บทที่ 8 พ่อเพื่อนบำเรอรัก 8
“อาหารร้านนี้อร่อยถึงพามาลอง”
“ค่ะ”
มายาวดีกินอาหารได้ค่อนข้างมาก กินเรื่อยๆ ตาก็มองเบียร์ไปด้วย ตามมารยาทเธอควรจะรอให้เขาดื่มเบียร์หมดแล้วค่อยอิ่ม เพราะถ้าเธออิ่มเขาอาจจะเช็คบิลทั้งที่เบียร์ยังไม่หมด หรือไม่เธอก็ต้องนั่งรอจนกว่าเบียร์จะหมด
“กินเก่งเหมือนกันนี่เรา”
“อร่อยค่ะ” เธอยิ้มและเอนหน้าหลบมือใหญ่ที่ยื่นออกมาทันทีด้วยความตกใจ
เดโชใช้ปลายนิ้วเขี่ยข้ามที่ติดมุมปากออกให้ และแม้เม็ดข้าวจะกระเด็นหายไปแล้ว ปลายนิ้วหัวแม่มือเขาก็ยังไม่ยอมถอยห่าง มันกลับวกวนไปมาอยู่บนผิวปากของเธอเหมือนสำรวจ และมายาวดีก็ดูจะถูกตรึงในท่านั้นจนกว่าปลายนิ้วนั้นจะถอยห่างออกมา
พ่อเลี้ยงตัดใจละปลายนิ้วออกห่าง เห็นเธอเป่าปากก็ครึ้มอกครึ้มใจ ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วที่เวลาอยู่ใกล้สาวแล้วอยากทำให้เธออกสั่นขวัญแขวน เห็นเธอสะดุ้งแล้วมีความสุข
เบียร์ขวดที่ 3 หมดลงในที่สุดหลังจากเดโชดื่มคนเดียวเงียบๆ มายาวดีกินอิ่มตั้งแต่ถูกปลายนิ้วหยาบกร้านแตะไล้เรียวปาก เธอได้แต่นั่งตัวสั่นอยู่ตรงหน้าพ่อเพื่อนที่เริ่มรุกตั้งแต่วันแรก ฝ่ายพ่อเพื่อนก็อารมณ์ดีเป็นพิเศษขยันกระตุกยิ้มนิดๆ ให้เธอบ่อยครั้ง แม้จะไม่มีการพูดคุยกันเพราะต่างก็ตกอยู่ในความคิดของตนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกวูบไหว
แต่แล้ว...
“สวัสดีครับนายหัว วันนี้พาสาวมานั่งรับลมทานอาหารอร่อยๆ หรือครับ”
มายาวดีมองผู้ชายที่เข้ามาทัก เขาเป็นหนุ่มหน้าตี๋แต่งกายดูดี และน่าจะมีเงินไปน้อย
“หิวๆ น่ะ ก็เลยมาหาอะไรกินสักหน่อย”
“ผมเพิ่งเห็น เลยไม่ได้ออกมาต้อนรับแต่แรกครับ จะรับอะไรเพิ่มไหมครับ”
เดโชสบตามายาวดีพลางเลิกคิ้วเป็นคำถาม เธอส่ายหน้าไม่อยากกินอะไรแล้วตอนนี้อยากเข้าห้องนอน
“ไม่ล่ะ เช็คบิลเลยครับ”
เขาสั่งด้วยคำสุภาพ มายาวดีจึงคิดว่าผู้ชายคนนี้เป็นเจ้าของร้านอาหารแห่งนี้แน่ๆ และมันก็ใช่จริงๆ
หลังจากเช็คบิลเสร็จเดโชก็ลุกขึ้นเดินนำไปที่รถ หญิงสาวเดินตามเว้นระยะห่างประมาณหนึ่ง เธอได้ยินเสียงไล่หลังดังมาไม่เบา บทสนทนาของใครบางคนที่เธอไม่กล้าหันกลับไปมองสะดุดหู และทำให้หน้าตา ลำคอ และแม้แต่ติ่งหูของเธอแดงระเรื่อ
“เห็นยังๆ เด็กนายหัวเดย์”
“เห็นแล้ว แอบดูอยู่ตั้งนานเมื่อกี้”
“สวยน่ารักขนาดนี้นายหัวถึงเปิดใจเสียที เป็นโสดมานานแล้วนะ”
“นั่นสิ คนนี้คงเป็นนายหญิงเกาะปะการังแน่ๆ ไม่งั้นนายหัวคงไม่พามา นายหัวไม่เคยควงผู้หญิงมานานมากแล้ว จนมีบางคนคิดว่าแกเป็นเกย์”
“เกย์บ้าอะไรจะโหดขนาดนี้ ได้ข่าวว่าใครทำอะไรไม่ถูกใจ แกเล่นหมด”
“ไม่ใช่พันเปอร์เซ็นต์ ไอ้คนพูดมันไม่ดูตาม้าตาเรือ ดีไม่ดีเจอพ่อเตะฟันร่วง”
มายาวดีรีบสาวเท้าตามร่างสูงขึ้นรถเมื่อเขาหันมามอง เธอไม่บอก และคิดว่าเขาก็คงได้ยินแล้วเลือกที่จะเงียบมากกว่าจะปฏิเสธ แบบนี้คงไม่ได้หมายถึงการยอมรับกระมัง
