บทที่ 4
"สามีของฉัน บอกว่าฉันจงใจจ้างคนมาชนคุณ แถมคุณยังมีหลักฐานให้เขาดูด้วย แล้วหลักฐานอยู่ไหนล่ะคะ?" เหยียนซีเน้นเสียงคำว่า 'สามี' อย่างจงใจ เธอไม่ได้เรียกเนี่ยเหยียนเซินแบบนี้มานานแล้ว วันนี้ที่ทำก็เพราะอยากให้เมียน้อยที่นั่งอยู่ตรงนั้นได้ยินให้ชัดๆ
สวี่เจียย่วนรับสัญญาณนี้ได้แน่นอน
เธอทำสีหน้าเศร้าสร้อยและน้อยเนื้อต่ำใจพลางมองไปที่เนี่ยเหยียนเซินแวบหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “ถามเหยียนเซินดูสิคะ”
“สามีขา ขอดูหน่อยได้ไหมคะ?” เหยียนซีหันไปมองเนี่ยเหยียนเซิน เรียกคำว่าสามีออกมาได้อย่างอ่อนหวานและนุ่มนวล
เสียงนั้นอ่อนหวานราวกับลูกแมวน้อยที่คลอเคลียอยู่ข้างหู ทำให้ใครฟังก็รู้สึกใจเต้นระรัว
แม้ว่าเนี่ยเหยียนเซินจะรู้ดีว่าเหยียนซีกำลังเสแสร้ง แต่ในใจก็อดหวั่นไหวไม่ได้
แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกมา หยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งจากบนโต๊ะ แล้วให้เหยียนซีดูสิ่งที่เรียกว่าบันทึก
เป็นข้อความสนทนาระหว่างคนขับรถที่ก่อเหตุชนกับบุคคลที่ใช้ชื่อว่า "คุณนายเนี่ย"
คุณนายเนี่ย:【กำจัดผู้หญิงคนนี้ซะ หนี้ทั้งหมดของนายจะถูกล้างเป็นศูนย์ แถมฉันจะให้เงินอีกล้านเป็นค่าตั้งตัว】
คนขับรถที่ก่อเรื่อง:【เธอไปมีเรื่องแค้นอะไรกับคุณนักหนา ถึงต้องทำกับเธอขนาดนี้?】
คุณนายเนี่ย:【นังคนนี้แย่งสามีฉัน ทำให้เขาจะหย่ากับฉัน ถ้าไม่ได้เอาคืนให้สาสม ฉันคงนอนตาไม่หลับไปตลอดชีวิต】
คนขับรถที่ก่อเรื่อง:【เพื่อผู้ชายคนเดียวมันไม่คุ้มหรอกนะ ผมอยากใช้หนี้ก็จริง แต่ก็อยากมีชีวิตอยู่ดีๆ เหมือนกัน】
คุณนายเนี่ย:【สามีฉันคือเนี่ยเหยียนเซิน รู้ไหมว่าถ้าฉันเสียตำแหน่งคุณนายเนี่ยไป ฉันจะสูญเสียเงินมากแค่ไหน? ขี้ขลาดอย่างนี้ ไร้ประโยชน์จริงๆ งั้นเอาใหม่ ทำให้ขาเธอพิการข้างหนึ่ง ฉันให้ล้านนึง ทำพิการทั้งสองข้าง ฉันให้สองล้าน พอเห็นผลงานแล้วฉันจะโอนเงินที่เหลือให้】
คนขับรถที่ก่อเรื่อง:【ได้! ผมทำ!】
คุณนายเนี่ย:【รูปภาพ】
คุณนายเนี่ย:【อย่าลืมลบบันทึกด้วย】
เหยียนซีอ่านจบแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า "หลักฐาน" ที่ปลอมแปลงขึ้นมาอย่างลวกๆ นี้ช่างน่าขันสิ้นดี
เมื่อเธอมองไปที่เนี่ยเหยียนเซิน เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “คนขับรถไม่ได้ลบบันทึก คงกลัวว่าคุณจะเบี้ยวหนี้ เลยอยากเก็บหลักฐานไว้”
เหยียนซี: “ไม่ใช่ฉันทำ คุณหาข้อมูลยืนยันตัวตนของเบอร์นี้ไม่ได้เหรอ?”
เนี่ยเหยียนเซินสังเกตเห็นว่าเธอไม่มีอาการหวั่นไหวหรือร้อนรนเลยสักนิด ความสงสัยจึงเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ
“เป็นบัญชีที่ไม่ได้ยืนยันตัวตน” น้ำเสียงของเขาอ่อนลงเล็กน้อย
"ตรวจสอบ IP สิคะ!" เหยียนซีเลิกคิ้วพลางมองเขาด้วยสายตาประหลาดใจ "กลลวงเด็กๆ แค่นี้ก็หลอกคุณได้แล้วเหรอ? น่าแปลกจริงๆ ที่คุณบริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ได้โดยไม่ผิดพลาด ระวังไว้นะคะ เดี๋ยวจะโดนต้มจนหมดตัว"
เนี่ยเหยียนเซินถูกคำพูดแทงใจดำจนใบหน้าร้อนผ่าว
เป็นความจริงที่เขาไม่ได้คิดให้ลึกซึ้ง พอได้หลักฐานมาปฏิกิริยาแรกของเขาก็คือความโกรธ
ในมุมมองของเขา การที่เหยียนซีจะลงมือทำเรื่องเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายแต่อย่างใด
เพราะผลประโยชน์ที่มาพร้อมกับตำแหน่งคุณนายเนี่ยนั้นมันมหาศาลเกินไป แทบจะไม่มีใครยอมปล่อยไปได้
ดังนั้น การที่เธอยอมหย่าอย่างง่ายดาย ก็เพราะเบื้องหลังคิดจะทำร้ายเจียย่วน ตรรกะนี้มันก็สมเหตุสมผลดี
“เฉิงอี๋ เรียกคนไปตรวจสอบ” เขาสั่งผู้ช่วยพิเศษเฉิง
แล้วก็อดไม่ได้ที่จะมองเหยียนซี
ผู้หญิงคนนี้ฉลาดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ถึงขนาดคิดเรื่องตรวจสอบ IP ได้ด้วย
เหยียนซีในความทรงจำของเขา เป็นผู้หญิงที่แทบจะทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่าง เธอไม่จำเป็นต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น
เขาคอยดูแลและจัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้เธอเสมอ
แต่ไม่กี่วันนี้ เธอกลับเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
"เนี่ยเหยียนเซิน สมองอันชาญฉลาดของคุณนี่ใช้ได้แค่กับเรื่องธุรกิจเท่านั้นหรือไง? พอเป็นเรื่องส่วนตัวกลับกลายเป็นเศษเหล็กไร้ค่าเลยหรือ?" เหยียนซีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉือนคม ใครเล่าจะยังคงรักษาอารมณ์ให้เยือกเย็นได้หลังจากถูกใส่ร้ายอย่างไม่เป็นธรรม “ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณผู้หญิงคนนี้พักอยู่ที่ไหน แม้แต่ข่าวที่ว่าเธอจะมาตรวจซ้ำในวันนี้ ฉันก็ได้ยินตอนที่คุณคุยโทรศัพท์เท่านั้น คุณคิดว่าตอนที่คุณไปเดินซื้อของกับฉัน ฉันแอบส่งข่าวบอกเส้นทางของเธอหรือไง?”
สวี่เจียย่วนหันขวับไปมองเหยียนซีทันที
วันนี้ที่เนี่ยเหยียนเซินไม่ได้มาอยู่เป็นเพื่อนเธอ ก็เพราะต้องไปเดินซื้อของเป็นเพื่อนเหยียนซีงั้นเหรอ?
ชัดเจนนักว่าผู้ชายคนนี้หลงรักเธอหัวปักหัวปำ!
นังเหยียนซีนั่นมีดีอะไรกัน ถึงได้ครอบครองหัวใจเขามาตั้งสองปีเต็ม?
