บทที่ 6 ยอมรับชะตากรรม(1)
[Talk: วาคิน]
"อร่อยดีนี่"
ที่จริงผมไม่ได้เมาอะไรมากมายขนาดนั้น แต่ไม่รู้สิ ผู้หญิงคนนี้มีอะไรบางอย่างที่ทำให้อยากเข้าหาเธอ และดูท่าทางเธอก็สนใจในตัวผมอยู่ไม่น้อย
"ก็ถือว่าใช้ได้!"
ผมสำรวจไปรอบ ๆ ห้องเธอที่จัดตกแต่งอย่างเป็นระเบียบ ก่อนจะลุกไปอาบน้ำ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ตอนนี้มันไม่อยากกลับบ้าน ไม่อยากกลับไปนึกถึงฟ้า
ตอนนี้ฟ้าก็แต่งงานกับพี่อธิศไปแล้ว และผมก็ต้องตัดใจ เพราะถ้าผมยิ่งเข้าไปวุ่นวาย ฟ้าจะยิ่งเดือดร้อน และตอนนี้ต้องการใครสักคนที่รับกับสิ่งที่ผมเป็นได้
เมื่อสองวันก่อนผมเพิ่งจะเกือบฆ่าคนตายเพราะไอ้โรคซาดิสม์
มันเป็นพฤติกรรมผิดปกติชนิดหนึ่งที่จัดอยู่ในขั้นกามวิปริต ซาดิสม์เป็นความแปรปรวนทางเพศที่เกิดจากความพึงพอใจในการทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด มันเป็นการทำโทษอย่างดุดันทางกายให้ได้รับความเจ็บปวด อาจกระทำโดยการเฆี่ยน กัด หรือหยิก หรือทุบถองตบตีต่าง ๆ จากเจ็บปวดธรรมดาจนสาหัสถึงตาย ซาดิสม์ในดีกรีที่รุนแรง คือการกระทำสม่ำเสมอต่อเนื่องและควบคุมตัวเองไม่ได้ ถึงผมจะยังไม่ถึงขั้นรุนแรง แต่วันก่อนผมควบคุมตัวเองไม่ได้จริง ๆ
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นตอนผมอายุ 15-16 ตอนนั้นผมเรียนอยู่ที่อเมริกา วันนั้นผมกลับไปเดินเที่ยวแล้วเจอกับกลุ่มชายฉกรรจ์ และพวกมันก็จับเพื่อนรวมถึงตัวผมไว้
และที่แย่ไปกว่านั้น มันข่มขู่ แอ๊บบี้ เพื่อนและแฟนคนแรกที่เราเพิ่งตกลงคบกันแค่วันเดียว พวกมันฉีกเสื้อผ้าและข่มขืนเธอต่อหน้า
พวกมันไม่ใช่คน มันทั้งตบ ทุบ ทุกตัวทำเหมือนกับเธอไม่ใช่คน ผมต้องทนดูภาพนั้นซ้ำแล้วซ้ำ แต่ไม่อาจช่วยเธอไว้ได้ จนสุดท้ายเธอทนไม่ไหว เธอตายไปต่อหน้าต่อตา ก่อนพวกมันจะถูกจับ และผมเองก็ไม่ปกติมาตั้งแต่วันนั้น
ผมพยายามทำทุกอย่างให้ตัวเองลืมมัน แต่มันยิ่งทำให้ยิ่งจำ และสุดท้ายก็กลายเป็นพวกจิตวิปริต เรื่องนี้ผมไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครแม้แต่ครอบครัวพ่อแม่ และพยายามรักษามันมาโดยตลอดจนวันหนึ่งได้เจอฟ้า
รอยยิ้มของฟ้ามันทำให้ผมมีความสุข และเป็นแรงผลักดันให้ผมรักษาตัวเอง แต่การรักษาคือต้องใช้ร่างกายคนอื่นเพื่อทำให้ตัวเองดีขึ้น เพื่อที่วันหนึ่งผมจะหายและใช้ชีวิตกับคนที่รักอย่างมีความสุข แต่ตอนนี้... ตอนนี้ฟ้าเป็นของคนอื่นไปแล้ว
มันโกรธ โมโห และควบคุมตัวเองไม่ได้จนเกือบจะฆ่าผู้หญิงคนนั้น ดีที่ยังมีสติห้ามตัวเองทัน และผู้หญิงทุกคนที่นอนด้วยจะไม่มีใครรู้จักชื่อ ไม่เห็นหน้า เพราะทุกอย่างมันเป็นความลับ...
แต่เด็กคนนี้ เธอมีอะไร เธอดูพิเศษกว่าคนอื่น ๆ ที่เคยเจอมาก
ตอนเย็น
"คะ คุณ!!"
ผู้หญิงคนนั้น เจ้าของห้องที่ผมนอนค้างตั้งแต่เมื่อคืน และถึงตอนนี้ก็ยังนอนอยู่ในห้องเธอ
"......"
