บทที่ 3 ไม่ใยดี

หญิงสาวมองออกไปข้างทางที่เต็มไปด้วยทุ่งนาเขียวขจี ผู้ชายคนนี้ชื่อพายุ มีอาชีพทำนาแค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับข้อมูล เขาจะจดทะเบียนสมรสนั่นก็แสดงว่าเขามีความรับผิดชอบ และตั้งใจทำให้มันถูกต้อง มาถึงตอนนี้เธอก็คงปฏิเสธเขาไม่ได้ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด เริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนแปลกหน้ายังดีกว่าอยู่เห็นหน้าคนทรยศ

รถกระบะสี่ประตูวิ่งมาตามทางด้วยความเร็วสูง ความง่วงบวกกับความเพลีย ทำให้กรรัมภาเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว พายุปรายตามองหน้าหญิงสาว สะดุดกับดวงตาที่บวมช้ำ ถ้าเดาไม่ผิดมันก็น่าจะมีส่วนทำให้เธอมาที่นี่ ระหว่างทางคงร้องไห้มาอย่างหนัก ว่าแต่เธอร้องไห้เรื่องอะไรกัน ถึงจะบอกกับตัวเองว่าไม่สนใจเรื่องอดีต แต่เธอกำลังจะเป็นภรรยาเขา สามีภรรยาคือคนที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุข และร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน เขาก็อยากรู้สักนิดว่าเพราะอะไร เธอถึงมาที่นี่ทั้งที่เพิ่งจะรู้จักกันได้แค่สามวัน

กรรัมภารู้สึกตัวตื่น เมื่อรถขับเข้ามาจอดบริเวณที่มีรั้วไม้ไผ่สูงท่วมหัว รอบๆมีแต่ทุ่งนาเขียวขจี ยิ่งเป็นเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน ยิ่งเพิ่มความเหงาให้เธอ อีกไม่นานก็จะมืดสนิท

เธอต้องมาใช้ชีวิตกับคนแปลกหน้า ที่รู้จักแค่ชื่อของเขาเท่านั้น

บรรยากาศรอบๆสวยงามเหมือนในภาพถ่าย ที่เธอเคยเห็นตามอินเตอร์เน็ต ท้องนาสีเขียวสลับเหลือง บางแปลงก็เหลือแต่ตอ เพราะผ่านการเก็บเกี่ยวไปแล้ว อากาศหลังฝนยิ่งทำให้

สดชื่น แต่เธอไม่มีอารมณ์ชื่นชมอะไรทั้งนั้น จะผ่านคืนนี้ไปได้อย่างไรเธอก็ยังไม่รู้เลย

"แวะมาเอาปุ๋ยที่บ้านผู้ใหญ่ก่อน จะลงไปด้วยกันไหม"คนขับหันมาถาม เมื่อเห็นเธอมองนี่นั่นไปเรื่อย บางทีเธออาจจะอยากลงไปสูดอากาศ

"นานไหมคะ" คำถามของเธอทำให้พายุขมวดคิ้ว ถ้าเขามาที่นี่ไม่เช้าก็ค่อนคืนถึงจะกลับบ้าน เพราะมีเพื่อนๆตั้งวง

กินเหล้าทุกวัน วันนี้ชีวิตเขาจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะมีเมียแล้ว นึกแล้วก็ขำไอ้พวกที่นั่งในวงเหล้าจะรู้สึกอย่างไร ถ้ารู้ว่าเขาพาเมียมาด้วย ไหนจะชาวบ้านอีก คงพากันแปลกใจที่อยู่ๆเมียเขาก็โผล่มา แถมหน้าตาก็สะสวยจนหาตัวจับยากอีกด้วย พวกมันคงรุมถามว่าเขาไปได้เธอมาจากที่ไหน

"พักหนึ่ง" ตอบส่งเดชเพราะคิดว่า อาจจะนั่งคุยกับเพื่อนๆสักพักแล้วค่อยขอตัวกลับ

"ลงด้วยก็ได้ค่ะ" กรรัมภาบอกก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอด แล้วเปิดประตูลงมา นั่งรถมาทั้งวัน ลงไปยืดเส้นยืดสายบ้างก็ดี ยังไงเธอก็ต้องอยู่ที่นี่ทำความรู้จักกับเพื่อนของเขาเอาไว้ ก็ไม่เสียหายอะไร

หญิงสาวเดินตามหลังคนไหล่กว้างเข้าไปด้านใน ทันทีที่เห็นหน้าเขา คนที่นั่งใต้ถุนบ้านก็พากันโห่ร้องก่อนจะเงียบลงเมื่อเห็นเธอเดินตามมาข้างหลัง และก่อนที่พายุจะพูดอะไร เด็กผู้หญิงผมเปียก็วิ่งมาหาเขา ชายหนุ่มย่อเข่าลง แล้วอุ้มคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขน

"ลุงลมมาแล้ว คิดถึงจังเลย" เด็กน้อยร้องบอก ก่อนจะฝังจมูกลงบนแก้มเขาทั้งสองข้าง กรรัมภารับรู้อีกอย่างว่า ว่าที่สามีของเธอมีชื่อเล่นว่าลม ลมพายุ ชื่อเล่นกับชื่อจริงช่างเหมาะสมกันเหลือเกิน

