บทที่ 2 จิตเสน่หา

ครอบครัวทั้งสามขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับบ้าน รถเคลื่อนเข้าสู่บ้านเดี่ยวราคานับสิบล้าน ด้านหน้าเป็นสนามหญ้ามีไม้ถูกตัดแต่งเป็นรูปสัตว์ต่างๆ หินขนาดใหญ่จัดวางอย่างสวยงาม ถนนทอดยาวสู่ตัวบ้าน เมื่อรถจอดเทียบทุกคนจึงลงแล้วสาวเท้าเข้าด้านในผ่านโถงกลางขนาดใหญ่ พื้นเป็นหินอ่อนสีเทา ปีกซ้ายเป็นห้องนั่งเล่นสำหรับครอบครัวและห้องรับรองแขกยามมาเยี่ยมเยือน ปีกขวาเป็นห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว

ชั้นสองมีบันไดวนราวจับสีเหลืองทอง มีห้องราวหกห้องเพื่อรับรองยามญาติสนิทหรือเพื่อนบิดามาจากต่างประเทศเข้าพัก นิลลนาอยู่ห้องมุมสุดทางเดินเพราะไม่ชอบเสียงรบกวนสักเท่าไหร่ เธอควงแขนบิดาไว้แน่นแล้วยกยิ้ม

“พ่อคะ วันนี้นิลขอตัวไปนอนก่อนนะคะ ง่วงมากเลย”

“ไปสิลูก”

คนเป็นลูกหันมองมารดา “แม่นิลไปนอนก่อนนะคะ”

“ไปเถอะนิล พักผ่อนซะ เดี๋ยวเราต้องทำอะไรอีกมาก”

ฟังคำแม่แล้วทำเอาเธอแทบอยากกระโจนหนีเสียเดี๋ยวนี้ เพิ่งเรียนจบหมาดๆ ให้ทำงานเลยคงไม่ไหว พูดกับแม่คงไม่ได้ผลที่บ้านพ่อใหญ่สุด เธอเชื่อว่าอย่างไรเสียพ่อคงเข้าใจต่อการตัดสินใจนี้ เธอปล่อยแขนบิดาเป็นอิสระก่อนเดินขึ้นบันไดเข้าห้องตนเอง

ร่างบางล้มตัวลงนอนหยิบนิตยสารของประเทศซากวัยมาอ่าน ประเทศซึ่งไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจนัก แต่ทว่าเหตุใดมันถึงมีมนต์ขลังกับเธอนัก เพียงแค่เห็นเมืองไฮดริกยามราตรี มันช่างสวยงามจนแทบอยากเข้าไปอยู่ในสถานที่นั้น ผ่าจันทราสถานท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อ หากคู่รักใดได้ไปอธิฐานที่นั้นล้วนแต่สมหวัง พระจันทร์ดวงกลมส่องแสงนวลผ่อง เหนือหน้าผาความสูงนับร้อยเมตร แค่เพียงคิดก็ทำให้ตื่นเต้นเสียจนนอนแทบไม่หลับแล้ว

และที่สำคัญกว่านั้น กษัตริย์แห่งประเทศมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันมาหนักหนา เป็นบุรุษร่างสูงใหญ่ นัยน์ตาสีอำพัน คิ้วเข้มหนา จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหนาได้รูป ดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยว ผมสีดำสนิท เขาว่ากันว่าพระองค์ทรงหล่อเหลาจนหญิงสาวใดได้พบเห็นต่างมอบใจให้ แต่สำหรับนิลลนาเธอไม่ได้สนใจต่อตัวพระองค์เลยสักนิด แค่เพียงต้องการท่องเที่ยวในประเทศนี้เท่านั้น พรุ่งนี้เธอจะขอบิดาเพื่อเดินทางแค่ครั้งเดียวในชีวิต อยากไปมากจริงๆ ไม่รู้เพราะอะไร

เกือบเก้าโมงเช้า คนขี้เซาขยับลุกจากเตียงกว้าง อ้าปากหาวบิดกายขับไล่ความเมื่อย เอี้ยวตัวหันมองนาฬิกาหัวเตียง มือบางยกปิดปากสีหน้าตกใจ ไม่คิดว่าตนเองจะหลับยาวถึงขนาดนี้ สะบัดผ้าห่มรีบหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัว คนตัวเล็กวิ่งลงบันไดจนถึงห้องอาหาร มารดามองมาสีหน้าตำหนิ เพราะเห็นบุตรสาวกระโตกกระตากไม่เรียบร้อย

“ตื่นแล้วเหรอนิล แล้วทำไมไม่เดินลงมาดีๆ วิ่งทำไม โตแล้วนะลูก”คนเป็นแม่สอนทันที

“ขอโทษค่ะแม่ พอดีนิลรีบคิดว่าพ่อกับแม่รอ”เธอยิ้มเก้อแล้วเลื่อนเก้าอี้ไม้สักมานั่งเคียงบิดา

คนเป็นพ่อหันมองบุตรสาวแล้วยิ้ม

“ทานข้าวก่อนสิลูก พ่อจะได้คุยกับนิลเรื่องอนาคตด้วย”

นิลลนาหน้าเหี่ยวลงทันใด อนาคตอีกแล้วเหรอ ถ้าหากมีน้องสักคน หรือพี่ก็คงดีไม่น้อย พ่อแม่จะได้ไม่พากันคาดหวังในตัวเธอขนาดนี้

