บทที่ 2 ตลับขี้ผึ้ง

“เสี่ยวอวิ๋น ชอบพี่มากเพียงใด” เขาเรียกนางอย่างอ่อนหวานเสมอ

“เพราะพี่หาน คือพี่หาน... จะเป็นสามีข้า เป็นบิดาของลูก”

นางเอ่ยจบก็หลับตาพริ้ม ในขณะนั้นเขาสัมผัสเกรสฉ่ำน้ำใสๆ ของนางอย่างเบามือ อันที่จริง รั่วตงอวิ๋นอยากให้เขาส่งแรงมากกว่านี้ นั่นคือความปรารถนาที่ในหัวคิด ทว่าเขากับเพียงแค่เย้ายั่ว ก่อนปล่อยมือจากเกรสความงดงามสีชมพู จากนั้นลิ้นยาวก็ตวัดยอดถันที่ตั้งชัน สลับกันไปมาทั้งสองข้าง

เขาดูด ไล้เลีย ฝ่ายนางก็สัมผัสรูปไล้เรือนกายเขา เปี่ยมด้วยแรงสิเน่หา จิ่งเว่ยหานไม่ใช่นักบู๊ แต่เขามีเรือนกายที่สูง ไม่มีไขมันให้ดูน่าเกลียด

“พี่หาน จะเข้ามาในตัวข้าหรือไม่... สิ่งนี้ ชายหญิงทำกันในวันเข้าห้องหอ ขะ ข้า... ยินดี หากพี่ต้องการ ทว่าหลังจากนี้ พี่ต้องรับผิดชอบชีวิตของรั่วตงอวิ๋น...” นางถามเขา และคำถามดังกล่าวทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น ปากที่เชยชมร่างกายนาง และมือที่เตรียมเล่นสนุกกับเรือนกายนุ่มนิ่ม คล้ายว่าจะหยุดชะงักลง

รั่วตงอวิ๋นยามนี้ อายุเพียงสิบหกย่างสิบเจ็ดปี นับว่ายังอ่อนหัดต่อโลก เมื่อเห็นคนรักนิ่งค้าง ก็กลัวเขาจะไม่มีความสุข นางเลยกอดเขา และขยับท่อนขากลมกลึง แยกกว้างๆ เพื่อให้เขาเห็นเกรสที่อิ่มน้ำ ที่ชวนให้เขาแทรกความแข็งขันเข้าไป

รั่วตงอวิ๋นไม่คิดว่าตนจะไร้ยางอายถึงเพียงนี้ แต่ฟ้าดินย่อมรู้ แม้จิ่งเว่ยหานยังไม่แต่งนางเป็นภรรยา ทว่าสถานะตอนนี้ ไฉนจะเป็นอื่น

และอึดใจต่อมา ชายหนุ่มกลับมามีอารมณ์เช่นเดิม เขายิ้มให้นาง ก่อนเริ่มจูบที่ท่อนขา ไล่ต่ำลงไปเรื่อยๆ จนรั่วตงอวิ๋นตกใจ!

โอ้ เท้าของนางคือส่วนที่เขาพิศวาสเยี่ยงนั้นหรือ

“อ๊ะ พี่หาน... ขะ ข้ากลัวมันจะสกปรก วันนี้เดินทั้งวันเลย”

“อย่ากังวล พี่จะเป็นลูกหมา เลียให้สะอาด และดูดให้เจ้าคลายเมื่อยล้าด้วย”

นางจั๊กจี้ในคำพูดแสนสัปดน และต้องเสียวแวบ เมื่อเขาเลียกลางฝ่าเท้า ก่อนละเรงลิ้นไล้รัวๆ ปิดท้ายด้วยการใช้ปากครอบหัวนิ้วโป้งนาง เมื่อเขาดูด จึงเกิดเสียงดังราวกับเด็กทารกที่หิวโหยน้ำนมมารดา

“พะ พี่หาน!” รั่วตงอวิ๋นย่อมตกใจ อีกฝ่ายกระทำเรื่องให้นางขายหน้าแล้ว

“พอก่อนเถอะ” นางบอกเขา ทว่าร่างกายสั่นสะท้าน เสียวใช้คำนี้ย่อมถูกต้อง นางบิดตัวไปมา

เมื่อเขาปรนเปรอนางอย่างไม่รังเกียจ รั่วตงอวิ๋นจึงนวดเฟ้นหน้าอกของตน นางเคลิ้มไหว และรู้สึกว่า มีความสุขเหลือเกิน

อีกฝ่ายยังจูบ ดูด และกัดเบาๆ ที่เท้านาง กระทั่งรั่วตง

อวิ๋นครางไม่หยุด และนางอยากให้เขามอบความรักหวานชื่นให้มากกว่านี้

“ขาที่สามของพี่หาน จะเก็บไว้ให้ผู้อื่นหรืออย่างไร คืนนี้ขอให้ขาได้เล่นกับมันสักหน่อยเถิด หรือว่าพี่อาย ข้าผู้ภรรยาที่ไม่ได้ความ”

จิ่งเว่ยหานหยุดใช้ปากกับเท้านาง ตอนนั้นเขาเคลื่อนตัวขึ้นมานานบน แล้วถอดกางเกงตัวบางออก

ภาพที่รั่วตงอวิ๋นเห็นชัด ทำให้นางตกใจ

เหตุใดหนอ ถึงไม่เหมือนภาพที่นางเคยเห็นในหนังสือภาพใต้หีบสินเจ้าสาว แก่นกายของจิ่งเว่ยหาน ใหญ่ ปลายเป็นสีคล้ำตัดกับผิวของเขา เหนืออื่นใดเส้นเลือดที่ปูดพองตลอดลำ ทำให้นางกลัวขึ้นมานิดๆ

ทั้งปลายหัวมันเชิดโค้งขึ้น รูปร่างชวนให้ประหวั่นใจมิน้อย เหตุนี้กระมัง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เขาถึงไม่ได้เปิดเผยร่างกายให้นางได้เห็นมากนัก

“เสี่ยวอวิ๋น...เหตุใดถึงหน้าซีดเพียงนั้น”

“เอ่อ เมื่อคิดว่าของรักของพี่หาน ต้องเข้าไปในตัวข้า และส่งน้ำหวานออกมาด้วย ขะ ข้าก็ใจฝ่อ”

“เจ้าช่างไร้เดียงสา เช่นนี้พี่คงต้องให้เจ้าโตอีกสักหน่อย ค่อยทำรักกันอย่างลึกซึ้ง”

คำที่เขาบอกคล้ายเป็นการปฏิเสธ รั่วตงอวิ๋นจึงส่ายหน้า นางเตรียมใจไว้แล้ว และทำความสะอาดร่างกายรอเขา ขนในที่ลับเล็มเก็บจนหมด กลีบอวบอูมที่เขาเห็นว่ามีน้ำเยิ้มใสไหลอยู่นั้นก็หอมด้วยใบไม้กับดอกไม้ที่นางสกัดเป็นทั้งน้ำมัน แล้วนำมาปะพรมเอาไว้ อาหารก็เลือกกินอย่างที่ดีที่สุด ทั้งหมดเพื่อจิ่งเว่ยหาน สตรีผู้นี้อยากให้เขารักนาง และหลงใหลในเรือนกายนี้

“ข้าพร้อมทำทุกอย่าง เพราะท่านจะไปสำนักศึกษาหลายวัน ข้าคงเหงาน่าดู ให้ข้าสัมผัสร่างกายท่าน และเก็บน้ำหวานของบุรุษไว้ในตัวเถิด มันคงเป็นเรื่องที่ข้าจะระลึกถึงยามห่างพี่หาน”

“เช่นนั้น ก็ดื่มสุราอีกสักจอก เพื่อเจ้าจะไม่เครียด และร่างกายผ่อนคลายกว่าเดิม และพี่จะใช้ขี้ผึ้งชนิดพิเศษชโลมขาที่สาม เจ้าจะได้ไม่ต้องอึดอัด เมื่อเราผสานกายเข้าด้วยกัน”

หญิงสาวหน้าแดงระเรื่อ ชายหนุ่มกล่าวเรื่องเหล่านี้ ราวกับเป็นผู้ชำนาญ

“ข้าดื่มสักสามสี่จอกก็ได้ สุรากานี้เป็นของมงคล”

นางเอ่ยอย่างนั้น เขาจึงส่งจอกสุราให้ที่เทใหม่ให้รั่วตงอวิ๋น ก่อนจะหมุนตัวไปหยิบตลับขี้ผึ้ง

ดวงตากลมโตมองตามคนรัก ทว่าไม่รู้เหตุใด นางถึงรู้สึกว่าสุราที่ดื่มมีฤทธิ์แรงกว่าเดิม จนยามนี้หนังตาไม่อาจฝืนลืมตื่นได้อีกแล้ว!

บทก่อนหน้า
บทถัดไป