"ลุงก็คิดถึงหนูค่ะ ช่วงนี้ลุงยุ่งเลยไม่ได้มาหา ทำอะไรอยู่คะ" คำพูดคะขาที่หลุดออกมาจากคนข้างหน้า ทำให้หญิงสาวยิ้มตาม เพราะมันขัดกับบุคลิกของเขา

"กินข้าวค่ะ" เด็กน้อยตอบ

"กินกับอะไรคะ" พายุยังถามต่อ แม้จะพอเดาได้จากกลิ่นที่ติดมากับแก้มเด็กน้อย แต่ก็ยังถาม

"ปลาทอดค่ะ พ่อแทนหว่านแหได้ปลามาเยอะแยะเลย"คำตอบของเด็กน้อยทำคนฟังยิ้มตาม

"ไม่ปลาก็ไข่ แทนมันทำอย่างอื่นให้ลูกกินเป็นไหมเนี่ย"คำพูดนี้พายุพูดคนเดียวเสียมากกว่า

"น้าบัวทำค่ะ น้าบัวทอดปลา" คำตอบของรวงข้าวทำให้พายุพยักหน้าเข้าใจ ตั้งแต่แทนไทเลิกกับแม่ของรวงข้าว ก็ได้

ใบบัวมาช่วยดูแล ถึงแม้ใบบัวอายุยังน้อยแต่ก็มีความรับผิดชอบ มาช่วยเลี้ยงหลาน เพื่อให้แทนไทมีเวลาทำงาน

"หวัดดีพี่ลม" คนที่พายุกำลังนึกถึงเดินมา พร้อมกับชามข้าวในมือ

"อืม..." พายุพยักหน้ารับ

"ใครน่ะพี่" ใบบัวถามเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา

"เมียพี่" คำตอบของพายุไม่เพียงแค่ใบบัวเท่านั้นที่ตกใจ กรรัมภาเองก็ตกใจเช่นกัน เขาแนะนำเธอกับเด็กสาวทื่อๆแบบนี้เลยหรือ

"คุณเพลงนี่ใบบัว ส่วนนี่รวงข้าวลูกสาวผู้ใหญ่แทน"

กรรัมภายิ้มให้เมื่อเด็กสาวยกมือไหว้

"รวงมากินข้าวต่อให้อิ่มจะได้อาบน้ำ วันนี้น้าต้องรีบกลับไปทำการบ้านนะ" ใบบัวบอกกับรวงข้าวที่ทำท่าสนใจคนมาใหม่มากกว่าข้าวในมือเธอ พายุวางรวงข้าวลง เมื่อแทนไทเดินมาหาเขา

"อยู่ม.ไหนแล้วเราน่ะ" พายุถามเมื่อได้ยินใบบัวพูดเรื่องการบ้าน

"ม.5จ้ะพี่"

"ม.5แล้วเหรอ" พายุทวนคำตอบ เผลอแป๊บเดียวใบบัวอยู่ม.5แล้วเหรอ ไม่นานมานี้ยังเห็นขี่หลังแทนไทอยู่เลย

"พี่ลมก็อีกคน ที่บัวไม่โตเพราะพี่แทนใช้งานหนักไง วันๆก็ให้เลี้ยงแต่หลาน" ว่าให้คนมาใหม่เมื่อหลายคนมักจะทักว่าอยู่

ม.5แล้วทำไมตัวเล็กเท่ามด

"ไม่ถอยรถเข้ามาล่ะพี่ จะได้ให้พวกไอ้เจ๋งยกปุ๋ยใส่ท้ายรถ ไปไหนมาเนี่ยแต่งตัวหล่อเฟี้ยวเลย" แทนไทถามเพราะสงสัยตั้งแต่ตอนที่พายุขับรถสี่ประตูเข้ามา เพราะปกติถ้าไม่

ขับมอเตอร์ไซค์ก็รถอีแต๋น

"ไปรับเมียมา" พายุตอบเมื่อเห็นแทนไทมองกรรัมภา ก่อนจะหันมาคุยกับเขา

"เมีย!" ผู้ใหญ่หนุ่มร้องลั่นเมื่อได้ยินคำตอบ

"เออ...เมียกูมาจากกรุงเทพ เพลงนี่แทนไท เรียกแทนหรือผู้ใหญ่แทนก็ได้"แนะนำให้กรรัมภารู้จักกับเจ้าของบ้าน ก่อนจะโยนกุญแจรถให้ เมื่อพวกที่นั่งใต้ถุนบ้านพากันร้องแซว กรรัมภามองซ้ายมองขวา เมื่อพายุเดินไปหากลุ่มเพื่อน โดยไม่ชวนเธอสักคำ หญิงสาวจึงเดินไปหาใบบัวกับรวงข้าว เพราะไม่รู้จะไปทางไหน อยู่ๆก็น้อยใจที่เขาเดินหนีเธอไปทื่อๆ เขาเป็นเจ้าของสถานที่ พาเธอมาแล้วก็น่าจะใส่ใจเธอสักนิดเพราะเขาเป็นคนเดียวที่เธอรู้จัก แต่เขากลับเดินหนีเธอไปแบบไม่ใยดี

บทก่อนหน้า
บทถัดไป