ข้าวต้มทะเลถูกตัดใส่จาน คนจิตตกตักใส่ปากอย่างฝืดคอ ครุ่นคิดจนลูกตากรอกไปมาเพราะไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดมาทำให้บิดามารดายินยอม ควรทำอย่างไรดี พ่อเป็นคนมีเหตุผลแต่แม่ค่อนข้างเจ้าระเบียบ แต่ถ้าพ่อยินยอมแม่จะไม่กล้าขัด ริมฝีปากบางเม้มสนิทคิ้วขมวดย่นจนวิชยุทธสังเกตเห็น

“เป็นอะไรเหรอลูก ดูขมวดคิ้วเสียยุ่งเชียว”

เมื่อเห็นพ่อเปิดทาง คนตัวเล็กวางช้อนตีหน้าเศร้าซึม เอี้ยวกายโอบกอดบิดาไว้

“พ่อคะ นิลเรียนมาตลอดชีวิตแล้วนะคะ ตอนนี้นิลอยากพัก ขอเวลาสักสองเดือนแล้วนิลค่อยหางานทำได้ไหมคะ”เธออ้อนบิดาเสียงหวาน คนเป็นแม่มองลูกแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

“จะพักอะไรตั้งสองเดือนกันนิล มันนานเกินไป อาทิตย์สองอาทิตย์ก็พอแล้ว ถ้าไม่หางานทำเดี๋ยวคนอื่นจะว่าเอาว่าเราน่ะ เกาะพ่อแม่กินรู้ไหม”คนเป็นแม่รีบสกัดเสียก่อน ไม่อยากให้ลูกเสียเวลาโดยใช้เหตุ ลูกคนอื่นจบมาต่างทำงานกันทั้งนั้น แถมหน้าที่การงานค่อนข้างดีเสียด้วย ไม่อยากให้ลูกน้อยหน้า

“จะเป็นไรไปคุณ ให้ลูกพักบ้างเถอะ เรียนจบเกียรตินิยมมานับว่าดีแล้ว”เขายิ้มด้วยความภาคภูมิใจ

“จริงเหรอคะพ่อ!”

“จริงสิ นิลอยากพักก็พักเถอะพ่อไม่ว่า”

เธอหยัดกายออกจากอ้อมแขนบิดาแววตาทอประกาย

“ถ้าอย่างนั้นนิลอยากขออีกเรื่องได้ไหมคะพ่อ”

“เรื่องอะไรเหรอลูก?”เขามองบุตรสาวสีหน้าสงสัยเต็มที่ ปกติลูกคนนี้ไม่ค่อยขออะไร เป็นเรื่องการเรียนเสียส่วนมาก

นิลลนาเม้มริมฝีปากมองแม่เห็นส่งสายตามาราวกับต้องการจับผิด จึงหันมาสบตาบิดาแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มความกล้า ก่อนผ่อนออกมาเพื่อคลายอารมณ์

“พ่อคะ นิลอยากไปเที่ยวที่ประเทศซากวัยค่ะ”เธอโพลงออกมาในที่สุด

“ไม่ได้นะ แม่ไม่ยอม!”นิราพรสวนกลับทันควัน

“พ่อคะ นิลเรียนจบแล้ว นิลแค่อยากพักผ่อน ต้องการอิสระสักครั้ง นะคะพ่อนิลสัญญาว่านิลจะกลับมาทำงานตามที่พ่อกับแม่ต้องการ”เธอพยายามอ้อนวอน

คนเป็นพ่อนิ่งเงียบครุ่นคิดสีหน้าค่อนข้างหนักใจ

“ทำไมลูกถึงอยากไปที่นั้นล่ะนิล ประเทศอื่นมีเยอะแยะ”

“เพราะที่นั้นสวยมากค่ะ แถมนักท่องเที่ยวไม่มากเท่าไหร่ มันเหมือนเราได้ไปเปิดหูเปิดตาประเทศเขาเป็นคนแรก”คนเป็นลูกตอบพร้อมรอยยิ้มระบายในหน้า

“นิลจะไปกับใครเหรอ”

นิลลนาชะงักความจริงอยากท่องเที่ยวคนเดียว ยัยเพื่อนตัวดีอย่างดาริกาไม่ชอบแพ็คกระเป๋า ติดหรูเสียอย่างนั้นคงไม่ยอมไปตกระกำลำบากมองผืนทรายใต้แสงดาวกับเธอแน่ แล้วควรทำยังไงดี

“นิลว่าจะไปกับดาค่ะพ่อ”นิลลนาโกหกคำโต

วิชยุทธคิดอีกครั้ง ด้านภรรยาเองรอคำตอบใจจดใจจ่อ เธอไม่อยากให้ลูกไปไหนไกลใจมันอดห่วงไม่ได้

“ก็ได้ลูก พ่ออนุญาต แต่พ่อให้เวลาแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้นนะ”

“ขอบคุณมากค่ะพ่อ”หญิงสาวบอกแล้วโอบกอดบิดาอีกครั้ง

“จะดีเหรอคะคุณ”นิราพรขัดขึ้น

“ปล่อยๆ ลูกไปบ้างเถอะคุณ อย่ากดดันมากเลย ปล่อยให้แกได้รับอิสระบ้าง”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป