บทที่ 4 Chapter 4

หลังจากเชษฐารู้ว่า เมียสุดสวาทหนีไปกับคนขับรถ ความที่รักมากย่อมเสียใจมาก ผิดหวังมากตามไปด้วย เมื่อเสียใจเกินสุดทนเชษฐาจึงไม่อยากมีชีวิตอยู่ เขาตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่อให้ตนเองพ้นจากความทุกข์ โดยไม่รู้ตัวว่า กำลังผลักอีกคนให้ตกลงไปในขุมอเวจี

ณัฐรวีไม่อาจโต้เถียงคำพูดเมฆาได้ เพราะมันคือเรื่องจริง การที่รุ่งวดีก้าวเข้ามาในครอบครัวเมฆา มีแต่สร้างความทุกข์ ความเสียใจให้กับทุกคน ทว่าหล่อนเป็นเพียงลูกสาว อายุย่างเข้ายี่สิบปี ไม่มีสิทธิ์พูดหรือตักเตือนคนเป็นแม่ได้ คนที่มีความสุขมีเพียงคนเดียวคือ รุ่งวดี

“รวีขอโทษ” คงเป็นประโยคเดียวที่พูดได้ น้ำตาณัฐรวีไหลริน แต่น้ำตาไม่อาจช่วยให้เมฆาใจอ่อนลง ตรงกันข้ามแรงโทสะยิ่งโหมกระพือ

“คำขอโทษของเธอมันน้อยไป แม่เธอทำไว้กับครอบครัวฉันมากนัก มากจนฉันอยากฆ่าเธอกับแม่ให้ตายตามพ่อของฉัน”

ข้อนี้ณัฐรวีรู้แก่ใจเช่นกัน หล่อนเองก็ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่มันเกิดขึ้นแล้ว และแก้ไขอะไรไม่ได้

“พี่เมฆ รวีขอโทษ” ณัฐรวีกล่าวคำขอโทษซ้ำๆ น้ำตาแห่งความเสียใจไหลริน ไม่ใช่ว่าหล่อนจะไม่เสียใจกับการจากไปของเชษฐา ณัฐรวีเสียใจมาก ในบ้านหลังนี้จะมีเพียงเชษฐาคนเดียวที่ให้ความเมตตา ให้ความเอ็นดูและรักตนไม่ต่างกับลูก ณัฐรวีมีชีวิตสุขสบายในบ้านหลังนี้ ใครว่าหรือดุด่า เชษฐาจะออกรับแทน ข้าวของเครื่องใช้ไม่ต้องพูดถึง เชษฐาซื้อเสื้อผ้าและของใช้อื่นๆ ให้แทบทุกวัน จนเสื้อผ้าล้นตู้

เรื่องการศึกษาเชษฐาก็ให้ณัฐรวีเรียนที่เดียวกับแก้วตา หญิงสาวในอุปการะ ความที่เชษฐารักและเอ็นดูณัฐรวีไม่ต่างกับลูกในไส้ ทำให้คนในบ้านไม่ชอบหน้าณัฐรวีไปโดยปริยาย โดยเฉพาะเมฆาที่มักหาเรื่องกลั่นแกล้งณัฐรวีเนืองๆ แถมยังขู่ไม่ให้อีกฝ่ายคาบเรื่องนี้ไปบอกเชษฐา เวลานี้ไม่มีเชษฐา ณัฐรวีก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นเช่นไร

“ต่อไปนี้เธอไม่ต้องเรียกฉันว่าพี่ ฉันสะอิดสะเอียนกับคำนี้มานานแล้ว ได้ยินแล้วอยากอ้วก อีกอย่างฉันไม่มีน้องสาวที่มีแม่เป็นนังแพศยา” เสียงเขาเข้มห้วน หน้าตาถมึงทึง “ถึงเวลาที่เธอต้องชดใช้เรื่องที่แม่เธอทำไว้กับครอบครัวฉันแล้ว พ่อฉันตายเพราะแม่เธอ เธอก็ต้องตายทั้งเป็นด้วยมือของฉัน แควก...แควก”

เมฆากระชากสาบชุดนอนลายโดราเอมอนสุดแรง กระดุมชุดนอนกระเด็นละทิศละทาง ทันทีที่สาบเสื้อแยกออกจากกัน ดอกอุบลสองดอกไร้สิ่งห่อหุ้มก็เปิดเผยต่อสายตาเมฆา ที่ไม่ได้มองเห็นว่า ภาพตรงหน้าสวยงาม ความโกรธ แรงโทสะบดบังสติและความผิดชอบชั่วดี

