บทที่ 3 ลอบทำร้าย
“ย้ากกก.....” หญิงสาวอีกคนที่หลุดจากอาการตกตะลึง เธอไม่ประมาทคู่ต่อสู้แล้ว เธอรุกหน้ากระหน่ำบุกใส่อนาสตาเซียที่ตั้งรับได้อย่างทันท่วงที การต่อสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่ง ดำเนินต่อไป
“ควับบบบ....” ลูส ลูเธอร์ที่ยังต้องรับกับห้ารุมหนึ่ง แต่ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ และเมื่อฝ่ายเยอะกว่าเห็นว่าหนึ่งต่อหนึ่งฝ่ายตนกำลังเสียเปรียบจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นสามรุมหนึ่ง ไล่ต้อนอนาสตาเซียและลูส มายืนหลังชนกัน ทำให้อนาสตาเซียดูจะตัวเล็กมากไปเลยเมื่อลูสยืนระวังหลังให้เธอ เสียงลมหายใจของทั้งสองดังถี่เร็วขึ้น เมื่อต้องออกแรงกันมาสักพัก
“คุณไหวมั้ย?” ลูสเอ่ยถามหญิงสาว ที่ถึงแม้เขาจะเห็นว่าเธอก็พอตัว แต่เขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“มันมีทางเลือกอื่นด้วยเหรอ...” อนาสตาเซียตอบกลับ ด้วยสองมือตั้งการ์ดเตรียมออกแรงต่อ ที่ตอนนี้เหลือเพียงห้าคนที่ล้อมพวกเธอไว้ ทั้งห้าเดินเป็นวงกลม ลมหายใจถี่เร็วแรงไม่ต่างกัน เมื่ออีกหนึ่งคนอาการสาหัสจากฝีมือลูสก่อนหน้านี้จนลุกไม่ไหว แต่.... ปึก!!!!
“อ๊ากกกกก...ฟุบ!...” หนึ่งในห้าที่โชคร้ายล้มลง เมื่อเสียงปืนที่ยิงมาโดยมีที่เก็บเสียงเจาะทะลุจุดตายตรงหัวใจ
“นาย…” เสียงชายคนหนึ่งเอ่ยกับลูส พร้อมกับพวกที่ตามมาอีกนับสิบเข้ารุมจัดการอีกสี่คนที่เหลืออย่างรวดเร็ว กว่าสิบนาทีที่เวลาผ่านไปเจ็ดคนที่มุ่งทำร้ายลูส ถูกจัดการส่วนใหญ่ถูกมัดรวมกันและลากตัวขึ้นรถตู้สีดำที่เข้ามาจอดไปอย่างรวดเร็วหนึ่งศพที่ไม่มีลมหายใจก็ถูกหามขึ้นรถไปเช่นกัน และทุกคนสลายตัวไปเหลือเพียงลูสกับคนที่ลั่นไกดับลมหายใจผู้มุ่งร้าย
“ผม ลูส ลูเธอร์...” ลูส ยื่นมือออกไปหาอนาสตาเซียพร้อมแนะนำตัวเองด้วยสายตาสื่อความหมายบางอย่าง
“หมดเรื่องแล้ว ฉันไปก่อนนะ...” อนาสตาเซียเอ่ยแค่นั้น และหันหลังให้กับลูส ที่เลิกคิ้วอย่างแปลกใจในท่าทีของหญิงสาวร่างบาง เธอดูไม่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสักนิด ทั้งๆที่หน้าตาของเธอบ่งบอกอายุแค่ยี่สิบต้นๆ แต่เหตุการณ์เมื่อสักครู่ไม่ทำให้เธอหวั่นไหวสักนิด เธอคงไม่ใช่แค่หญิงสาวทั่วๆไป เพราะศิลปะการต่อสู้ของเธอ ‘ศิษย์มีครู’
“เดี๋ยวสิครับ...ผมยังไม่ได้ขอบคุณ คุณ....เอ่อ...”
“ไม่ต้อง...ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร...และอีกอย่างฉันไม่ได้เป็นคนช่วยให้คุณรอดจากพวกนั้นสักหน่อย”
“คุณจะไม่บอกชื่อคุณให้ผมได้รู้สักหน่อยเหรอครับ”
“ไม่สำคัญ!...เราคงไม่เจอกันอีก”
“แล้วถ้าผมอยากเจอคุณอีกละ...”
“แล้วถ้าฉัน ‘ไม่’ อยากเจอคุณอีกละ...”
“… ‘แปลก’ ไม่มีผู้หญิงปกติที่ไหนจะปฎิเสธผม”
“คุณ!…” อนาสตาเซียเสียงดังเล็กน้อยและเปิดดวงตากว้างขึ้น ฟันขบกัดปากล่างตัวเองไว้ “...หลงตัวเอง...” อนาสตาเซียพูดเสียงต่ำๆ และเดินจากไปไม่ลังเลหรือหันกลับมามองลูส ลูเธอร์ ที่ยิ้มมองตามร่างบางจนลับตา
“เรียบร้อยมั้ย?” ลูส เอ่ยถาม ครูก้าคนสนิท ที่เขาดึงความสนใจของเธอเพียงเพื่อให้ครูก้าแอบถ่ายภาพของเธอ และเมื่อมีรูปถ่ายแล้วเวลาไม่กี่นาทีเขาก็จะรู้ทันทีว่าเธอคือใคร?
“ได้แล้วครับนาย...” ครูก้าส่งโทรศัพท์ของตนให้ลูส ที่กำลังเดินออกจากตรอกนั้นเช่นกัน
“อนาสตาเซีย เบนเน็ต?...หรือว่าเธอคือ...”
“แก้วตาของอดัม เบนเน็ต หัวหน้ามาเฟียใหญ่แห่งฟิลาเดลเฟีย” ครูก้าต่อประโยคให้เจ้านายที่ตนรับใช้อยู่
“สมแล้ว...” ลูส เอ่ยสำทับ
เอ็ดเวิร์ด มาเยส เซนนิคอฟ
อนาสตาเซียเดินออกห่างจากสถานที่เกิดเหตุ มือเรียวเล็กรีบเปิดกระเป๋าและหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาทันที เธอส่องใบหน้าของตัวเองและก้มมองตัวเองว่าเรียบร้อยดีมั้ย ดีนะ!ที่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหน เพราะถ้าเอ็ดเวิร์ดรู้เข้าว่าเธอเอาตัวเองมาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์แบบนี้ เธอคงโดนคุมระดับแปดเป็นแน่ ที่ไปไหนมาไหนต้องมีการ์ดคุมตลอดทุกฝีก้าวใกล้ชิดแบบก้าวต่อก้าวแน่นอน “อิสระ เสรี...แอนนี่รักพวกเจ้าเหลือเกินอย่าได้หนีไปไหนเชียวนะ!!!” อนาสตาเซียบ่นพึมพำกับตัวเอง และกดโทร.ออกหาเอ็ดเวิร์ดทันที เมื่อสำรวจตัวเองไม่มีอะไรผิดปกติ
“แอนนี่...” อนาสตาเซียสะดุ้งหันหลังตามเสียงเรียก
“เอ็ดเวิร์ด...” อนาสตาเซียยิ้มและเก็บโทรศัพท์ เมื่อคนที่เธอกำลังโทร.หา ยืนอยู่ด้านหลังแล้ว เอ็ดเวิร์ดชายหนุ่มวัยยี่สิบเก้านัยน์ตาสีเทาที่มีคุณลักษณะพิเศษยามต้องแสงดวงตาของเอ็ดเวิ์ดเหมือนจะเป็นสีฟ้าหรือสีเขียวได้อย่างน่าอัศจรรย์
“ไปไหนมา?...” เอ็ดเวิร์ดตั้งคำถามพร้อมกับหลี่ตาสังเกตหญิงสาวตรงหน้า ‘พิรุธ’ เขารู้สึกแบบนั้น
“ซ้อมเสร็จเร็ว...แอนนี่โทร.หาเอ็ดเวิร์ดแล้วนะ...เลยเดินเล่นฆ่าเวลา”
