บทที่ 9 บทที่3.ผู้ชายที่มาพร้อมกับสายฝน 3
เสียงเรียกเข้ายังดังไม่หยุด เซดริกชะโงกหน้ามองหน้าจอที่กะพริบถี่ๆ เขาบ่นพึม “เบอร์ใครวะ?”
งานกองสุ่มหัวจนทำไม่ทันก็พี่ชายสุดหล่อหนีไปพักร้อน...เขาเลยต้องอยู่โยงเฝ้าเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์คนเดียว จริงสิ!! ตั้งแต่เมื่อวานช่วงหัวค่ำ จนกระทั่งถึงตอนนี้...เขายังไม่สามารถติดต่อแวซ็องได้สักครั้ง ไอ้หมอนั่นคงไม่ได้นอนเพลินจนลืมตื่นและนิสัยแอคทีฟอย่างพี่ชายเขาไม่น่าจะนอนหลับเพลินขนาดนั้น
ชายหนุ่มตงิดๆ เขาตัดสินใจกดรับสายหลังจากปล่อยให้มันดังอยู่นาน
“ไอ้หอกหัก! กว่าจะรับได้ โทร. กลับมาด้วยกูไม่มีตัง”
เสียงแวซ็องโวยดังลั่น!! เซดริกกำลังจะถามอีกฝ่ายก็ชิงวางสายเสียก่อนแล้ว
เสียงสัญญาณดังตูดๆ อาจจะเป็นเพราะเงินในโทรศัพท์อาจจะหมด
เกิดอะไรขึ้นล่ะ?
แม้จะยังงงๆ แต่เซดริกก็รีบกดต่อสาย
พร้อมกับรีบถาม เมื่อเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแวซ็อง?
“เฮ! พี่ชายนายเปลี่ยนเบอร์ทำไม? ฉันพยายามติดต่อนายแต่ไม่มีคนรับสายเลย”
“เอาเรื่องไหนก่อนดีล่ะ มันเกิดขึ้นเยอะจนฉันเองยังมึน”
แวซ็องทรุดนั่งบนเก้าอี้ข้างทาง จุดจอดรถโดยสารประจำทาง เขากวาดตามองรอบตัว เมื่อไม่คนรู้จักไม่มีใครสนใจเลยเริ่มต้นคุยกับเซดริกได้อย่างสบายใจขึ้น
“เล่ามาเลยพี่...ฉันต้องการรู้ทุกเรื่องเลย”
คนใจร้อนกรอกเสียงตอบและรอฟังอย่างตั้งใจ
“ไอ้ดิดิเย่ร์มันส่งคนมาเก็บฉันนะสิ...ไอ้เวรตะไรนั่นหึงโหดฉิบ!”
“ไอ้ลูกหมา!”
เซดริกสบถลั่น
“ฉันหลบมันได้ แต่มันยึดรถฉันกับโทรศัพท์ไปเสียนี่...ตอนนี้ฉันเลยตกอับไม่มีเงินสักบาท”
แวซ็องพูดเพลียๆ เขาไม่ได้บอกน้องชายเรื่องถูกรูดทรัพย์จากโจรกระจอกเสียอีกอย่าง มันเป็นเรื่องซวยซับซวยซ้อน
“พี่ต้องการอะไรว่ามา...เดี๋ยวฉันจัดให้”
เซดริกเกือบหัวเราะก๊ากๆ ...เขารีบย้อนถาม มโนสภาพของพี่ชายไม่ออกเลยสักนิด ชายหนุ่มมาดเท่หรูตั้งแต่หัวจรดตีน หากไม่มีเงินในกระเป๋าเท่ากับนกไร้ปีก เป็นปลาไร้ครีบหาง มันคงทำให้พี่ชายหงุดหงิดสิ้นดี