“พี่เมฆอย่าทำอะไรรวีเลยนะคะ รวีขอโทษแทนแม่ด้วย”

ณัฐรวีตื่นตระหนกตกใจเต็มที่ ด้วยวัยสิบเก้าปีทำไมจะไม่รู้ว่า เมฆาหมายทำสิ่งใด หล่อนจึงดิ้นไม่หยุด มือทั้งสองข้างทุบไปตามลำตัวเขา แต่ดูเหมือนว่าร่างกายเขาประดุจหิน ทุบเท่าไหร่ไม่รู้สึกเจ็บ มิหนำซ้ำยังมีความโกรธเพิ่มขึ้นด้วย

“แม่เธอชอบเป็นเมียน้อย เธอเองก็คงได้เลือดแม่มาเยอะ เป็นนางบำเรอฉันหน่อยเป็นไง ครบสูตรเลย แม่ได้พ่อ ส่วนฉันก็ได้เธอ” เสียงเขาดูน่ากลัว หล่อนกลัวและตกใจมากขึ้นกับตำแหน่งที่เขากำลังมอบให้ “เธอต้องชดใช้กรรมแทนแม่เธอ”

ณัฐรวีไม่อาจดิ้นรนต่อสู้ร่างหนาได้ แม้แต่เสียงยังไม่ลอดผ่านปากหล่อน เป็นเพราะเขานำเศษเสื้อผ้ายัดเข้าไปในปากหล่อน ไม่ให้มีเสียงใดรบกวนใจ

เมฆาไม่ได้กักเสียงณัฐรวีเพียงอย่างเดียว เขายังใช้เข็มขัดรัดข้อมือทั้งสองข้างของหล่อนไว้กันไม่ให้ทุบตีร่างตน เพราะหากเขาเจ็บตัวมากๆ อาจทนไม่ไหว ตอบกลับไปด้วยการตบหรือทำร้ายร่างกายหล่อน แค่ที่เขากำลังจะทำมันก็มากพอแล้ว

“เธอต้องเจ็บปวดมากกว่าแม่ของฉัน มากกว่าฉัน เจ็บแทนแม่เธอ” เมฆาตะคอกใส่หน้าณัฐรวีที่ตอนนี้น้ำตาไหลพราก พยายามเปล่งเสียงทว่าเสื้อที่อุดปากไว้ไม่อาจทำให้เสียงลอดผ่าน ไม่เพียงแค่คำพูด เขายังขยำทรวงอกสล้างที่ไร้ชายใดแตะต้องอย่างแรง เนื้อดอกบัวปลิ้นตามร่องนิ้ว ปรากฏรอยฝ่ามือหนาไปทั่ว “เธอต้องเจ็บมากกว่านี้”

เมฆาเห็นก้อนเนื้อสองก้อนตรงหน้าเป็นผลชมพู่ เขากัดยอดถันไม่แรงมาก แต่ดูดดึงเข้าปากแรงๆ จนปานสีอ่อนหายเข้าไปในปากได้รูป เมฆาทำซ้ำๆ สลับกันทั้งซ้ายขวา มอบความเจ็บปวดให้สาวน้อยวัยละอ่อนไร้ประสบการณ์

เขาทำสำเร็จ ณัฐรวีเจ็บทรวงอกมาก ความรู้สึกที่ได้รับระบายเป็นน้ำตา ส่วนเสียงยังคงถูกสะกดไว้ในลำคอ เสียงที่ดังคือเสียงอือๆ อาๆ ไม่เป็นภาษา เป็นเสียงแห่งความร้าวระบม หากเสียงนี้ถูกเปล่งออกมาได้ เมฆาจะได้ยินเสียงขอร้องอ้อนวอนจากณัฐรวีที่ร้องขอความเห็นใจ มือทั้งสองข้างก็ไร้อิสระเกินกว่าจะปกป้องตัวเอง ท่อนล่างถูกร่างใหญ่คร่อมไว้ หล่อนสูญสิ้นอิสรภาพอย่างสิ้นเชิง

ชายหนุ่มที่ตกอยู่ในอารมณ์โกรธ ไม่สนใจการดิ้นรน ไม่สนใจเสียงที่อื้ออึงในลำคอณัฐรวี เขาสนใจเพียงให้หล่อนเจ็บปวด ณัฐรวีต้องปวดร้าวทั้งร่างกายและจิตใจ ทั้งปากและมือของเมฆากระทำต่อร่างบอบบางด้วยความรุนแรง เนื้อตัวหล่อนชอกช้ำทั้งกาย ณัฐรวีพยายามดิ้นรนหนี ดิ้นจนเหนื่อยแต่ก็ยังไม่ได้รับอิสระ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป