บทที่ 22 8.1 บุรุษผู้อบอุ่น

หลังจากงานฉลองวันพระราชสมภพของหานไทเฮาผ่านไป ฤกษ์การอภิเษกระหว่างหานไท่หยางกับจางอวิ๋นซีก็ถูกส่งมาที่จวนสกุลจางภายในไม่กี่วัน ในฤกษ์นั้นระบุว่าเป็นเดือนหน้าซึ่งเป็นฤกษ์มงคลสมรส ซึ่งการเตรียมสินสอดและทองหมั้นต่างๆ นั้น ทางหานไท่หยางได้รับปากกับไทเฮาและฮองเฮาแล้วว่าจะเป็นผู้ดำเนินการจัดหาเองทั้งหมด

แม้ว่าจางเยี่ยนจะไม่พอใจที่บุตรสาวคนรองได้อภิเษกกับหานไท่หยางก่อนผู้เป็นพี่สาวอย่างจางเซียวหรู แต่ก็ต้องยอมรับนักว่าอีกฝ่ายมิใช่บุรุษที่สตรีจะเข้าหาได้โดยง่าย หานไท่หยางเป็นนักรบที่เชี่ยวชาญการศึก ความคิดยากจะหยั่งรู้ หากเป็นจางเซียวหรูเขาคงต้องค้านหัวชนฝาเป็นแน่

ใครจะได้เป็นรัชทายาทหรือพระชายารัชทายาทก็ไม่อาจทราบได้ หานอี้นั้นเป็นโอรสองค์โตที่ประสูติจากหยางเต๋อเฟย มีความรู้ความสามารถ ตระกูลนั้นเป็นถึงราชบัณฑิตที่มีชื่อเสียง ความรู้เกี่ยวกับการเมืองการปกครองนั้นมีมากมายนัก หากจางเซียวหรูได้แต่งงานกับ

หานอี้ ในวันข้างหน้าอาจกลายเป็นพระชายารัชทายาทแทนก็ได้

หลี่ฮูหยินปรึกษากับสามี “ท่านพี่ ตำแหน่งรัชทายาทไม่อาจเดาได้ อย่างไรหานไท่หยางก็เป็นโอรสที่ถือกำเนิดจากฮองเฮา สิทธิ์ในราชบัลลังก์นั้นย่อมมีมากกว่าผู้ใด ท่านคิดดีหรือเจ้าคะ ซีเอ๋อร์สติไม่สมประกอบเช่นนี้จะสร้างความอับอายให้แก่ครอบครัวได้”

หลี่ฮูหยินนวดพะเน้าพะนอเอาใจสามี นางพยายามเกลี้ยกล่อมให้จางเยี่ยนปฏิเสธฤกษ์การแต่งงานนั้นไป

“ถึงข้าจะมีลูกสองคน แต่ข้าก็ไม่ปฏิเสธว่าซีเอ๋อร์กับไท่หยางนั้นเหมาะสมกันนัก ตำแหน่งรัชทายาทนั้นไม่แน่นอน ไม่แน่วันข้างหน้าอาจเป็นของโอรสองค์อื่น ใช่ว่าฝ่าบาทจะทรงมีโอรสเพียงสององค์เสียเมื่อใดกัน” จางเยี่ยนกล่าว

“แต่ว่า...” หลี่ฮูหยินพยายามเกลี้ยกล่อมสามี นางไม่ต้องการให้จางอวิ๋นซีมีชีวิตที่ดีไปกว่าจางเซียวหรูบุตรสาวของนาง “ซีเอ๋อร์ทำให้บุตรสาวข้าอับอายนัก เรื่องทุกอย่างเป็นการใส่ร้าย ท่านพี่จะนิ่งดูดายหรือเจ้าคะ”

“ดังนั้นก่อนถึงวันอภิเษกข้าจะกักบริเวณนางเอาไว้ในเรือนเป็นการทำโทษ หากนางฝ่าฝืนข้าก็จะมีเหตุผลลงโทษนางและถือโอกาสยกเลิกการอภิเษกได้” หลี่ฮูหยินยิ้มพึงพอใจกับคำตอบของสามี นางนวดแขนพะเน้าพะนอเอาอกเอาใจมิผิดเวลาจริงๆ

“ดีเจ้าค่ะ” หลี่ฮูหยินตอบ

“พวกเจ้า ส่งคนไปล้อมรอบเรือนของคุณหนูรอง ถ่ายทอดคำสั่งของข้าไป จนกว่าจะถึงวันอภิเษกห้ามนางก้าวขาออกจากเรือนแม้แต่ก้าวเดียว!” จางเยี่ยนสั่งเสียงเข้ม พ่อบ้านมู่จึงดำเนินการตามที่สั่ง แม้ในใจนั้นจะรู้สึกสงสารจางอวิ๋นซีที่เจอบิดาแบบจางเยี่ยนนัก พ่อบ้านเฒ่าได้แต่ภาวนาให้จางอวิ๋นซีแต่งงานกับหานไท่หยางโดยเร็ว ให้นางหนีไปจากครอบครัวและบิดาที่โหดร้ายเสียที

“คิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้าครอบครัวแล้วจะขังใครก็ได้อย่างนั้นรึ?!” จางอวิ๋นซีโวยวาย หลังจากพ่อบ้านมู่มาถ่ายทอดคำสั่งของจางเยี่ยนผู้เป็นบิดา หญิงสาวนั่งกอดอกอยู่บนเตียงอย่างไม่สบอารมณ์ แค่นางต้องมาแต่งงานกับหานไท่หยางนางก็ลำบากใจมากพออยู่แล้ว นี่ยังถูกขังราวกับเป็นสัตว์เลี้ยงอีก!