นังแพศยาไร้ค่า!
เนี่ยเหยียนเซินพูดอะไรไม่ออก
แล้วก็ได้ยินเธอถามอีกว่า “ทำไมไม่แจ้งตำรวจล่ะคะ?”
เนี่ยเหยียนเซินอ้าปาก แต่ก็ยังคงพูดอะไรออกมาไม่ได้
เขาควรจะพูดอะไร?
จะให้เขาพูดว่า ทันทีที่เจียย่วนเอาหลักฐานออกมา เขาก็คิดแค่จะจัดการเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวอย่างนั้นเหรอ?
เขาไม่ต้องการให้เรื่องบานปลาย
ไม่ต้องการให้เหยียนซีติดคุก
ห้องผู้ป่วยตกอยู่ในความเงียบ
เหยียนซีและเนี่ยเหยียนเซินต่างจ้องมองกันเงียบๆ
ผู้หญิงที่ตอนนี้กำลังประจันหน้ากับเขาอย่างไม่ลดละคนนี้ เคยมีช่วงเวลาที่อ่อนละมุนดั่งสายน้ำในอ้อมกอดของเขา ริมฝีปากของเธอเคยแนบชิดกับเขาอย่างหวานซึ้ง
แต่ตอนนี้ ในดวงตาคู่นั้นกลับเหลือเพียงความเย็นชาและเย้ยหยัน
จนกระทั่งสวี่เจียย่วนเอ่ยปากขึ้น “เหยียนเซิน วันนี้พอแค่นี้เถอะค่ะ”
แต่เหยียนซีกลับไม่ต้องการให้มันจบลงแค่นี้
เธอเดินไปตรงหน้าและมองลงมาที่สวี่เจียย่วน “คุณไม่คิดว่าควรจะขอโทษฉันเหรอคะ?”
เนี่ยเหยียนเซินเดินเข้ามาขวางเธอ “เจียย่วนเป็นคนเจ็บ”
เหยียนซีปัดเขาออกไป ไม่ยอมลดละ “เรื่องที่คุณยั่วสามีฉัน ทำให้เขาต้องหย่ากับฉัน ฉันไม่ถือสา เพราะเราคุยกันจบไปแล้ว แต่การที่คุณได้หลักฐานที่เรียกว่าหลักฐานมาหน่อยเดียวก็กล่าวหาว่าเป็นฝีมือฉัน ไม่ควรจะขอโทษฉันเหรอคะ?”
“บันทึกแชตแบบนี้ ฉันใช้บัญชีอื่นสร้างบทละครแบบนี้ได้เป็นร้อยๆ ครั้ง นอกจากนี้คุณก็ไม่มีหลักฐานอะไรอีกแล้ว ยังกล้ามาโวยวายต่อหน้าฉันอีก ใครให้ความกล้าคุณมา?”
“เหยียนซี!” เนี่ยเหยียนเซินเห็นเธอพูดยิ่งมายิ่งเกินเลย จึงตะโกนห้ามไม่ให้เธอพูดต่อ
สวี่เจียย่วนถูกด่าจนน้ำตาไหล “ฉันเปล่านะคะ ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ”
“ขอโทษค่ะ...” เธอสะอื้น “ฉันแค่เห็นบันทึกแชต ก็เลยคิดไปว่า...”
“คุณคิดว่าเหรอคะ?”เหยียนซีย้อนถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น "คุณคิดว่าฉันจ้างคนไปชนคุณงั้นเหรอ? แต่ฉันกลับคิดว่าเป็นคุณต่างหากที่ทนไม่ได้ที่สามีฉันมาเดินห้างกับฉัน เลยจัดฉากอุบัติเหตุชนตัวเองซะงั้น"
สวี่เจียย่วนรีบปฏิเสธ “ฉันจะทำแบบนั้นได้ยังไงคะ?”
เนี่ยเหยียนเซินเตือนว่า “เจียย่วนมีหลักฐานถึงได้คาดเดาแบบนั้น แต่คุณไม่มีหลักฐานอะไรเลย มีสิทธิ์อะไรไปพูดถึงเธอแบบนั้น?”
เหยียนซีหัวเราะเบาๆ อย่างไม่ยี่หระ ราวกับทุกอย่างเป็นเรื่องไร้สาระ "ฉันก็แค่พูดเล่นๆ เดาสุ่มไปงั้นเอง ทำไมคุณถึงต้องฉุนเฉียวขนาดนี้ด้วยล่ะคะ?"
เนี่ยเหยียนเซินหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดน้ำตาให้คนในดวงใจอย่างอ่อนโยน “ผมเข้าใจ คุณไม่ชอบเจียย่วน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องพูดจาเหลวไหล!”
สวี่เจียย่วนจับมือเขาไว้แล้วส่ายหน้าเบาๆ ทำท่าทางดื้อรั้นและอดทน
หัวใจของเหยียนซีกระตุกวูบอย่างรุนแรงอีกครั้ง
แต่ใบหน้าของเธอยังคงมีรอยยิ้ม “เธอสาดโคลนใส่ฉันได้ แต่พอฉันสาดโคลนใส่เธอบ้างกลับเป็นเรื่องผิด ทำไมคุณถึงได้สองมาตรฐานขนาดนี้ล่ะคะ? ฉันว่าเธอคุณก็โกรธ แต่ตอนที่เธอว่าฉัน ทำไมคุณถึงไม่ยอมเชื่อฉันบ้างล่ะ?”
มือของเนี่ยเหยียนเซินหยุดชะงัก
เขามองไปที่เหยียนซีโดยไม่รู้ตัว
รู้สึกเหมือนได้ยินความน้อยเนื้อต่ำใจจากคำพูดนั้น
แต่เมื่อเห็นเธอยิ้มอยู่ ก็คงเป็นเขาที่คิดมากไปเอง
แต่แล้วเธอก็เรียกชื่อเขาอีกครั้ง “เนี่ยเหยียนเซิน”
น้ำเสียงนั้นหนักอึ้ง ถ้าฟังดีๆ จะมีเสียงขึ้นจมูกเล็กน้อย
เหมือนเสียงคนจะร้องไห้ “ตอนนี้ วินาทีนี้ คุณคือสามีของฉัน”
ศักดิ์ศรี ความทระนง และความภาคภูมิใจในตัวเอง เป็นสิ่งที่ค้ำจุนให้เหยียนซีก้าวผ่านวันนี้ไปได้
การที่ต้องมาเห็นสามีของตัวเองอยู่ต่อหน้าผู้หญิงคนอื่น เธอเคยรักเขามาก่อนนะ เธอก็เจ็บเป็น เสียใจเป็นเหมือนกัน
“ขอโทษค่ะ” สวี่เจียย่วนเอ่ยปากขึ้น “คุณเหยียน วันนี้เป็นเรื่องที่ฉันกับเหยียนเซินไม่ได้ตรวจสอบให้ดีก่อน ทำให้คุณต้องเดือดร้อน คุณอย่าไปถือสาเขาเลยนะคะ เขาเป็นผู้ชาย ก็ต้องรักษาหน้ากันบ้าง ฉันขอโทษแทนเขาเองค่ะ”
“ขอโทษแทนเขา?” เหยียนซีรู้สึกขบขันกับวิธีการแสดงความเป็นเจ้าของที่แสนจะไร้ระดับนี้ “คุณเป็นอะไรกับเขากันแน่ ถึงมาขอโทษแทนเขา”
“พวกคุณอย่าทะเลาะกันเพราะฉันอีกเลยนะคะ ขอโทษค่ะ”
“คุณก็รู้ว่าเราเป็นแบบนี้ก็เพราะคุณ!”
เนี่ยเหยียนเซินทนฟังการปะทะคารมนี้ต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว เขาจึงคว้าข้อมือเหยียนซีและพาเธอออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
เพียงแต่ครั้งนี้ เขาไม่ได้ใช้แรงมากเท่าตอนที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า
