บทที่ 2 2
“ใช่” หญิงสาวรับคำหน้าเชิด แอ่นอกจนเขาอดหลุบตาลงมองไม่ได้…ให้ตายสิ นี่หน้าอกหรือแตงโม ทำไมมันใหญ่โตขนาดนั้น
“อย่าอวดนักเลย ไอ้นมที่ยัดฟองน้ำไว้จนบวม เอาแผ่นดันทรงดันไว้จนล้นน่ะ ของจริงคงมีเท่าลูกส้มเขียวหวาน”
นราพิมพ์หน้าแดงก่ำ…เขารู้ได้อย่างไรว่าเธอยัดไว้ ไหน‘ทรงภูมิ’บอกว่าลูกชายเป็นผู้ชายที่ไม่ประสีประสาเรื่องผู้หญิง แต่นี่มองเธอเพียงปราดเดียวก็รู้ว่าเธอเอาฟองน้ำยัดหน้าอก
“บะ…บ้า ของจริงนะ ไม่เชื่อก็จับดูสิ” เธอแกล้งแอ่นอกเข้าหาเขา ใจจริงแค่แกล้งหน้าด้านไว้ เพราะไม่คิดว่าเขาจะกล้าจับอกผู้หญิงตรงริมถนนหน้าบ้านหรอก และก็จริงอย่างที่เธอคาดไว้ เพราะชายหนุ่มถอยกรูด โหนกแก้มเป็นสีแดงจัด ตวาดด้วยเสียงตะกุกตะกัก
“จะบ้าเหรอไง อยู่ดีๆ ก็ท้าให้ผู้ชายจับนม”
หญิงสาวยิ้มเผล่… จับจุดอ่อนได้แล้ว ที่แท้เขาก็เป็นคนขี้อายนี่เอง
“อายหรือคะ”
“ไม่ได้อายเว้ย !” ตะคอกลั่นด้วยสีหน้าบึ้งตึง ก่อนดันไหล่บางออกห่าง ทำทีจะเดินกลับ แต่หญิงสาวไวกว่า เพราะเธออ้าปากตะโกนว่า
“คุณได้ฉันแล้วจะทิ้งฉันงั้นหรือคะ ?”
ชายหนุ่มหันขวับ จับเธอขึ้นพาดบ่า แบกพาเข้าบ้านอย่างรวดเร็วก่อนที่บรรดาชาวบ้านคนอื่นจะโผล่หัวออกมาดูสถานการณ์ ทันทีที่พาเธอมาถึงห้องโถงกว้างซึ่งจัดของไว้อย่างเป็นระเบียบแล้ว เขาก็วางเธอลงบนพื้น ตามด้วยเสียงดุที่ดังปานฟ้าผ่า
“หน้าด้าน คุณจะฉีกหน้าผมให้คนแถวนี้มองว่าผมเป็นผู้ชายห่วยแตกฟันผู้หญิงแล้วทิ้งหรือไง”
ตากลมวาววับมองสบกับเขาอย่างไม่ยอมแพ้ พร้อมโต้ดังลั่นไม่ต่างกัน
“โดนครหาว่าฟันผู้หญิงแล้วทิ้ง ยังดีกว่าโดนนินทาว่าชอบไม้ป่าเดียวกันนะคะคุณชาย”
ชาวัตน์ตาลุกวาว บดกรามกรอด คำว่า‘ไม้ป่าเดียวกัน’ ฟังแล้วแสลงหูชอบกล ถ้าเธอเป็นผู้ชาย เขาคงไม่รีรอเลยที่จะจับเธอโยนออกไปให้พ้นเขตบ้าน จะไม่ปล่อยให้ยืนหน้าสลอนอยู่แบบนี้หรอก
“คุณหมายถึงใครชอบไม้ป่าเดียวกัน”
“ฉันคุยกับใครก็คนนั้นละคะ”
“กวนประสาท” เขาว่าให้อย่างไม่เกรงใจ “คุณมาที่นี่เพราะมีจุดประสงค์อะไรกันแน่”
“ฉันถูกส่งมาเพื่อให้เป็นเมียของคุณนะคะ” เธอบอกเสียงอ้อน ดวงตาพริบพราย ขยิบปิ๊งๆ หวังขอความเห็นใจ ขณะที่เขานิ่งไปชั่วครู่ก็ดีดนิ้วเปาะ ลากเสียงในลำคอ
“อ๋อออ รู้ละ… คุณคงเป็นโสเภณีที่พ่อของผมส่งมาสินะ”
หญิงสาวหน้าแดงระเรื่อ เธอเจ็บจนจุกกับคำว่า‘โสเภณี’ แต่เธอมีสิทธิ์ปฏิเสธด้วยหรือ ในเมื่อการกระทำก็ฟ้องอยู่แล้วว่าเธอเป็นผู้หญิงอย่างที่เขาว่ามา
“ค่ะ คงเป็นแบบนั้น”
มือใหญ่จับคางเล็กให้เงยขึ้น จากนั้นก็มองหน้าเธออย่างสำรวจ ก่อนจะพูดว่า
“อืม…หน้าตาก็สวยดี”
ดวงตาคู่คมหลุบลงมองอกอวบที่พุ่งดันตัวเสื้อมา แล้วหัวเราะในลำคอ
“นมก็เป็นรูปร่างกลมกลึงดีนะ น่าเสียดายที่ยัดฟองน้ำมากไปหน่อย”
นราพิมพ์ยู่จมูก ปากยื่น อยากตบปากเขาจัง แต่ต้องห้ามใจตัวเองไว้ กระแอมในลำคอนิดหนึ่ง แล้วทำท่าไม่รู้ไม่ชี้เหมือนไม่ได้ยินตำหนิจากเขา
“ทรวดทรงองค์เอว หน้าตาก็ใช้ได้อยู่หรอก แต่ผมก็ไม่มั่นใจอยู่ดี”
“ไม่มั่นใจอะไรคะ” เธอถาม และพอได้ยินคำตอบจากเขา หญิงสาวก็แทบจะเต้นผางเลยทีเดียว
“ไม่แน่ใจว่ามีโรคเอดส์แถมมาด้วยหรือเปล่าน่ะสิ”
“ฉันไม่มีโรคนะคุณชาย”
“ผมจะเชื่อมั่นได้ไง ผู้หญิงที่ผ่านผู้ชายมาเป็นร้อยเป็นพันอย่างคุณน่ะ”
“ฉันยังเวอร์จิ้น” หญิงสาวเถียงหัวชนฝา ขณะที่เขาส่ายหน้าอย่างระอาใจปนความไม่เชื่อถือ
“คิดว่าผมจะเชื่อหรือไงว่าบนโลกใบนี้จะมีโสเภณีคนไหนที่ยังบริสุทธิ์อยู่”
“ไม่เชื่อก็พิสูจน์สิคะ” เธอยิ้มพราว โอบแขนรอบคอแกร่ง ดวงตาหรี่ปรือวิบวับ “ลองดูสิว่าฉันยังซิงหรือไม่ซิง”
“ผู้หญิงกร้านโลกอย่างคุณทำผมหมดอารมณ์”
โดนเขาดูถูกเช่นนี้ มีหรือที่นราพิมพ์จะยอมแพ้ เธอหน้างอ ตาวาววับ เพราะอยากเอาชนะถ้อยคำดูถูกทำให้เธอขาดสติยั้งคิด ผลักเขาอย่างแรงจนร่างสูงเซล้มลงบนโซฟาตัวใหญ่โดยไม่ทันตั้งตัว
“เฮ้ย ! จะทำอะไร” ชายหนุ่มกระชากเสียงถาม
“ทำให้คุณมีอารมณ์ไงคะ” หญิงสาวยิ้มยั่ว ขยับขาขึ้นนั่งบนโซฟาข้างเขา กรีดปลายนิ้วไปตามแผงอกกำยำ สะกิดกระดุมออกทีละเม็ด จากเม็ดบนสุด มาเม็ดที่สอง…ที่สาม ก่อนที่เขาจะตะครุบมือเธอไว้
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ” ชายหนุ่มตะคอกด้วยเสียงอันดัง
“ทำไมให้หยุดละคะ กลัวว่าฉันจะทำให้เกิดอารมณ์หรือไง” เธอถามเสียงยวนยั่ว ดวงตาพริบพราย ก่อนจะหวีดร้องดังลั่นเมื่อโดนบีบข้อมืออย่างแรง “โอ๊ย ! คุณชาย ฉันเจ็บนะคะ”
“เจ็บซะได้ก็ดี ควรพึงสังวรไว้ซะบ้างว่าเธอเป็นแค่ผู้หญิงแปลกหน้า ฉันไม่อยากติดเอดส์จากผู้หญิงมักมากที่อ่อยผู้ชายไม่เลือกอย่างเธอ” สรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัวเริ่มเปลี่ยนไปตามอารมณ์ที่คุกรุ่น ริมฝีปากได้รูปคลี่ยิ้มเหยียดหยัน “สวยแต่รูป จูบไม่หอม”
“ปากจัด” เธอว่าใส่หน้าเขา พร้อมบิดข้อมือออก แต่มีหรือที่เขาจะปล่อยง่ายๆ นอกจากไม่ปล่อยแล้ว เขายังบีบแรงขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย “กรี๊ด ! ปล่อยนะคุณชาย”
“ฉันอยากทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำ อยากรู้ว่ามือเธอ แขนเธอ เนื้อตัวเธอ จะด้านจนไม่รู้จักเจ็บเหมือนหนังหน้าหรือเปล่า”
เหมือนโดนมือที่มองไม่เห็นตบที่แก้ม เธอหน้าแสบชาด้วยความอับอายระคนเคืองขุ่น ครั้นจะลุกออกห่างก็ลุกไม่ได้ เพราะเขารวบตัวเธอขึ้นมานั่งบนตักในสภาพที่เธอไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้เลย
“เธอเป็นโสเภณี คงเก่งเรื่องยั่วยวนผู้ชาย…พ่อฉันส่งเธอมาจริงๆ หรือ”