“แม่มคราวซวย...มาทีหลายซับหลายซ้อน ฉันหนีไอ้ลูกหมาดิดิเย่ร์ได้ แต่กลับถูกโจรกระจอกรูดทรัพย์ซวยมหาซวยเลยว่ะ"
เสียงบ่นยังดังไม่หยุด…ชายหนุ่มหลุดปากบอกเซดริกจนได้ เขาไม่เคยมีความลับกับน้องชายคนนี้
“เอาน่า...นึกว่าเทพีแอโฟรไดลงโทษพี่ก็แล้วกัน ต่อไปนี้คงไม่มีแล้วล่ะ พี่ก็รีบหาทางเคลียร์กับไอ้ลูกหมานั่นเร็วๆ สิ”
“ปล่อยให้มันบ้าไปก่อน...อีกสักพักมันก็จะรู้เอง”
แวซ็องพยายามเป็นพี่ที่เข้าใจน้อง เมื่อเขาเป็นหัวหอกของออกัสตัส
“เอาเงินสดใช่ไหมพี่ชายจะได้ให้คนหอบเอาไปให้สักล้านสองล้าน”
“อย่าเวอร์ว่ะ...เอาบัตรเครดิตลูกน้องแกมา ของใครก็ได้ วงเงินไม่เกินสองแสนแค่นี้ล่ะที่ฉันต้องการ”
“โว๊ะ!! อย่างพี่นี่นะจะใช้เงินแค่นั้น แล้วพี่จะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร”
“เออสิ!! ฉันจะหลบไอ้ดิดิเย่ร์ก็ต้องเนียนหน่อย”
“ไม่ม้าง!! ... ฉันว่าพี่กำลังคิดอะไรอยู่แน่?”
“ไม่มี๊!”
ตอบเสียงสูงปรี๊ดแสดงถึงพิรุธ...แค่นี้เซดริกก็จับไต๋พี่ชายได้แล้วล่ะ ไอ้ที่บอกว่าจะหลบคงมีบางอย่างเป็นแรงจูงใจและไอ้ที่สามารถรั้งพี่ชายจอมเจ้าชู้ของเขาไว้ได้ ก็น่าจะเป็น... ผู้หญิง...
“ด่วนจี๋...เลยใช่ไหมพี่ชาย บอกพิกัดมาจะส่งคนเอาไปให้”
เซดริกคงต้องส่งคนไปเฝ้าระวังภัยให้แวซ็องอีกทาง แต่คงต้องอยู่ห่างๆ เดี๋ยวไอ้หมาดิดิเย่ร์มันตามดมกลิ่นเจอ
หลังวางสายเซดริก ชายหนุ่มล้วงเงินในกระเป๋าออกมานับหลังจ่ายค่าโทรศัพท์ จ่ายค่าข้าว เขาเหลือเงินอีกพันกว่าบาท
“คงพอซื้อเสื้อยืดกับกางเกงใหม่แล้วซื้อไก่ไปฝากไอ้ดิเย่ร์มันสักตัว”
ชายหนุ่มพูดกับตัวเอง เขาเดินข้ามฝั่งตรงไปจัดการกับสิ่งที่ตัวเองคิดไว้
หอบของที่ได้มาครบกลับบ้านเช่าแสนโทรม รอให้เซดริกเอาสิ่งที่ต้องการมาให้ พ่อจะเปิดห้องสวีทนอนเสียให้ฉ่ำปอด
เงินพันกว่าๆ เขาใช้ไม่หมด เสื้อยืดตัวละ100กว่าบาท กางเกงขาสั้นก็ราคาไม่ต่างกัน กับไก่หนึ่งตัวราคา120 เหลือเงินเกินครึ่ง ชายหนุ่มได้แต่อึ้ง! ที่ผ่านมาเขาไปงมอยู่ที่ไหน ใส่สูทตัวเหยียบหมื่น กางเกงรองเท้าเข็มขัดราคาแพงพอๆ กัน กับเสื้อกางเกงที่นอนอยู่ก้นถุงราคาต่างกันลิบลับ ชนชั้นล่างมีแหล่งซื้อขายที่ถูกเหลือเชื่อ?