ผมไม่พูดอะไร มองเธอที่ดูจะกลัว ๆ แล้วค่อย ๆ ก้าวขาเข้ามาในห้อง
"กลัวอะไร?" ผมเดินเข้าไปใกล้ ๆ เธอ
"ชื่อลูกตาลใช่มั้ย"
"..คะ ค่ะ" เธอเอาแต่ก้มหน้า
"ทำบ่อย?"
"?" เธอเงยหน้ามองหน้าอย่างสงสัย
"พาคนแปลกหน้าเข้าห้องบ่อย ๆ"
ที่จริงผมสืบประวัติเธอแล้วล่ะ จากพี่เดียร์เจ้านายเธอนั่นแหละ
"ปะ..เปล่า ตาลไม่เคยพาใครเข้าห้อง"
เธอเดินหนีผมเมื่อผมเดินเข้าใกล้เธอ
หมับ!!
"ชอบฉันเหรอ?" ผมจับตัวเธอไว้ ตึกตึก หัวใจเธอเต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะ
"คือ….ตะ ตาล" เธอเอามือดันหน้าอก
"ฉันมีอะไรให้เธอสนใจ!" ผมจับมือเธอไว้
"คือตาลแค่มองเฉย ๆ ไม่ได้ชอบคุณขนาดนั้น" เธอพูดเก้ ๆ กัง ๆ แล้วหลบตา
"หึ." ผมปล่อยเธอแล้วเดินไปทิ้งตัวลงนอนกับเตียง
"ตาลว่าคุณกลับไปได้แล้วนะคะ" เธอพูดอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
"แล้วถ้าไม่กลับล่ะ จะทำไม!"
ผมพูดอย่างไม่พอใจ เพราะไม่เคยมีใครกล้าไล่ผม รูปร่างหน้าตาเธอมันทำให้เลือดในตัวสูบฉีด
มันบอกไม่ถูก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมอยากได้ผู้หญิงคนนี้ แต่เท่าที่พี่เดียร์เล่าเด็กคนนี้เป็นเด็กดี ผมไม่อยากทำให้เธอเจ็บ แต่ผมก็ต้องการใครสักคน ใครสักคนที่จะทำให้ผมได้ระบายทุกอย่างตอนนี้
"ตะ..แต่นี่มันห้องตาล!"
"แล้วเราก็ไม่รู้จักกันด้วย"
เธอมองหน้าผม นี่เป็นครั้งแรกละมั้งที่เธอกล้ามองหน้า
"แล้วอยากรู้จักมั้ย?" ผมพูดจริง ผมอยากให้เธอรู้จักผมจริง เด็กคนนี้อาจจะช่วยผมได้ มันรู้สึกแบบนั้น
"ฉันถามว่าอยากรู้จักฉันมั้ย!" เธอเงียบ มันทำให้รู้สึกหงุดหงิดเป็นบ้า
"....." เธอไม่ตอบแต่พยักหน้า
"ไว้ใจฉันได้ ฉันจะไม่ทำอะไรเธอถ้าเธอไม่เต็มใจ"
ผมเดินกลับไปนั่งที่เตียง
"ฉันกับพี่เดียร์เรารู้จักกันดี ถ้าไม่เชื่อโทรไปถามเธอดูได้"
พ่อพี่เดียร์เป็นเพื่อนกับพ่อผม และเราก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องเรียนที่มหาลัยเดียวกันอีก
"ว่าไง" ผมกดโทรศัพท์โทรหาพี่เดียร์แล้วให้พี่เดียร์คุยกับเธอ
"ค่ะ" แล้วไอ้คำว่า 'ค่ะ' ของเธอคือยังไง ตกลงรู้หรือไม่รู้ว่าผมเป็นใคร
"ถามจริง ๆ"
ผมลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้ ๆ แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ ชนิดปากชนปาก
"เธอคิดยังไงกับฉันที่เพิ่งเจอเป็นครั้งแรก" หัวใจเธอเต้นแรงมาก และเอาแต่ยืนตัวแข็งทื่อ
"ตะ..ตาล.. อืม!!"
ผมเบื่อที่จะรอคำตอบ และผมจะเป็นคนตอบเองว่าเธอคิดยังไงกับผมโดยการจูบ
"อย่า!" เธอเอามือดันตัวผมออก
"ไม่เคยจูบ?" เธอพยักหน้า หึ เป็นไปได้เหรอ
"แล้วเคยมั้ย" อายุขนาดนี้น่าจะเข้าใจ
"....." เธอส่ายหัว
แต่ถ้าดูจากอาการก็น่าจะจริง เพราะดูจากท่าทางแล้วน่าจะโกหกใครไม่เป็น
"งั้นฉันไม่กวนเธอแล้ว คิดดูให้ดีว่าอยากรู้จักฉันมั้ย"
ผมหยิบเสื้อเชิ้ตแล้วเดินออกจากห้องเธอทันที
แต่ถามว่าเสียดายมั้ย... มันก็นะ ผมไม่ใช่คนเจ้าชู้ ไม่ได้นอนกับใครไปทั่ว แต่อย่างน้อยคนที่ผมจะถูกใจ และผู้หญิงที่สนใจเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่จะได้จากการนอนกับผม ไม่ใช่ว่าผมจะสนใจทุกคน
