บทที่ 10 Chapter 10

Chapter 10

เหล่าขุนนางน้อยใหญ่ รวมทั้งขันทีที่อยู่ในท้องพระโรงต่างพากันมององค์รัชทายาทที่วันนี้สีหน้าต่างจากทุกครั้ง เมื่อวานรวมถึงวันก่อนๆ พระพักตร์ขององค์รัชทายาทจะเรียบเฉย บางครั้งก็บึ้งตึงใส่ เพียงแค่วางหน้าเฉยๆ ก็มีแต่คนเกรงกลัว รวมกับน้ำเสียงที่ฟังแล้วขนลุกซู่ ติดน่ากลัว ฟังแล้วแลดูมีอำนาจ มีแต่คนยำเกรง ทว่าวันนี้พระพักตร์องค์รัชทายาทมีรอยยิ้ม แถมพูดคุยกับนกหงส์หยกด้วยน้ำเสียงไพเราะ ไร้ความกระด้าง พวกเขาพลอยได้รับอานิสงค์ไปด้วย

“อำมาตย์หลี่ ท่านมีเรื่องอะไรจะพูดก็รีบพูดมา ข้ารอฟังอยู่” หมิงหยางเต๋อพูดกับอำมาตย์หลี่ฮั้ว ก่อนหันมาพูดกับนกหงส์หยกเหมยเหมย “เจ้าจะกินส้มไหม ข้าจะป้อนให้”

องค์รัชทายาทพูดจบก็หยิบส้มขึ้นมา ก่อนฉีกเป็นสองชิ้น แล้วนำไปไว้ตรงปากเหมยเหมย เพื่อให้นกน้อยได้จิบน้ำผลไม้จากกลีบส้ม อำมาตย์กุยฮัวที่รั้งตำแหน่งอำมาตย์ฝ่ายซ้าย มองหน้าขุนนางพวกพ้องเดียวกันที่พยักหน้าให้รีบรายงานเรื่องที่ตั้งใจไว้ ต้องพูดก่อนอารมณ์องค์รัชทายาทจะเปลี่ยนไป

“กระหม่อมได้รับรายงานจากนายอำเภอจิวห่าวแห่งเมืองลู่หยาน ของบประมาณสร้างเขื่อนพ่ะย่ะค่ะ” อำมาตย์หลี่ฮั้วรายงาน

“สร้างเขื่อนงั้นรึ สร้างทำไม จิวห่าวมีเหตุผลหรือเปล่า”

“ที่จำเป็นต้องสร้าง เพราะเมืองลู่หยานประสบปัญหาภัยแล้งมาหลายปี ชาวบ้านทำการเกษตรแทบไม่ได้ จึงคิดสร้างเขื่อนเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในยามแล้งพ่ะย่ะค่ะ” อำมาตย์หลี่ฮั้วตอบ “หากพระองค์มอบงบประมาณให้นายอำเภอไปดำเนินการ ชาวบ้านก็จะได้รับประโยชน์โดยตรง การทำการเกษตรของชาวบ้านก็จะดีขึ้นไปด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

“ท่านส่งเรื่องให้หลิวกงกง พรุ่งนี้ข้าจะให้คำตอบว่าจะให้งบประมาณเท่าไหร่” หมิงหยางเต๋อตอบกลับ “ใครมีเรื่องอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีข้าขอตัว”

เหล่าขุนนางคงไม่มีใครกล้าพูดเรื่องใด แม้ว่าจะมีขุนนางอีกหลายคนมีเรื่องต้องรายงาน เนื่องจากองค์รัชทายาทออกตัวแล้ว พวกเขาโค้งคำนับขณะที่องค์รัชทายาทลุกขึ้นยืนแล้วก้าวเดินออกจากท้องพระโรง โดยมีหลิวกงกงเดินตามไป

“องค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ” หลิวกงกงรั้งฝีเท้าของเจ้าชีวิตด้วยคำพูด

“มีอะไร”

“พระชายารองประชวรพ่ะย่ะค่ะ”

“ฮุ้ยเตียวเป็นอะไร” องค์รัชทายาทถาม สีหน้าไม่ได้ตกใจ

“กระหม่อมมิทราบพ่ะย่ะค่ะ ซิงเทียนมาบอกข่าวกระหม่อมแค่นี้พ่ะย่ะค่ะ แล้วกำชับว่า ให้องค์รัชทายาทเสด็จไปตำหนักแพยองพ่ะย่ะค่ะ” ซิงเทียนคือนางกำนัลรับใช้คนสนิทของพระชายารอง ที่นำเรื่องนี้มาบอกกับตน พอถามกลับว่าพระชายารองเป็นอะไร หลิวกงกงกลับไม่ได้คำตอบ ซิงเทียนบอกแค่ว่า ให้องค์รัชทายาทเสด็จไปที่ตำหนัก แล้วพระชายารองจะเป็นบอกองค์รัชทายาทเองว่าเป็นอะไร “องค์รัชทายาทจะเสด็จไปตกหนักพระชายารองหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

