใหม่และความสามารถไม่ได้
หลิวฮองเฮาลอบยิ้มกับจางกูกูเช่นเดียวกับหานไทเฮา ใช่ว่าเรื่องที่จางเซียวหรูกับหลี่ฮูหยินรังแกจางอวิ๋นซีตลอดเวลาจะไม่มีทางรับรู้ ทั้งสองพระองค์รับรู้อยู่ตลอดเวลา แต่ไม่คิดว่าวันนี้จางอวิ๋นซีจะหาญกล้าถึงขนาดฉีกหน้าอีกฝ่ายต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้
