บทที่ 5 Chapter 5
น้ำหนักในการอ้าอมเม็ดเชอรี่ลดลง เมฆาไล้เลียช้าๆ ตวัดลิ้นไปมา ก่อนดูดกลืนเข้าไปในปากเบาๆ มือใหญ่ผ่อนแรงขยำทรวงอกสาวเป็นคลึงเคล้น ทักทายยอดถันสีหวานด้วยปลายนิ้วหมุนไปมา ไม่ใช่ว่าเมฆาจะใจอ่อน แต่เขาต้องการให้ณัฐรวีพร้อมสำหรับการลงทัณฑ์ หากนำตัวตนของเขาเข้าไปในร่างกายหล่อนในสภาวะยังไม่พร้อม เขาก็จะเจ็บปวดไปด้วย อีกทั้งเมฆายังต้องการให้ตนพร้อมมากกว่านี้ ให้เมฆาน้อยลุกโชนให้เต็มที่ เพื่อปฏิบัติการแก้แค้นเอาคืนจะได้สนุกตามต้องการ
เมฆาไม่ได้อ่อนโยนเพียงแค่ส่วนบน ส่วนล่างเขาก็กำลังทำให้หล่อนรู้สึกบ้าคลั่งในพายุอารมณ์ ชายหนุ่มขยับตัวที่คร่อมร่างเล็กมาตะแคงกายข้างหล่อน ทันทีที่ณัฐรวีรู้ว่า เขาขยับตัวออกจากร่างตน หล่อนใช้ความพยายามอีกครั้งที่จะให้ต้นได้รับอิสระ
“อย่าดิ้น อย่าขัดขืน เธอต้องยอมฉัน ไม่งั้นฉันจะตามล่าแม่เธอ พอได้ตัวฉันจะฆ่าแม่เธอ แล้วเอาศพไปทิ้งในป่า ให้เป็นอาหารสัตว์เดรัจฉาน พวกเดียวกันคงกินกันอร่อย”
เมฆาเริ่มรำคาญอาการดิ้นรนของณัฐรวี เขาจึงข่มขู่เพื่อให้หล่อนสมยอม แล้วดูเหมือนได้ผล ร่างกึ่งเปลือยสงบลง หยุดดิ้น หลุบตามองเมฆา น้ำตาไหลเป็นทาง เขาขู่อย่างนี้มีหรือณัฐรวีจะไม่ยอม แม้ว่ามารดาตนเป็นคนไม่ดี ถูกตราหน้าว่าหญิงแพศยา ทว่ารุ่งรดีก็เป็นแม่ แม่ที่ตนต้องกตัญญู
“พูดง่ายๆ อย่างนี้จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว” สิ้นเสียงใหญ่กางเกงนอนลายการ์ตูนก็ถูกดึงให้พ้นเอวคอดกิ่ว ก่อนที่เขาใช้ปลายเท้าดึงมันให้หลุดออกจากเรียวขาสวย ท่อนล่างหล่อนไร้อาภรณ์ เขาจึงเริ่มทำตามอำเภอใจ
เมฆาวางนิ้วลงบนเกสรเม็ดน้อยที่ซ่อนตัวอยู่ในกลีบดอกไม้ เขากระตุ้นอารมณ์หล่อนด้วยการสะกิดจุดกระสันเบาๆ ก่อนเพิ่มน้ำหนักเป็นบดบี้ ในขณะที่ปากหนายังคงเชยชมดอกอุบลสองดอกอย่างเพลิดเพลิน ในห้วงความคิดส่วนดี หากสาวใต้ร่างไม่ใช่ลูกสาวคนที่เขาเกลียดชังและทำให้บิดาเสียชีวิต เขาคงอ่อนโยนและหลงใหลเรือนร่างสาวสวยงามไม่น้อย เมฆารีบปัดความคิดส่วนดีออกไปจากสมอง แทนที่ด้วยแรงโทสะโหมไหม้ใจ
ความเจ็บปวดเริ่มทุเลา ณัฐรวีรู้สึกถึงกระแสสวาทไหลเวียนในกาย ช่องท้องเสมือนมีพายุก่อตัว เป็นพายุความร้อนวูบวาบแผ่กระจายไปทั้งกาย ภายในกล้ามเนื้อสาวเต้นระริก ราวกับกำลังตื่นเต้นกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่กำลังบังเกิด
ณัฐรวีไม่รู้เลยว่า เมฆาต้องการให้ตนผ่อนคลายความเจ็บปวด เขากำลังให้หล่อนตายใจ ให้คิดว่า เขาไม่ทำรุนแรง หล่อนคิดผิด ความเจ็บปวดหลายเท่ากำลังเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
เมฆาสัมผัสน้ำเสน่หาที่ไหลออกจากพวงกุหลาบ นั่นหมายความว่า หล่อนมีความพร้อมขึ้นมาระดับหนึ่ง ทว่าเขากลับยังไม่พร้อมเท่าไหร่นัก ความเป็นเอกบุรุษตื่นตัวเพียงครึ่งหนึ่ง เขาจึงต้องหาตัวช่วยให้มันลุกเต็มที่
เมฆาก้าวลงมายืนข้างเตียง จัดการถอดเสื้อผ้าของตนออกหมดทุกชิ้น ก้าวขึ้นไปบนเตียงคร่อมช่วงทรวงอกณัฐวดี มือใหญ่ดึงเศษผ้าที่ยัดในปากหล่อนออก ขยับตัวไปใกล้อีกนิด จดจ่อแก่นกายชายตรงริมฝีปากบาง
“อ้าปาก ทำให้มันลุก” ณัฐวดีตัวสั่น หัวใจเต้นถี่แรง มองความเป็นตัวตนชายที่แม้ว่ายังไม่เติบใหญ่เต็มที่ แต่ก็พอคาดเดาได้ว่า หากโตเต็มวัยขนาดของมันจะใหญ่เท่ากับข้อมือของตน สาวน้อยไร้เดียงสาเรื่องเกมกามลอบกลืนน้ำลายลงคอ ความกลัวแน่นจิตใจ “อ้าปาก”
เมฆาสั่งอีกรอบ น้ำเสียงที่ตะเบ็งออกมาทำให้สาวสวยหวาดกลัว และทำตามคำสั่ง ค่อยๆ อ้าปากทีละน้อย ราวกับว่าเขาไม่ได้ดังใจที่เห็นความเชื่องช้าของณัฐวดี เมฆาดันกายแกร่งที่ผงาดเพียงครึ่งหนึ่งเข้าไปในโพรงปากสาวพรวดเดียว ดันไปจนถึงคอหอยสาวก็ว่าได้ ณัฐรวีสำลักจนหน้าดำหน้าแดง ทำท่าจะอาเจียนออกมา
“เสือกอ้าปากช้าเอง ช่วยไม่ได้” เมฆากล่าวคำไม่สุภาพ ยิ้มเยาะสะใจ “อ้าปากค้างไว้ อย่าหุบปาก แล้วก็อย่ากัดของฉันด้วย”
เป็นคำสั่งที่ณัฐวดีต้องปฏิบัติตาม เพราะเกรงว่าหากขัดคำสั่ง เขาจะทำตามคำขู่ เมฆาได้ทีขยับแก่นกายใหญ่เข้าออกปากนุ่มนิ่มที่มีความอุ่นร้อน ความเชื่องช้าในนาทีแรก เพิ่มความเร็วและแรงในเวลาต่อมา ณัฐวดีเป็นฝ่ายตั้งรับ หน้ายิ่งแดงมากขึ้น อาการสำลักจากการกระแทกความเป็นชายมาควบคู่ ทว่าหล่อนก็ต้องทน ทนทุกอย่าง ทุกการกระทำของเมฆา
เมฆารู้สึกร้อนไปทั่วตัว ความกระสันที่มาพร้อมกับอารมณ์เสน่หาไหลเวียนทั่วกาย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรที่เห็นหน้าตาทรมานของสาวใต้ร่าง เขารู้สึกพอใจด้วยซ้ำไป
“เลียมันสิ” เขาดึงท่อนเอ็นใหญ่ที่เวลานี้ผองขยายเต็มอัตราศึกออกมาจากปากสาว นำมาตีปากหล่อนเบาๆ หลายครั้ง ประหนึ่งย้ำบอกให้ทำตาม “ฉันบอกให้เลียไง”
ลิ้นเล็กค่อยๆ ยื่นออกมาจากปากณัฐรวี เพราะรู้ดีว่า ไม่อาจขัดคำสั่งเขาได้ ทว่าความไม่เป็นงาน ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ ส่งผลให้ณัฐรวีเกิดความประหม่า ไม่กล้าทำเท่าไหร่นัก
“ใช้ลิ้นเลียมันสิ มันรออยู่ตรงปากเธอแล้วไง เลียไปรอบๆ เหมือนเธอดูดไอติมไงล่ะ แล้วอมๆ ดูดๆ” เมฆาสั่ง หล่อนทำตาม ลิ้นเล็กไล้วนไปรอบๆ ส่วนโคน ทำตามที่เมฆาบอกทุกอย่าง เริ่มต้นไล้เลีย ก่อนจะดูดเม้มส่วนปลาย อ้าอมเข้าปาก ขยับเข้าออกโดยมีเขาคอยช่วยเรื่องจังหวะ “อย่างนั้นแหละ...ดี”