องค์รัชทายาททำท่าทางครุ่นคิด หันไปมองนกหงส์หยกที่เกาะบนบ่าตน ก่อนหันไปตอบหลิวกงกง

“ไปสิ”

ตรัสจบ ชายหนุ่มสูงศักดิ์เปลี่ยนทิศทางการเดินไปยังตำหนักแพยอง

ระหว่างทางที่หมิงหยางเต๋อเดินไปตำหนักพระชายารอง นกเหมยเหมยตื่นตาตื่นใจกับความยิ่งใหญ่ของวังหลวง ที่นี่มีตำหนักเยอะมาก แถมยังมีฝ่ายต่างๆ หรือที่เมืองไทยเรียกว่ากระทรวงอยู่ในวังหลวงครบทุกฝ่าย ไม่กระจัดกระจายอยู่คนละที่เหมือนบ้านเมืองที่เธอจากมา ยังแอบคิดในใจว่า โชคดีที่ตนเองกลายเป็นนก ไม่ต้องใช้ขาเดิน ไม่เช่นนั้นคงเหนื่อยและเมื่อย แต่จะว่าไปบินก็เหนื่อยเหมือนกัน สู้เกาะบ่าองค์รัชทายาทดีที่สุด

และเมื่อเสด็จถึงตำหนักดังกล่าวก็พบว่า มีการเตรียมต้อนรับองค์รัชทายาท ราวกับเจ้าของตำหนักรู้ว่า พระองค์ต้องเสด็จมา

“ถวายบังคมเพคะองค์รัชทายาท” หมี่ฮั้ว นางกำนัลคนสนิทของพระชายารองที่ยืนรออีกฝ่าย ทำความเคารพตามธรรมเนียม

“ฮุ้ยเตียวเป็นอะไร” องค์รัชทายาททรงตรัสถาม

“ให้พระชายารองตอบพระองค์เองดีกว่าเพคะ”

หมี่ฮั้วมีลับลมคมใน องค์รัชทายาทตวัดสายตามองคนพูดเพียงนิด ก่อนก้าวเข้าไปในตำหนัก พอก้าวเข้ามาในห้องโถงใหญ่ก็พบว่า พระชายารองฮุ้ยเตียวนั่งรออยู่บนเก้าอี้เข้าชุดกับโต๊ะไม้เนื้อดี

‘สวยแฮะ’ นกหงส์หยกเหมยเหมยพูดในใจเมื่อเห็นความงามของพระชายารอง ที่ทั้งสวยและสง่าสมกับตำแหน่งที่ได้รับ เสื้อผ้าอาภรณ์ที่นางสวมใส่ก็ประณีตงดงาม ส่วนบนศีรษะประดับด้วยปิ่นปักผม ติดกิ๊บรูปดอกไม้อันโตๆ เหมยเหมยเพิ่งเห็นกับตาตัวเองว่า การแต่งกายของสมัยจีนโบราณเป็นอย่างไร มีส่วนคล้ายกับในหนังซีรี่ย์จีนที่ตนเคยดู แต่พอมาเห็นกับตาตัวเอง ธิดาดอยยอมรับว่าทึ่ง

“ถวายบังคมเพคะเสด็จพี่” ฮุ้ยเตียวทำความเคารพสามีสูงศักดิ์ที่ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้

‘เสียงหวานเชียว ท่าทางจะอ้อนเก่ง’ นกเหมยเหมยพูดในใจ รู้สึกหมั่นไส้พระชายารองขึ้นมาตงิดๆ

“เจ้าเป็นอะไร” องค์รัชทายาทตรัสถาม น้ำเสียงไม่ได้บอกให้รู้เลยว่า อยากรู้จริงๆ

“หม่อมฉันว่า เสด็จพี่จิบชาก่อนดีกว่าเพคะ หม่อมฉันได้ชาดีมาจากเมืองถัง เป็นชาขึ้นชื่อมากเพคะ มีกลิ่นหอมของดอกไม้ด้วยเพคะ”

ฮุ้ยเตียวพูดจบก็พยักหน้าให้ซิงเทียนไปนำชาที่เตรียมไว้มาให้ ซึ่งไม่นานเกินรอ หลังจากชุดถ้วยชาถูกนำมาวางบนโต๊ะ ฮุ้ยเตียวรีบรินให้สามีทันที ขณะยื่นจอกชาให้หนุ่มรูปงาม นางได้ชม้อยชายตาไปด้วย นำความหมั่นไส้มาให้นกเหมยเหมยมาก องค์รัชทายาทหยิบจอกชาขึ้นจิบ ก่อนวางมันลง

“ทีนี้บอกข้าได้หรือยังว่าเจ้าเป็นอะไร” องค์รัชทายาทเริ่มรำคาญฮุ้ยเตียวที่ไม่ยอมตอบคำถามเขาสักที แล้วดูเหมือนว่า เขาคงไม่ได้รับคำตอบ เนื่องจากนางกำลังสนใจนกหงส์หยกที่เกาะบนบ่าตน

“นกหงส์หยกตัวนี้น่ารักจังเพคะ เสด็จพี่เลี้ยงมันตั้งแต่เมื่อไหร่เพคะ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป