บทที่ 9 ภาคนิยาย - 9

ในการอภิเษกครั้งนี้มีเพียงเว่ยเลี่ยงหรงและอู๋ไทเฮาที่ไม่ยินดีกับเฟิ่งซีอวิ๋นเท่านั้น แต่ด้วยเฟิ่งซีอวิ๋นมีฐานะเป็นท่านหญิงของราชวงศ์ อีกทั้งทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกันว่านางควรมีสถานะเป็นฮองเฮาองค์ต่อไป เว่ยเลี่ยงหรงแม้จะอยากคัดค้านสักเท่าใดก็ไม่อาจทำได้ เนื่องจากเซี่ยซูเจี๋ยเป็นเพียงหลานสาวของขุนนางบิดาของเฟิ่งซีอวิ๋นเท่านั้น ฉะนั้นการที่นางได้รับโอกาสเป็นถึงพระสนมของรัชทายาทก็นับว่าคู่ควร

เขาแค่แต่งงานกับเฟิ่งซีอวิ๋น แต่หากจะมีทายาทเขาขอมีทายาทกับเซี่ยซูเจี๋ยดีกว่านางอสรพิษอย่างเฟิ่งซีอวิ๋นนัก เขาไม่ต้องการให้สายเลือดของเขามีนิสัยชั่วช้าของนางติดตัวมา ถึงเพลานั้นหากเซี่ยซูเจี๋ยมีโอรสให้กับเขา เขาจะได้หาทางเลื่อนสถานะนางขึ้นมาเป็นพระชายารองและค่อยๆ หาทางปลดเฟิ่งซีอวิ๋นก็ยังไม่สาย

สตรีชั่วช้า นางจิ้งจอกมากเล่ห์แบบนี้เขารังเกียจที่สุด!

เฟิ่งซีอวิ๋นยื่นมือของนางเข้ามาจับกุมมือของเว่ยเลี่ยงหรง นางกล่าวเบาๆ ว่า “นี่เป็นงานแต่งที่จัดขึ้นเพื่อพระองค์กับหม่อมฉัน ฉะนั้นช่วยทำตัวดีๆ ด้วยเพคะ”

ถ้อยคำนั้นเหมือนกับจะข่มขู่เขาก็ไม่ปาน เว่ยเลี่ยงหรงจึงจำเป็นต้องจูงมือเฟิ่งซีอวิ๋นและเซี่ยซูเจี๋ยเข้าปรัมพิธีพร้อมกัน แค่เพียงเขาสัมผัสมือของ

นางจิ้งจอกผู้นี้เขาก็สัมผัสได้ถึงไออัปมงคลที่สะท้อนออกมาจากตัวนาง!

สำหรับเว่ยเลี่ยงหรงนั้นเขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พิธีการอภิเษกสมรสครั้งนี้สิ้นสุดลงเสียที ต่อไปนี้คือพิธีการส่งตัวเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเข้าห้องหอ ซึ่งเขาวางแผนเอาไว้แล้วว่าคืนนี้อย่างไรก็จะไม่เข้าหอกับนางปีศาจจิ้งจอกเฟิ่งซีอวิ๋นเด็ดขาด สตรีในดวงใจของเขามีเพียงเซี่ยซูเจี๋ย เขาจะรักนางและมี

บุตรเพียงกับนางเท่านั้น

เกี้ยวของคู่บ่าวสาวทั้งสามคนเทียบจอดสนิทหน้าตำหนักบูรพา เฉินฮองเฮาจัดการทุกอย่างจนเรียบร้อย จนแน่ใจว่าคืนนี้เว่ยเลี่ยงหรงจะไม่สามารถไปหาเซี่ยซูเจี๋ยได้อย่างแน่นอน แค่ให้นางมาเป็นพระสนมก็ถือว่าพระนางเมตตาที่สุดแล้ว เพื่อให้ราชบัลลังก์แคว้นเว่ยราบรื่นเฟิ่งซีอวิ๋นจะต้องเป็นฮองเฮาเท่านั้น

เว่ยเลี่ยงหรงจูงมือเซี่ยซูเจี๋ยหมายจะพานางเข้าไปในตำหนักบูรพา แต่ทว่ากลับถูกขันทีของพระมารดายกมือกางกั้นเอาไว้เสียก่อน

“บังอาจนัก...คืนนี้ข้าจะให้พระสนมบรรทมที่ตำหนักแห่งนี้ กล้าขวางข้ารึ?” น้ำเสียงที่ดุดันของเว่ยเลี่ยงหรงมิได้ทำให้ขันทีเฒ่าหวาดกลัวแต่อย่างใด

“ขออภัยพะยะค่ะรัชทายาท นี่คือรับสั่งของฮองเฮา สตรีในคืนนี้ที่จะเข้าหอร่วมกับพระองค์มีเพียงพระชายาเฟิ่งซีอวิ๋นเท่านั้นพะยะค่ะ” ขันทีของเฉินฮองเฮากล่าวด้วยใบหน้าเรียบเฉย ส่วนเฟิ่งซีอวิ๋นนั้นลอบยิ้มอย่างพึงพอใจ นางลอบชำเลืองมองเซี่ยซูเจี๋ยที่เริ่มเก็บความไม่พอใจเอาไม่อยู่ แต่สุดท้ายแล้วอีกฝ่ายกลับเก็บความไม่พอใจเอาไว้ภายใต้รอยยิ้มอันอ่อนโยน

เซี่ยซูเจี๋ยคลายมือออกจากเว่ยเลี่ยงหรงเบาๆ “องค์รัชทายาทประทับอยู่กับพระชายาเถิดเพคะ...”

เว่ยเลี่ยงหรงมองไป๋กงกงและเฟิ่งซีอวิ๋นด้วยสายตาเกลียดชัง เขากุมมือเซี่ยซูเจี๋ยอย่างอ่อนโยน แล้วกล่าวกับนางด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “รอข้าก่อนนะเสี่ยวเจี๋ย...”

เซี่ยซูเจี๋ยกุมมือเขาตอบ “เพคะ”

เว่ยเลี่ยงหรงปล่อยมือจากเซี่ยซูเจี๋ย ยืนส่งนางไปยังอีกตำหนักด้วยความรู้สึกเสียใจ ครั้งเมื่อเซี่ยซูเจี๋ยลับสายตาไปแล้วเขาหันมามองไป๋กงกงและเฟิ่งซีอวิ๋นด้วยสายตาขุ่นเคือง เดิมทีการเข้าห้องหอร่วมกันคราวนี้ฝ่ายเจ้าบ่าวอย่าง    เว่ยเลี่ยงหรงต้องอุ้มนางเข้าไป ทว่าเขากลับเดินเข้าไปคนเดียวเมินเฉยต่อนางที่เป็นพระชายาเอกของตำหนักนี้ เฟิ่งซีอวิ๋นสายตาปรากฏความขุ่นเคือง นางถูกเสี่ยวเฉียวประคองเข้าไปข้างในห้องหอแทน

พิธีการในห้องหอนี้คือการคล้องแขนดื่มสุรามงคลของคู่บ่าวสาว เว่ยเลี่ยงหรงหลีกเลี่ยงพิธีการนี้ เขายกจอกสุรามงคลของตนเองขึ้นดื่มอย่างรวดเร็วก่อนจะผินหน้าไปทางอื่นด้วยความเกลียดชังสตรีตรงหน้า เฟิ่งซีอวิ๋นเก็บความไม่พอใจเอาไว้ให้มากที่สุด นางยกจอกสุราขึ้นมาสูดดมกลิ่นของมันเบาๆ ก่อนจะยกดื่มขึ้นรวดเดียวจนหมดจอก

“คืนนี้ทรงอยากไปหาพี่สาวของหม่อมฉันหรือเพคะ” เฟิ่งซีอวิ๋นยกยิ้มหลังจากดื่มสุราจนหมดจอก นางมองเว่ยเลี่ยงหรงด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ในเมื่อเขาไม่ยอมเลิกผ้าคลุมหน้าของนางออก ถ้าเช่นนั้นพิธีการในคืนเข้าหอนางก็ไม่ต้องสนใจอีกต่อไปแล้ว

พรึ่บ!

เฟิ่งซีอวิ๋นเลิกผ้าคลุมใบหน้าออก เผยให้เห็นความงดงามที่ซุกซ่อนอยู่ภายใจ แต่ทว่าความงดงามนี้กลับไม่มีผลต่อเว่ยเลี่ยงหรงเลยสักนิด อย่างไรสตรีที่งดงามที่สุดสำหรับเขาคือเซี่ยซูเจี๋ยเท่านั้น เขาหันหน้าไปทางอื่นมองสิ่งอื่นอยู่เช่นนั้นก่อนจะถูกพระชายาเอกของตนกดไหล่หนาล้มลงบนเตียงนอนหลังใหญ่ จากนั้นร่างบางจึงคร่อมทับเหนือเขาเอาไว้

“สตรีน่าชัง!” เขากัดฟันต่อว่านาง “ลุกออกไปจากข้าเดี๋ยวนี้ ร่างกายข้าไม่ควรให้สตรีน่าชังเช่นเจ้ามาสัมผัส!”

เฟิ่งซีอวิ๋นยกยิ้มมุมปาก “แต่สตรีร้ายกาจน่าชังแบบข้า ก็คือพระชายาของพระองค์ ไม่ใช่สตรีต่ำศักดิ์อย่างพี่สาวข้า”

“เจ้า!” เว่ยเลี่ยงหรงใช้แรงทั้งหมดผลักนางจนกระเด็นไปอีกฝั่ง ร่างของเฟิ่งซีอวิ๋นที่ถูกผลักกระแทกกับกำแพงห้องบรรทมนั้นแน่นิ่งไป เว่ยเลี่ยงหรงเห็นร่างนางที่แน่นิ่งไปก็นึกหวั่นใจ ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ใช้ฝ่ามือโบกสะบัดตรงใบหน้านางเบาๆ แต่ทว่ากลับไร้การตอบรับใดๆ จากสตรีที่นอนแน่นิ่งตรงหน้า ชายหนุ่มจึงตัดสินใจใช้นิ้วมือของตนเองแตะสัมผัสที่จมูกของนาง

นางตายแล้ว!

การตายของเฟิ่งซีอวิ๋นท่านหญิงอันดับหนึ่งในคืนเข้าหอนับว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจและน่าหวาดกลัวในคราวเดียวกัน เว่ยฮ่องเต้สั่งให้สอบสวนอย่างละเอียดถึงสาเหตุการเสียชีวิตของพระชายาเอก จนกระทั่งหมอหลวงได้รับข้อสรุปมาว่าพระชายาเอกนั้นหัวใจวายกระทันหัน ซึ่งเป็นข้อสรุปที่ฟังดูแล้วก็ไม่อาจเป็นไปได้ แม้จะมีการสอบสวนอีกกี่ครั้งผลการชันสูตรก็ยังออกมาเช่นเดิม เช่นนี้แล้วฮ่องเต้ทั้งสองแคว้นจึงลงมติกันว่าเห็นควรทำพิธีบรรจุพระศพของพระชายาเอกในสุสานหลวงอย่างสมเกียรติที่สุด ส่วนตำแหน่งพระชายาเอกที่ว่างลงภายในคืนเดียวนั้นอู๋ไทเฮาจัดการให้แต่งตั้งเซี่ยซูเจี๋ยขึ้นมาเป็นพระชายาเอกแทนที่...และครองรักกันอย่างมีความสุขตามแบบฉบับนิยายสุขนิยม...

แต่...ถ้านางร้ายจะกลายเป็นนางเอกแทนล่ะ!

บทก่อนหน้า
บทถัดไป