ผ่านมาไม่กี่ชั่วโมง เขาเข้ามามีอิทธิพลต่อหัวใจเธอแล้วเหรอนี่
จู่ๆ รถที่แล่นมาเอื่อยๆ ดีๆ ก็กระตุกและหยุดลงดื้อๆ มายาวดีชะโงกหน้ามองฝากระโปรงหน้ารถและหันไปมองโชเฟอร์ข้างกาย ได้ยินเขาพึมพำบางอย่างก่อนจะลงจากรถ ก่อนจะทำอะไรบางอย่างและจู่ๆ ฝากระโปรงหลังก็ยกขึ้น เดโชลงไปดู เพิ่งได้นั่งรถสปอร์ตครั้งแรกเลยไม่รู้ว่าห้องเครื่องอยู่ข้างหลัง แต่จะให้เธอเองนั่งรออยู่ในรถเฉยๆ ก็คงไม่ได้จึงลงไปยืนเมียงมองอยู่ใกล้ๆ
“รถเป็นอะไรคะ”
เดโชส่ายหน้า
“ไม่รู้สิ”
“แล้วเราจะทำยังไงกันดีคะ”
เขาเงียบไปพัก ก่อนจะสั่งให้เธอไปหยิบเครื่องมือในรถ มายาวดีก็งงๆ ไม่คิดว่ารถหรูใหม่เอี่ยมขนาดนี้จะเสีย และต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือซ่อมเตรียมไว้ในรถ เธอไม่เคยมีรถเดาเอาว่าซื้อรถทุกคันก็คงมีของจำเป็นแถมมาให้
พอค้นหาตามที่เขาบอกว่าอยู่ใต้เบาะในห้องผู้โดยสาร เธอก็โน้มตัวหาอยู่นานก็ยังไม่เจอ
“ไม่เห็นมีเลยค่ะคุณพ่อ” ตะโกนบอกแต่ยังไม่หยุดหา
“มีสิ ต้องมี” เสียงของเขาดังใกล้เหลือเกิน อึดใจต่อมาก็มีลมอุ่นๆ เป่ารดศีรษะ พอจะยกตัวขึ้นก็มีมือใหญ่เอื้อมมาควานหาและสัมผัสมือเธอ
มายาวดีหัวใจเต้นแรงโลดกับเหตุการณ์สุดระทึกครั้งนี้ เธอไม่ยกตัวขึ้นและจำต้องอยู่ในท่านั้นเพราะหากขยับนิดเดียว ร่างเธอจะสัมผัสแนบชิดกับร่างหนาเต็มๆ ร่างของเธอจึงแข็งค้างอยู่อย่างนั้น
“อยู่ไหนนะ” เสียงทุ้มพึมพำอยู่ข้างหู ใกล้เหลือเกิน ใกล้เสียจนขาเธอสั่น
“จะ...เจอไหมคะ” เธอกำลังสั่นและถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปขาแข้งได้อ่อนยวบแน่ๆ
“หาอยู่”
บอกหาอยู่แต่ยังไม่ปล่อยมือเธอ ยังไม่ขยับร่างกายเหมือนกัน แบบนี้หรือที่เรียกว่าหา
“แต่สงสัยจะไม่ได้เอามา”
มือเย็นเฉียบของเธออยู่ในมือใหญ่ และเขาก็ยังคลึงเคล้นเหมือนตรวจสอบความเนียนเรียบ
มายาวดีอยากถอยห่างเหลือเกินแต่ทำไมได้ เดินหน้าก็ติดรถ ถอยหลังก็คงจมไปกับกำแพงเลือดเนื้อ วินาทีนี้ยังรู้สึกอีกว่าลำตัวของเขาแข็งแกร่งเหลือเกิน อ้อมแขนของเขาก็อุ่นจนนึกอยากซุกตอนหนาวๆ
“กลัวเหรอ ตัวสั่นเชียวยะหยา”
“คะ...ค่ะ” หลุดปากยอมรับซะงั้น
“กลัวอะไร บรรยากาศรอบตัว หรือฉัน”
เธอไม่ตอบ แต่ตัวสั่นระริกยิ่งกว่าลูกนกตกน้ำ เดโชหัวเราะในลำคอ สูดดมกลิ่นหอมจากพวงผมนุ่มสลวยซุกปลายจมูกเข้าไปในกลุ่มผมเพื่อแนบลงบนต้นคอระหง หญิงสาวผู้ถูกกระทำได้แต่ตัวสั่นงันงกและพาลจะล้มฟุบลงดื้อๆ
“หอมจัง”
“คุณพ่อคะ หยาไม่ไหวแล้ว”
เดโชได้ยินดังนั้นจึงยอมถอยห่างพร้อมกับดึงร่างเล็กที่ทรุดฮวบลงทันควันขึ้นไปนั่งบนเบาะรถ เขามองดวงหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากสั่นระริก และตากลมโตที่เอาแต่จะหลุบมองมือตัวเองร่ำไป
“อยากกลับแล้วเหรอ”
“ค่ะ”
“ทำไมตอบเร็วจัง ไม่คิดสักหน่อยเหรอ”
