บทที่ 7 หนี

หลังจากที่ตกลงกันแล้วว่าจะหนี ทั้งสองคนก็ไม่รีรออีกต่อไปเฟิร์สรีบกลับไปที่บ้านตัวเองเพื่อเก็บข้าวของจำเป็น และตั้งใจว่าจะหลบไปที่บ้านของตากับยายที่จังหวัดตากก่อน

“มึงก็เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ กูว่าแม่มึงต้องไปหาย้อนดูกล้องแถวโรงเรียนแน่ ๆ แล้วก็คงจะตามกล้องไปเรื่อย ๆ กูไม่อยากให้พ่อแม่ต้องมาเดือดร้อนกับเราด้วย

“มึงไม่ต้องห่วงกูคิดเรื่องนี้ไว้หมดแล้ว กูเดินหลบกล้องทุกตัวที่กูรู้”

“แล้วที่มึงไม่รู้ล่ะ” เฟิร์สถามแทรกขึ้น เขาไม่ติดใจที่สตาร์อยากจะให้พาหนี แต่เขาก็ไม่ได้อยากให้พ่อแม่ของเขาที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วยต้องมาเดือดร้อน

“แล้วจะให้ทำไง” สตาร์รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังลำบากใจ ก่อนหน้านี้เธอคิดเพียงว่าเฟิร์สคือทางออกสุดท้ายของเธอ และก็คิดว่าเขาคงยินดีช่วย เพราะเธอเป็นแฟนของเขา แต่เพราะสตาร์มองง่ายเกินไป เธอเห็นเพียงปัญหาของตัวเองไม่ได้คิดถึงคนรอบข้างทั้งตัวเฟิร์สเองที่อาจจะต้องลำบากที่ถูกสิรินตามล่า ถ้าโยงไปมาแล้วตกที่เฟิร์สจริง ๆ พ่อแม่ของเฟิร์สก็อาจจะซวยไปด้วย

“ก็ไม่ต้องทำไง เก็บของแล้วจะได้ไปกัน มีเงินเท่าไหร่กูจะขับรถไป”

“รถอะไร”

“มอไซค์ดิ” เฟิร์สตอบทั้งที่มือยังคงเห็บของใส่กระเป๋า

“มึงจะขับจากนี่ไปตาก แล้วจะเอามอไซค์ไปเนี่ยนะ”

“เออ ทำไมมึงคิดว่าขึ้นรถทัวร์ไปมันตามตัวยากมากเหรอ ถ้าแม่มึงรู้เรื่องเขาก็ไปแจ้งตำรวจให้ดักจับมึงกลางทางง่าย ๆ จะเอาแบบนั้นไหม” ดูเหมือนเรื่องการหลบหนีจะไม่ได้ง่ายอย่างที่สตาร์คิดมาเสียแล้ว ทุกอย่างมันดูยุ่งยากไปหมดตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำ

“ในกระเป่ามึงมีอะไรบ้าง

“เงิน...ห้าหมื่น” สตาร์ตอบเพียงสั้น ๆ แต่ทำให้เฟิร์สหยุดชะงักและหันมามองเธอทันที

“มึงไปเอามาจากไหนเยอะขนาดนี้”

“เงินเก็บกูไง กูกดมาเมื่อเช้าตอนแม่แวะปั้ม”

“มึงขโมยเงินเขามาเยอะขนาดนี้ เขาพลิกแผ่นดินหาตัวมึงแน่” ลำพังแค่จะพากันหนีก็แย่แล้ว นี่ยังเอาเงินมาอีกตั้งห้าหมื่น ให้ตายยังไงแม่ของสตาร์ก็ต้องตามตัวพวกเขาจนได้แน่

“เงินแม่ที่ไหน นี่มันเงินกูทั้งนั้น”

“แล้วมึงเอามาทำไมเยอะแยะขนาดนี้วะ”

“เราจะหนี เราต้องใช้เงิน มึงไม่เข้าใจเหรอ”

“หนีไปเราก็ต้องไปหางานหาเงินป่ะ” เฟิร์สไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่นักกับการที่ขโมยเงินมากมายขนาดนี้มา

“โอ๊ยกว่ามึงจะหางานหาเงินได้อีกนะเฟิร์ส มึงคิดบ้างว่ามึงกับกูเรายังเรียนไม่จบ กูไม่จบ ม.6 ด้วยซ้ำ มีแค่วุฒิ ม.3 ใครเขาจะรับมึงทำงานดีดี เนี่ยทุนสร้างตัวระหว่างหางาน อ่าคิดเยอะได้ป่ะ รีบเก็บของแล้วจะได้ไปกันสักที”

“มึงคิดดีแน่แล้วนะ” เฟิร์สถามอีกครั้งหลังเก็บของชิ้นสุดท้ายใส่ลงในกระเป๋า

“เออ มึงจะถามอะไรนักหนา มาถึงขนาดนี้แล้ว”

“กูแค่อยากแน่ใจ แล้วก็อยากให้มึงแน่ใจด้วยว่ามึงคิดจะทำแบบนี้จริง ๆ ก้าวที่เรากำลังจะก้าวกันไปตอนนี้ผิดคือผิดแล้วนะเว้ย”

“กูไม่สนอะไรทั้งนั้นอะ แค่กูได้เป็นอิสระจากไอ้พวกคลาสเรียนพวกนั้นก็พอ” เฟิร์สมองดูคนพูด ในใจก็คิดว่าที่ตัวเองกำลังทำอยู่นั้นมันดีจริงแล้วหรือ การเดินทางครั้งนี้ เท่ากับเขากำลังทิ้งวุฒิที่เรียนมาเกือบจะจบ ทิ้งอนาคต และไม่สามารถกลับมาแก้ไขมันได้อีกแล้ว

“งั้นก็ไป เดี๋ยวจะเสียเวลา” เฟิร์สและสตาร์เริ่มออกเดินทางตามเส้นทางที่เฟิร์สเคยไปหาตากับยายช่วงปิดเทอม สตาร์เองในคราวแรกก็ไม่ค่อยพอใจกับการใช้มอเตอร์ไซค์เดินทางเท่าไหร่นัก แต่พอได้นั่งซ้อนท้ายตากแดด ตากลม ชมวิววชนบทสองข้างทางก็กลายเป็นความสนุกตามประสาหนุ่มสาวไปเสีย

“หิวยังอะเดี๋ยวจะได้แวะหาอะไรกิน” ขับข้ามจังหวัดมาได้พักหนึ่งเฟิร์สก็หันไปถามคนซ้อน

“แวะเซเว่นนะ กูไม่อยากนั่งกินที่ร้านอะ”

“ครับบบ” เมื่อได้รับคำสั่งจากคนซ้อนเฟิร์สก็แวะเข้าปั้มที่มีทั้งห้องน้ำและเซเว่นตามคำขอ สตาร์ไม่อยากให้ตัวเองเดินผ่านกล้องวงจรจึงขอแยกไปเข้าห้องน้ำและให้เฟิร์สไปซื้อของแล้วค่อยกลับมาเจอกันที่รถ เฟิร์สรีบซื้อของตามที่สตาร์ฝากมาทั้งหมดก่อนจะเดินไปรอคนเข้าห้องน้ำ พักใหญ่กว่าเธอจะเดินกลับมาพร้อมผมทรงใหม่ที่ลงมือตัดด้วยตัวเอง

“มึงทำอะไรเนี่ย” เฟิร์สเอ่ยถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นสตาร์ในลุคผมสั้นประบ่า ผมที่เคยยาวสลวยถึงกลางหลัง ตอนนี้เหลือเพียงผมขาด ๆ แหว่ง ๆ จากการตัดลวก ๆ

“กูว่าตัดผมสั้นน่าจะลดจุดสังเกตลงไปได้อีกนิดนึง”

“มึงเลยตัดเอง”

“ถูก ตัดซะตั้งแต่ตอนนี้ไปเลย ทำไมมันดูแย่มากเลยเหรอ”

“กล้าถาม อย่าให้กูพูดเลย”

“แล้วรักไหมล่ะ” สตาร์ไม่ได้สนใจภาพลักษณ์อะไรอยู่แล้วในเวลานี้เธอคิดเพียงแต่ว่าจะทำยังไงให้หนีรอดปลอดภัยจากแม่เท่านั้น

“ไม่รักจะขับรถมาถึงนี่เหรอ จะไปกินไหนอย่าลีลา” คนตอบเปลี่ยนเรื่องด้วยความเคอะเขิน ไม่บ่อยนักที่จะพูดคำว่ารักให้อีกฝ่ายฟัง ยิ่งมาถามกันตรง ๆ แบบนี้ก็ต้องมีเสียอาการเป็นธรรมดา สตาร์ขอให้เฟิร์สขับรถไปหาที่กินที่อื่น เพราะระแวงกล้องวงจรปิดของทางปั้ม ถึงแม้ว่าการคาดเดาเส้นทางของแม่คงไม่คิดถึงที่นี่เพราะเธอไม่มีประวัติและไม่มีความเป็นไปได้เลยที่จะมาที่นี่

บทก่อนหน้า
บทถัดไป