บทที่ 2 ฉลอง
ตามตารางที่แม่จัดวางไว้ หลังเลิกเรียนสตาร์จะมีวิชาต่าง ๆที่ต้องไปเข้าเรียนให้ครบตามที่แม่ต้องการ โดยเจ้าตัวนั้นไม่ได้เห็นด้วยและพยายามต่อต้านร้องขอวันพักผ่อนมาหลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยได้รับความยินยอมจากแม่เลยสักครั้ง เคยทะเลาะกันถึงขนาดที่ว่าไม่คุยกันเป็นอาทิตย์มาแล้ว แต่แม่ก็งัดไม้เด็ดขึ้นมาด้วยการตัดเงิน ตัดอินเทอร์เน็ต ยึดโทรศัพท์จนสุดท้ายสตาร์ก็ต้องก้มหน้ายอมรับระบบการปกครองของแม่ต่อ แล้วใช้วิธีแอบหลบหนีคอร์สเรียน โดดเรียนโดยการอ้างว่าไปโรงพยาบาลแล้วหาซื้อใบรับรองแพทย์ปลอมมาให้ครู
“จะพาไปไหนอะ” ระหว่างที่ซ้อนท้ายอยู่บนมอเตอร์ไซค์ของแฟนหนุ่ม สตาร์ก็เอ่ยถามขึ้น
“ก็ไปฉลองไง วันนี้ที่บ้านไม่มีใครอยู่” เฟิร์สเอ่ยตอบ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฟิร์สพาสตาร์ไปนอนเล่นที่บ้านหลายครั้งที่ทั้งคู่พากันโดดเรียนไปซ่อนตัวอยู่ที่บ้านของเฟิร์ส ด้วยความที่เขาเป็นลูกชายคนเดียว บวกกับพ่อแม่ไม่ค่อยมีเวลามากนัก จึงไม่ได้มาวุ่นวายกับชีวิตของเขาเท่าไหร่ แค่บอกกว่าจะไปไหน ไปทำอะไร จะเอาเงินเท่าไหร่ ทุกอย่างก็ถือว่าจบและได้ทำตามที่ตัวเองต้องการทุกอย่าง ตอนรู้จักกับสตาร์แรก ๆ ตอนที่เธอเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง เขายังคิดเลยว่ามีด้วยหรือคนที่แม่มาวางแผนชีวิตให้ทุกอย่างแบบนั้น
“กินไรป่ะเดี๋ยวเอาขึ้นไปให้” สตาร์คุ้นเคยกับบ้านของเฟิร์สเป็นอย่างดี ด้วยเพราะมาที่นี่หลายครั้งแล้ว จนเข้านอกออกไหนทุกมุมบ้าน แต่ก็ไม่มีครั้งไหนเลยที่จะได้เจอพ่อแม่ของเฟิร์ส นั่นไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้วเพราะในความคิดของสตาร์ได้อยู่กันสองคนสิดี ไม่ต้องมีผู้ใหญ่มาวุ่นวาย
“เอาขนมอะไรก็ได้ อยากกินมาก แม่ไม่ให้กินอะไรเลย กินแต่ผักกับผลไม้ แล้วก๊อกไก่โง่ ๆ อยากแดกของมัน ๆ เออเอาน้ำอัดลมด้วยนะ ขวดใหญ่”
“โห...ขนาดนั้นเลย”
“ใช่ ร่างกายต้องการน้ำตาล”
“ได้ครับผม ขึ้นไปรอบนห้องเลย” หลังจากสั่งเฟิร์สเสร็จสตาร์ก็วิ่งขึ้นบันไดไปนอนเล่นอยู่บนเตียงของเฟิร์ส ส่วนเจ้าของบ้านก็เดินไปที่ร้านของชำใกล้ ๆ เพื่อซื้อขนมและน้ำอัดลมตามที่แฟนออกคำสั่ง ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับของกินเล่นถุงใหญ่
“สบายใจเลยนะแม่คุณ” เปิดประตูเข้ามา เห็นสตาร์นอนแหกแข้งแหกขาเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง เฟิร์สแกล้งเอ่ยปากแซว คนถูกแซวพอได้ยินก็ผุดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วมองดูขนมในถุงตาลุกวาว
“ขอหน่อยเถอะอยู่บ้านต้องเป็นผ้าพับไว้นั่งพื้นก็ต้องพับเพียง นั่งเก้าอี้ก็ต้องยืดตัวกลังตรงหุบขา เก็บมือบ้าบอคอแตกอะไรก็ไม่รู้ อึดอัดฉิบหายเลย”
“เออ ๆ เข้าใจแหละ”
“ใช่ไง มีแต่แม่กูนี่แหละที่ไม่เข้าใจ แม่งเอ้ยพูดถึงแล้วก็อารมณ์เสีย” สตาร์บ่นก่อนจะรับถุงขนมจากมือเฟิร์สไปกิน
“แล้วนี่บอกแม่จะพาไปประกวดนางแบบอะไรนั่นนี่ เมื่อไหร่นะ” เฟิร์สถามต่อ สถานะระหว่างทั้งคู่คือแฟนในแบบวัยรุ่นทั่วไป เฟิร์สไม่ได้มีอะไรพิเศษมากนัก แต่ที่สตาร์ตัดสินใจคบกับผู้ชายคนนี้ก็เพราะว่าเขาไม่เหมือนคนอื่นเฟิร์สรับฟังทุกปัญหาของเธอเสมออย่างไม่โต้แย้งและพยายามหาเหตุผลมาอธิบายว่าแม่ทำแบบนั้นทำไม แต่ก็ไม่ได้พูดจาให้ร้ายการกระทำของแม่เช่นกัน เขาเพียงแค่ฟัง และหาคำพูดมาปลอบใจให้สตาร์รู้สึกดีขึ้นทุกครั้งที่คุยกัน และนั่นก็คือสิ่งที่สตาร์ต้องการมาโดยตลอด แต่ถึงแม่ว่าทั้งคู่จะคบกันอยู่ ความสัมพันธ์ก็ต้องถูกปิดเป็นความลับ ด้วยเพราะแม่ของสตาร์ก็เหตุผลหนึ่งนอกจากนี้เธอยังเป็นบุคคลมีชื่อเสียง เป็นดาวโรงเรียน เป็นคนดังที่มีผู้ติดตามหลักแสนอีกทั้งยังต้องรักษาภาพเด็กไร้เดียงสาที่แม่สร้างขึ้นมาให้ด้วย
“โอ๊ย ไม่อยากพูดถึง” คนถูกถามหันมาตอบทั้งที่ในปากยังเต็มไปด้วยขนม
“ทำไมวะเขาก็ส่งมึงไปเรียนเดินแบบแทบเป็นแทบตายเลยนี่”
“ก็ใช่ไง กูจะเดินปกติไม่ได้แล้วเนี่ย อยู่ในบ้านก็ให้ใส่ส้นสูงให้หมนุนอยู่ได้ประสาท แล้วยิ่งแม่คาดหวังมาก ถ้ากูทำไม่ได้แม่จะยิ่งส่งกูไปเรียนหนักกว่าเดิม หรือต่อมให้ทำได้กูก็ต้องเรียนอยู่ดีกูไม่อยากทำ กูพูดกับเขาจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว กูเบื่อ บางครั้งก็คิดนะว่าอยากจะฆ่าตัวตายหนีไปเลย”
“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ”
“เออ ถ้าไม่ติดว่า....ยังอยากเจอมึงอยู่ ป่านนี้กูตายห่าไปแล้ว” เฟิร์สลุกจากเก้าอี้ไปนั่งที่ข้างคนพูด ก่อนจะโอบกอดเธออย่างทะนุถนอม คนถูกกอดวางถุงขนมลงแล้วกอดตอบอีกฝ่ายแนบแน่น
“บางทีก็คิดนะว่าอยากหนีไปไกล ๆ” อยู่ ๆ สตาร์ก็พูดขึ้นมา
“จะหนีไปไหน มึงยังทำอะไรไม่เป็นสักอย่างนอกจากเดินแบบกับทำตัวเป้นกุลสตรีเนี่ย” เฟิร์สผละตัวออกจาแฟนสาวแล้วพูดขึ้น คนถูกต่อว่าทำหน้ายู้แลบลิ้นหลอกคนพูดแล้วดึงเขาไปกอดอีกครั้ง
“ถ้าอยากจะให้มึงพาหนีนี่ต้องทำอะไรเป็นบ้างล่ะ”
“ก็...ซักผ้า ตากผ้า หุงข้าวทำกับข้าง ล้างจาน ทำงานบ้านให้ได้อะ”
“แค่นั้น?”
“ใช่ ทำได้ไหมล่ะ” เฟิร์สถามย้ำ เขาร็ดีว่าอย่างสตาร์คงไม่ได้ทำงานพวกนี้ด้วยตัวเอง เขาเองก็อยากพาเธอหนีจากกรงของแม่ไปอยู่ด้วยกัน แต่ถ้าเขาต้องไปทำงาน งานบ้านก็ควรเป็นสตาร์ที่ต้องรับผิดชอบ
“กระจอกมาก เก็บกระเป๋ารอเลย” สตาร์ตอบอย่างมั่นใจ แม้จะไม่เคยทำเลยสักครั้ง แต่เท่าที่เคยเห็นแม่บ้านทำ ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากอะไร
“เฮ้ยรอปิดเทอมเก็บตังก่อนดิ” อุสรรคใหญ่ที่สุดของการเดินทางครั้งนี้ คงเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเงิน หากมีเงินมากพอจะไปที่ไหนก็ย่อมได้ทั้งนั้น
“เก็บทำไม เฟิร์สนี่ใคร”
“แม่มึงเก็บไว้หมดไม่ใช่เหรอ ตังค์มึงอ่ะ”
“ขอดีดีมันยากมาก ก็ขโมยดิ แต่จะเรียกแบบนั้นก็ไม่ถูก เพราะนั่นมันก็เงินกู”
“เอาจริงป่ะเนี่ย” เห็นอีกฝ่ายดุจะจริงจังเหหลือเกินเฟิร์สก็ค่อนข้างจะแปลกใจ เพราะเจตนาของเขาที่พูดขึ้นมาครั้งนี้ก็แค่ต้องการจะพูดเล่นหยอกล้อกับแฟนเท่านั้น
“เออดิ กลัวหรือไง” แต่เหมือนว่าสตาร์จะไม่ได้เล่นกับเขาด้วย สีหน้าท่าทางของเธอ พร้อมจะเก็บเสื้อผ้าหนีไปซะคืนนี้ก็ไม่ปาน
