บทที่ 2 แม่ตายแล้ว (2)
ส่วนทหารหนุ่มหน้าอ่อนคนนั้นที่ซินอี๋อาศัยมาด้วย เขากลัวว่าต้องรับผิดชอบเรื่องตรงหน้า เพราะเขากำลังหลบหนีพวกมีอิทธิพล เขาจึงมองหล่อนแล้วเอ่ยว่า
“อั๊ว ไม่เอาด้วยนะน้องสาว!”
พูดจบ เขาก็เร่งเครื่องแล้วขับหนีซินอี๋ไปอย่างน่าตาเฉย ฝ่ายหล่อนร้องด่าผู้ชายคนนั้น พลางทำมือทำไม้ไปด้วย ขณะเดียวกันก็สังเกตเด็กที่นอนนิ่ง พอเห็นว่าไม่มีบาดแผล เลือดไม่ออก ค่อยสบายใจได้เปลาะหนึ่ง ทว่าจะให้หล่อนปลุก หรือเรียกอะไรอย่างนั้นฝันไปเถอะ สาเหตุเป็นเพราะผู้ปกครองดูแลไม่ดี ปล่อยให้ทะเล่อทะล่าวิ่งตัดหน้ารถเช่นนี้ ไม่ตายคงพิการนั่นแหละ
ขณะที่ซินอี๋เตรียมผละจาก เด็กชายได้ยื่นมือออกมา และคว้าชายกระโปรงหล่อนไว้
“อากงเจี้ยน อากง... ปะ ไปโรงพยาบาล”
ซินอี๋รีบสะบัดชายกระโปรงตน เพื่อไม่ให้เด็กชายยื้อไว้
“เอามือสกปรกของแกออกไปนะ แล้วอย่าทำสำออย คิดจะเรียกร้องเงินใช่ไหม โถ พวกขอทานข้างถนน ทำแบบนี้จนเคยตัวสินะ”
หล่อนส่งเสียงแหวใส่ เป็นตอนนั้นที่ผู้ชายร่างสูง ก้าวเข้ามาพอดี เขามองซินอี๋ ก่อนพิจารณาร่างซ่างเปาบนพื้น โดยไม่ได้เข้าไปจับหรืออุ้มขึ้นในทันที
“หนู... เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
ซ่างเป่าปกติไม่ช่างพูดกับคนแปลกหน้า และพออยากสื่อสารกับกลายเป็นว่าเขาปล่อยโฮ สลับการร้องเรียกหาถานเจี้ยน
“ผู้ปกครองเด็กอาจอยู่แถวนี้ คุณช่วยตามหาได้ไหม ผมจะพาเด็กไปที่รถให้หมอดูอาการสักหน่อย”
ขณะที่ชายร่างสูงตัดสินใจอุ้มเด็กชาย วินาทีนั้นซ่างเป่าก็กรี๊ดเสียงน่าตกใจ
“หยุดนะ ไม่มีใครทำอะไรเธอสักหน่อย”
ซินอี๋พยายามเบี่ยงประเด็น หล่อนมั่นใจว่า ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ แล้วหากเด็กบอกว่าหล่อนนั่งมากับรถจักรยานยนต์คงไม่ใช่เรื่องดี
“เอ เมื่อครู่ ไม่ใช่ว่ามีจักรยานยนต์ชนน้องเขาหรือครับ แล้วคุณเห็นไหม”
ซินอี๋ส่ายหน้าหวือ แล้วตอบอีกฝ่าย
“ฉันไม่รู้ เดินออกมาจากซอยข้างใน เห็นเด็กนอนบนพื้นก่อนคุณประเดี๋ยวเดียว ฉันพูดจริงนะ!”
ชายหนุ่มไม่ได้เชื่อเต็มร้อย แต่เขากลัวซ่างเป่าจะได้รับอันตราย อยากพาไปให้ถึงมือหมอเพื่อตรวจร่างกาย จึงถามเด็กชาย
“บ้านอยู่แถวนี้ไหมครับ”
ซ่างเป่าเงยหน้า มองผู้ชายคนนี้ เขาดูเป็นคนใจดี ยามนั้นเด็กชายเลยรวบรวมความกล้าของตนเท่าที่มี แล้วบอกว่า
“หม่าม้าน้องตายแล้ว... ชะ ช่วยหน่อยได้ไหมฮะ พาไปหาหมอที!”
เป็นตอนนั้นที่โทนี่ต้องตกใจทีเดียว ชายหนุ่มร่างสูงเพรียวเอ่ยถามซ่างเป่า
“เอ แล้วแม่ของน้องอยู่ที่ไหนครับ”
ซ่างเป่าเม้มปากชิด ถูมือไปมา เขาบอกพี่ชายคนนี้ได้ไหม ทว่าแต่ไหนแต่ไร แม่ไม่ชอบให้พูดกับคนแปลกหน้า คุนเป่าบอกให้ตามห้าถานเจี้ยนด้วย ทว่าตอนนี้เขาเหนื่อย หิว และไม่อยากทำอะไรมากกว่านี้ เลยสูดลมหายใจลึก ก่อนเอ่ยว่า
“อยู่ชั้นสอง ตึกสีเขียว บนนั้น ผีดุมากเลย”
เมื่อเขาเอ่ยเช่นนั้น สถานการณ์ที่ชวนให้ตึงเครียดพลันผ่อนคลาย ฝ่ายโทนี่ ซึ่งเพิ่งมาประจำการกับสำนักงานทนายความ A ที่ตั้งอยู่อีกถนนฝากหนึ่ง เขากลั้นขำแทบไม่ไหว และด้วยกลัวทำสิ่งไม่เหมาะสมจึงรีบถามต่อ
“ไม่เป็นไร พี่ไม่กลัว ตอนนี้พี่ต้องไปช่วยแม่น้อง และน้องต้องหาหมอด้วย”
ซ่างเป่าที่กล้าๆ กลัวๆ พอมีคนพูดกับเขาดีๆ เลยร่าเริงขึ้น “ฉีดตูดไหม ไม่เอาน่ะ ไม่ฉีดตูด ไม่กินเม็ดขมๆ แล้วให้หม่าม้าไปโรงหมอด้วย พี่ช่วยน้องได้เปล่า”
เขาว่าและค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ยามนั้นเสื้อผ้าเปื้อนหลายแห่ง ข้อศอกถลอกเล็กน้อย ฝ่ายซินอี๋ลอบมองซ่างเป่าอย่างใคร่รู้ และหล่อนพยายามเก็บอาการสุดฤทธิ์ หากไม่วายแสร้งถาม
“ทำไมเธอไปนอนบนพื้นถนนอย่างนั้น”
ซ่างเป่ามองผู้หญิงที่ส่งเสียงแหลมๆ คล้ายนางงิ้ว และเขาไม่ชอบใจสักเท่าใด
“มีรถชนน้อง เอ๊ะ... หรือไม่ชนนะ แต่น้องเก่ง ใช้วิชาตัวเบากระโดดหลบ เลยหล่นไปบนพื้น จะ จุกมากเลย เจ็บท้อง เจ็บหัวนิดนึง”
เด็กชายว่าและจับท้องตัวเอง
“หนูเจ็บตรงนั้นหรือครับ” โทนี่ถาม
ซ่างเป่าส่ายหน้าหวือ และบอกว่า “นิดนึง... แต่หม่าม้าน้องไม่มีลมตรงนี้ออกมา เจ็บกว่าน้องเยอะ!”
เขาพูดกับโทนี่ และเอามือไปอังจมูกชายหนุ่ม ซึ่งยามนั้นโทนี่ตื่นตระหนกทีเดียว ก่อนอาสาพาเด็กชายไปหามารดา และเขาพยายามหาตัวช่วย ขณะนั้นสตรีวัยกลางคนวิ่งข้ามถนนมาด้วยอาการตกใจ สีหน้าสีตาเธอ บอกให้รู้ว่าเป็นญาติของซ่างเป่า
“เสี่ยวซ่าง...”
พอซ่างเป่าเห็นเหมยลี่จึงร้องไห้โฮ เข้าไปกอดสตรีวัยกลางคน