หรูหรงเอ่ย “แต่นายท่านทำเพราะหวังดีกับคุณหนูนะเจ้าคะ หากคุณหนูออกไปเดินเล่นข้างนอกจวน อาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่ดีก็ได้”

จางอวิ๋นซียังคงนั่งกอดอก “ข้าไม่สนล่ะ! ท่านพ่อจะมากักขังข้าเอาไว้แบบนี้ไม่ได้นะ”

“แต่คุณหนูก็ทำอะไรไม่ได้นะเจ้าคะ อยู่เฉยๆ รอวันแต่งเป็นพระชายาจวนอ๋องดีกว่าเจ้าค่ะ” หรูหรงยิ้มให้กับเจ้านายตนเอง

จางอวิ๋นซีมองหน้าหรูหรงด้วยความเบื่อหน่าย “กว่าจะถึงวันเป็นพระชายา ข้าคงได้ถูกฆ่าตายก่อนแน่ เจ้าไม่คิดหรือไงหรูหรง ยัยหลี่ฮูหยินนั่นน่ะจะยอมให้ข้าแต่งงานเข้าจวนอ๋องง่ายๆ สองแม่ลูกมารยาล้านเล่มเกวียนนั่นคงต้องคิดแผนสกปรกอะไรสักอย่างแน่”

หรูหรงเริ่มคล้อยตามจางอวิ๋นซี

“แต่ถึงฮูหยินรองกับคุณหนูใหญ่จะไม่ประสงค์ดีต่อคุณหนู แต่คุณหนูคือสตรีที่ได้รับคัดเลือกเป็นพระชายา ได้รับมอบสมรสพระราชทานให้

ไทเฮาไม่มีทางปล่อยให้คุณหนูของบ่าวเป็นอะไรหรอกเจ้าค่ะ”

“ไม่ได้ๆ จะให้ข้าถูกกักบริเวณในนี้ร่วมเดือนน่ะรึ? ข้าเฉาตายพอดี!” จางอวิ๋นซีกล่าว

หรูหรงถาม “แล้วคุณหนูจะทำยังไงล่ะเจ้าคะ”

จางอวิ๋นซีทำท่าใช้ความคิดสักครู่หนึ่ง นางอยากออกไปข้างนอก หากต้องอุดอู้อยู่แต่ในนี้นางคงเฉาตายแน่!

“ปกติท่านพ่อมักจะให้เด็กๆ เหล่านี้มาควบคุมข้าตลอดเวลาหรือ?” นางถามหรูหรง อีกฝ่ายส่ายหน้าตอบ

“ไม่เจ้าค่ะ ก็จะมีบางช่วงที่...อ๊ะ...คุณหนู!” จางอวิ๋นซีอาศัยช่วงเวลาที่หรูหรงได้แต่อธิบาย รีบพุ่งหนีไปทางหน้าต่างหลังเรือนเตรียมกระโดดออก!

มารดาเถอะ! คุณหนูของนางจะกระโดดหนีทางหน้าต่าง!

จางอวิ๋นซีแอบสังเกตมาสักครู่หนึ่งแล้วว่าทางด้านหลังเรือนนั้นค่อนข้างปลอดผู้คน เด็กๆ ที่จางเยี่ยนส่งมาควบคุมนั้น คงคาดไม่ถึงนักว่านางจะอาจหาญโดดหนีทางหน้าต่างอย่างบ้าระห่ำเช่นนี้

ฮึบ!

จางอวิ๋นซีถกกระโปรงฮั่นฝูขึ้นเหนือเข่าแล้วกระโดดลงมาจากหน้าต่างเรือน!

“บ๊ายบาย˜” นางหันมาโบกมือให้กับหรูหรงซึ่งยืนอ้าปากค้าง หรูหรงตะโกนร้องเรียกผู้ที่เฝ้าอยู่หน้าเรือน แต่ทว่าจางอวิ๋นซีนั้นก็ว่องไวเหมือนกัน!

จางอวิ๋นซีหันมามองคนของจางเยี่ยน รวมถึงพ่อบ้านมู่ที่วิ่งมาอย่างกระหืดกระหอบ นางส่งยิ้มล้อเลียนพวกเขาทั้งหลายพลางแลบลิ้นใส่ แขนข้างหนึ่งยึดเกาะกิ่งต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะใช้แขนและเท้าอีกข้างปีนต้นไม้ที่อยู่ติดกับกำแพง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป