บทที่ 4 ไม่ห่วงชีวิตตน
“เยี่ยงนั้นขอเวลาสักพัก ตอนนี้ให้สาวงามพวกนี้ปรนนิบัติคุณชายเสียก่อน และข้าจะรีบพาเด็กๆ ที่เหลือมาให้ครบ”
ขณะที่ลี่ชุนเตรียมก้าวจากไป คนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ และสวมหน้ากากเทพสงครามแบบครึ่งหน้าที่มีเขาทู่ๆ คำรามขึ้น ก่อนเอ่ยว่า
“เลือกคนที่รับทวนทองขนาดสองกำโผล่มาด้วย หากพวกนางไร้ความสามารถ จงอย่าพามาให้ข้าเห็นหน้า”
ลี่ชุนเข้าใจความหมายที่คนผู้นั้นกล่าว แต่สองกำโผล่ เป็นคำพูดเกินจริงหรือไม่
“ผู้น้อยจะคัดเลือกมาให้ดีที่สุดเจ้าค่ะคุณชาย เพียงแต่ นอกจากสองกำโผล่แล้ว ยังมีสิ่งใดเพิ่มเติมอีกหรือไม่”
โต้วเซ่าเหล่ยพ่นลมหายใจร้อนๆ ออกมาอย่างเบื่อหน่าย และกล่าวเสียงคล้ายกำลังกัดฟันไปด้วย
“กลีบบริสุทธิ์ต้องฉ่ำน้ำ และหวานทั้งตัว... อีกทั้งข้าไม่ชอบสตรีที่ครางเหมือนสุนัข นางต้องงามดูอ่อนต่อโลก แต่กล้าหาญพอที่จะรับทวนทองของข้า อ่อ... เอวเล็ก สะโพกผาย สองก้อนเต้าหู้มีรสหวาน หามาได้ตามนี้ ข้าจะเพิ่มรางวัลเป็นอย่างงาม”
ให้ตายเถอะ ตั้งแต่หอวสันต์เปิดทำการมาตั้งแต่รุ่นยายของลี่ชุน นี่คงเป็นครั้งแรกที่นางได้ยินการร้องขอเช่นนี้จากแขก ปกติแต่หญิงบริสุทธิ์ก็เพียงพอแล้ว เนื่องจากสถานที่นี้ นางนิยมคัดหญิงมากฝีมือ และความงามนั้นต้องเป็นอันดับหนึ่ง
“โอ้ ผู้น้อยขอถามสักเล็กน้อย สตรีที่คุณชายต้องการนั้น หากจะกล่าวไปแล้ว ก็มิต่างจากการคัดเลือกนางสนมที่มีหน้าที่รับใช้ฮ่องเต้เลยนะเจ้าคะ”
ลี่ชุนเอ่ยจบ นางก็รู้สึกได้ว่า ลำคอของตนเย็นวาบ พอใช้หางตาเหลือบมอง ก็แทบจะล้มพับ เนื่องจากมีปลายกระบี่หยกจี่อยู่ที่ลำคอนางนั้นเอง ให้ตายเถิดคนผู้นี้คงไม่ใช่แค่คุณชายเจ้าสำราญ อาจเป็นถึงลูกหลานขุนนางชั้นสูง ไม่ก็องค์ชายแห่งแคว้นเหลียง
“ทุกอย่างที่แจ้งต้องเป็นความลับ สตรีนางใดไม่ผ่านเกณฑ์ อย่าได้พาเข้ามาในห้องนี้” ลี่ชุนพยักหน้ารับ แล้วผลุนผลันออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อนางมาถึงโถงแต่งตัวของเหล่าสาวงาม ก็ต้องเหนื่อยใจหนัก สตรีที่ให้คนจัดหาไว้ ไม่เด็กเกินไป ก็อายุมากโข เป็นหญิงที่ปกติไม่ให้รับแขก เนื่องจากมีไว้สำหรับร้องรำและเล่นดนตรี พวกนางไม่งดงามเยี่ยงหญิงที่รับแขก แต่เมื่อจับแต่งตัวแล้วก็ไม่ขี้เหร่เกินไป
“ให้นางรับแขกเถอะ... มิเช่นนั้น อาจเกิดเรื่องใหญ่แน่”
หมางจูคือหญิงงามอีกคนที่ ได้รับความไว้วางใจจากลี่ชุน ให้ช่วยดูแลน้องๆ ปีนี้อีกฝ่ายอายุย่างยี่สิบหกแล้ว แต่ใบหน้ายังดูไร้เดียงสา
“เจ้าหมายถึงเสี่ยวอวิ๋นเยี่ยงนั้นหรือ... นางดื้อรั้นเพียงนั้น!”
“ก่อนหน้านี้คงใช่ แต่ตอนนี้นางดีขึ้นมาก อีกอย่างข้าเตรียมนางเพื่องานสำคัญ หากคุณชายท่านนั้นให้เงินมากพอ นางคงสบายไปหลายเดือน ไม่ต้องอวดเนื้อหนังในถึงไม้ให้คนชม”
“แต่คนติดตามคุณชาย บอกว่าต้องรับทวนทองสองกำโผล่ได้ แล้วสตรีที่ไม่เคยหลับนอนกับผู้ใด ไฉนนางจะทนทานสิ่งใหญ่โต ข้ากลัวนางจะสิ้นใจตายเสียก่อน”
หมางจูถลึงตาใส่ลี่ชุน อีกฝ่ายคงลืมไปแล้วว่า เมื่อหลายปีก่อน แม่เล้าผู้นี้ ส่งนางไปเป็นเครื่องบรรณาการพวกนอกด่าน ต้องรับนอนกับพวกที่กินกลางดินนอนกลางทราย และขนาดของพวกเขาทั้งยาวใหญ่ ตอนนั้นนางอายุเท่าใดกันสิบห้าปีเท่านั้น แต่รับศึกหนักแทบเอาชีวิตไม่รอด พอกลับมาที่หอวสันต์รัญจวนพักรักษาตัวอยู่เกือบครึ่งเดือน และสุดท้ายจึงรู้ว่า การนอนกับบุรุษที่มีขาที่สามใหญ่โต ไม่ตายแต่ก็ต้องรู้วิธีรับมือ ทั้งต้องเป็นฝ่ายควบคุมอีกฝ่าย
“อาจู เช่นนั้นก็ไปตามนางมาเถิด เฮ้อ... คืนนี้เราต้องใช้งานเสี่ยวอวิ๋นแล้วจริงๆ”
รั่วตวอวิ๋นรู้ว่าหน้าที่นางคือสิ่งใดทำให้คนผู้นั้นพึงใจ และรับเงินเขา แน่นอนนางต้องได้เงินเป็นกอบเป็นกำ และต้องมากพอที่จะสามารถพักยาวๆ หลายเดือน หรือหากเป็นไปได้ คือไถ่ตนออกจากหอวสันต์รัญจวนแห่งนี้
ก่อนที่นางจะมาถึงห้องพักชั้นบนที่มีพื้นที่กว้างขวาง นางได้รู้ว่าสาวงามหลายคนถูกไล่ตะเพิดออกไป ไม่ใช่เพียงแค่พวกนางไม่สามารถมัดใจคนผู้นั้นได้ แต่เพราะเขาเรื่องมาก และยังต้องการสตรีที่ทำให้เขาเกิดกำหนัด ทั้งต้องการหลับนอนด้วยอย่างมีความสุข และหลั่งออกมาจากไม่รู้จักพอ
ฮึ ก็แค่อุ่นเตียง และมีความสุข ไฉนต้องเรื่องมากถึงเพียงนั้น
ก่อนก้าวผ่านประตูห้องดังกล่าว หมางจูที่ไม่ใช่คนอ่อนแอ นางหอบเสื้อผ้าออกมา ร่างกายกึ่งเปลือย สีหน้าไม่สู้ดี และที่หัวไหล่มีแผลเป็นรอยฟันด้วย กระนั้นนางในมืออีกข้างหนึ่งนางมีถุงผ้าที่มีเครื่องประดับมากมายห่อไว้ พร้อมกับถุงเงินที่คะเนด้วยสายตาแล้วมันไม่น้อยเลย
“พี่จูจู สุนัขตัวไหนทำร้ายท่าน”
รั่วตงอวิ๋นเสียงดัง และนางจงใจให้คนที่อยู่ในห้องได้ยิน
“ขะ ข้าบกพร่องเอง ทำเรื่องไม่เอาไหน... เสี่ยวอวิ๋น... ทางที่ดี แกล้งเป็นลมเสีย แล้วข้าจะให้คนพาเจ้าไปให้ไกลคนผู้นั้น”
ได้ยินหมางจูบอกแผนเช่นนี้ รั่วตงอวิ๋นยิ่งสงสัย
“หากข้าทำอย่างที่พี่จูจูบอก อาจสร้างความเดือดร้อนถึงแม่เล้าลี่”
“เด็กน้อย เจ้าไม่ห่วงชีวิตตนแล้วหรือ”
“ข้าหวงแหนยิ่ง แต่เงิน... ข้าได้ข่าวว่าเขาจ่ายให้ทุกคนไม่อั้นมิใช่หรือ นี่คงไม่ใช่ว่า พี่กลัวข้าจะเอาใจคนในห้องได้ดีกว่าพี่หรอกนะ” นางว่าและดูถุงเงินกับผ้าผืนงามที่ห่อเครื่องประดับมากมาย ซึ่งหลายชิ้นนางคิดว่าคงเป็นของหายาก หรือทำโดยช่างฝีมือดี
