บทที่ 2 ตอนที่2

ตอนที่2

@มหาลัย

ภายใต้คณะคหกรรมศาสตร์แผนกเบเกอรี่กำลังมีกลิ่นหอมของดาร์กช็อกโกแลต ที่ถูกผสมเข้ากับส่วนผสมอีกสามอย่างส่งกลิ่นหอมออกมาจากเตาอบหลังจากที่ถูกดันเข้าไปในเตาอบเมื่อไม่นานมานี้

มะลิเด็กสาวใบหน้าจิ้มลิ้ม ผมดำขลับของเธอผูกเปียเอาไว้ทั้งสองข้างแบบหลวมๆ ดวงตากลมที่โอบล้อมไปด้วยแพขนตางามงอนกำลังยืนมองบราวนี่ช็อคโกแลตของตัวเองอย่างจดจ่อ รอลุ้นว่ามันจะขึ้นฟิล์มตามที่เธอต้องการหรือไม่ เพราะวันนี้เธอมีสอบภาคปฏิบัติเป็นพายและบราวนี่ ซึ่งเธอก็ทำพายสับปะรดเสร็จแล้วจะเหลือแค่บราวนี่ที่ยังอยู่ในเตาอบ และอีกไม่นานก็คงจะเสร็จออกมาให้เธอได้ชื่นชมและส่งอาจารย์

"อ๊ะ!" มะลิร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่ออยู่ดีๆก็ถูกนิ้วเล็กๆของเพื่อนสนิทอย่างแอลมาจิ้มที่เอว ร่างบางหันไปมองค้อนเพื่อนสนิทก่อนที่จะจิ้มกลับหัวเราะคึกคักที่แกล้งเพื่อนกลับคืนได้ "แกมาแกล้งฉันได้นี่ของแกเสร็จแล้วหรือไง?"

"เสร็จแล้ว...ตอนนี้กำลังเอาพัดลมเป่าให้เย็นส่วนพายก็จัดใส่จานไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าแต่ของแกเถอะอีกนานไหมกว่าจะเสร็จ จะได้เอาไปส่งอาจารย์พร้อมกัน"

"อีกแป๊บนึงก็คงจะเสร็จแล้ว อ๊ะ!...เสร็จพอดี แกรอฉันแป๊บนึงนะ" มะลิหยิบถุงมือกันความร้อนเอามาใส่เปิดเตาอบหยิบถาดบราวนี่ออกมาวางก่อนที่จะเปิดพัดลมตัวเล็กๆเป่า

เด็กสาวยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มบุ๋มเข้าไปในแก้มอ้วนๆทั้งสองข้าง เมื่อเห็นหน้าบราวนี่ของเธอขึ้นฟิล์มสวยงาม

มันช่างเป็นอะไรที่มีความสุขสำหรับคนที่รักการทำขนมอย่างเธอ

"บราวนี่ของแกหน้าขึ้นฟิล์มดีมากเลยอ่ะ แกไปดูของฉันสิเละไม่เป็นท่าหน้าแตกดูแห้งๆยังไงก็ไม่รู้" แอลมีสีหน้างอแงเมื่อเปรียบเทียบบราวนี่ของตัวเองกับบราวนี่ของเพื่อนสนิท

"แกได้คนส่วนผสมให้เข้ากันดีหรือเปล่า? ไม่ใช่ว่าส่วนผสมยังไม่เข้ากันดีแกก็เอาเข้าเตาอบแล้วนะ"

"ฉันก็ว่าฉันคนเข้าดีแล้วนะแต่ทำไมยังแตกอยู่ก็ไม่รู้ ช่างเถอะใครจะไปมีพรสวรรค์อย่างแกล่ะ ไม่ว่าทำขนมอะไรแกก็ทำออกมาได้ดีเสมอ ความฝันที่จะได้เปิดร้านเบเกอรี่เป็นของตัวเองอยู่ไม่ไกลแล้วละแกเล่นเก่งซะขนาดนี้ ในห้องฉันไม่เห็นมีใครเทียบแกได้สักคน"

"แกก็พูดซะโอเวอร์เกินไปแอล ฉันยังต้องเรียนรู้อีกเยอะและก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้นสักหน่อย ไปเถอะบราวนี่ของฉันน่าจะใช้ได้แล้วเอาไปส่งอาจารย์กันดีกว่า"

"งั้นก็ไปกัน เดี๋ยวฉันไปหยิบของฉันก่อน"

สองสาวพากันเอาพายและบราวนี่ไปส่งอาจารย์แล้วก็เป็นไปตามคาดหมาย มะลิหรือเพื่อนๆชอบเรียกสั้นๆว่าลิได้รับคะแนนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งห้องอีกเช่นเคย

หลังจากที่สอบปฏิบัติเสร็จในช่วงบ่ายมะลิก็เปลี่ยนชุดถอดชุดเชฟและผ้ากันเปื้อนออก ทำให้ร่างบางตอนนี้อยู่ในชุดนักศึกษาถูกระเบียบกระโปรงพลีทยาวถึงหัวเข่ากับรองเท้าผ้าใบสีขาว มือเรียวกระชับถุงพลาสติกที่ด้านในมีกล่องใส่บรรจุพายสับปะรดและบราวนี่จำนวนสามกล่อง ซึ่งแต่ละกล่องจะมีทั้งบราวนี่และพายสับปะรดอยู่ในกล่องนั้น

มะลิเดินออกจากมหาลัยพร้อมกับแอลมาตามถนนทันทีหลังจากที่เรียนจบในคลาสสุดท้าย

บ้านของมะลิและแอลอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยมากนัก เธอทั้งสองจึงเลือกใช้วิธีเดินไปกับมหาลัยมากกว่าที่จะนั่งรถสองแถว

"แกจะไปรับมิกซ์เลยหรือเปล่าหรือว่าจะเอาของพวกนี้ไปเก็บที่บ้านก่อนแล้วค่อยออกมารับ?" แอลที่เดินคู่กับมะลิเอ่ยถามขึ้น

มิกซ์ที่แอลพูดถึงนั้นก็คือน้องชายคนสุดท้องที่อายุห่างกับมะลิและพี่ชายอยู่มากโข เพราะตอนนี้น้องชายคนเล็กเพิ่งจะอายุเพียง3ขวบซึ่งตัวมะลิเองอายุ19ปี ส่วนพี่ชายคนโตที่ชื่อมอสนั้นอายุ23ปี

ทุนเดิมครอบครัวของมะลิมีความสุขกันมากฐานะการเงินค่อนดีด้วย พ่อแม่เลยอยากทำตามความฝันอยากมีลูกสามคนเลยหันไปพึ่งวิทยาศาสตร์และได้มิกซ์มาเป็นน้องเล็กคนสุดท้อง

แต่แล้วก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลกทุกอย่างที่กำลังจะไปได้ดีก็ต้องจบลง เมื่อพ่อกับแม่เธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้เสียชีวิตทั้งคู่ ตอนนั้นมิกซ์ก็ไปด้วยแต่ทว่าน้องชายคนสุดท้องกลับโชคดีรอดชีวิตมาได้

ตอนนั้นสามพี่น้องไม่รู้จะไปพึ่งใครญาติพี่น้องก็เหมือนจะไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วย โชคดีที่พวกเธอยังมีเงินที่พ่อกับแม่ทิ้งเอาไว้ให้อยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ได้มากพอที่จะทำให้เธอและมิกซ์นั้นเรียนจนจบ พี่ชายคนโตสุดอย่างมอสจึงได้ยุติการเรียนเลือกที่จะไปหางานทำที่ญี่ปุ่น เพื่อส่งเสียเลี้ยงดูน้องทั้งสองคนอย่างมะลิและมิกซ์

"มะลิ! ไอ้ลิ!" เสียงตวาดของแอลดังขึ้นเมื่อมะลิเหม่อไม่ยอมตอบคำถามของเธอ

"หึ! อะไรของแกแอลฉันตกใจหมดเลยเรียกซะดังเชียว" มะลิสะดุ้งด้วยความตกใจก่อนที่จะหันไปมองค้อนเพื่อนสนิท

"จะไม่ให้ดังได้ยังไงก็แกเล่นเหม่อไม่ยอมตอบคำถามฉัน" แอลว่าเข้าให้ เพราะเธอเรียกมะลิหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังเหม่อ

มะลิถอนหายใจออกมาหนักๆ คงจะเป็นตอนที่เธอเผลอคิดเรื่องราวในอดีตเลยไม่ได้ยินเสียงเพื่อนรักส่งเสียงเรียก

"แกถามว่าอะไรพอดีเมื่อกี้คิดอะไรอยู่น่ะ?"

"ฉันถามว่าแกจะไปรับน้องมิกซ์เลยไหมหรือว่าจะเอาของในมือแกไปไว้ที่บ้านก่อนแล้วค่อยมารับมิกซ์อีกที"

"อ๋อ...เดี๋ยวไปรับเลยขี้เกียจเดินไป-กลับหลายครั้ง " ใบหน้าจิ้มลิ้มพูดพลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพาย ก่อนจะหยิบอมยิ้มเอามาไว้ในมือพร้อมกับฉีกห่อพลาสติกเตรียมจะนำเอาเข้าปาก

"อ๊ะ!" มะลิมีสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาทันทีเมื่อเพื่อนสาวอย่างแอลที่ชอบแกล้งเธอเป็นประจำ เข้ามาแย่งอมยิ้มแสนอร่อยที่เธอกำลังจะเอาเข้าปากเอาไปไว้ในมือ

"เอาอมยิ้มฉันมานะแอล" น้ำเสียงงอแงถูกส่งออกมา

คนโดนงอแงใส่ยกยิ้มกวนไม่คิดจะคืนอมยิ้มให้

ทำไมเพื่อนสนิทอย่างแอลที่เรียนอยู่ด้วยกันตั้งแต่มัธยมจะไม่รู้ว่ามะลินั้นติดอมยิ้มขนาดไหน ทุกวันเพื่อนสนิทเธอจะต้องกินอย่างต่ำวันละ1อันทุกวัน โดยให้เหตุผมว่ามันอร่อยเสพติดไปแล้วเลิกไม่ได้

และเพราะรู้ว่าเพื่อนชอบเลยอยากแกล้ง

"ฉันเห็นแกกินทุกวันไม่เบื่อหรือไง?"

"ไม่เบื่อ...ฉันชอบ เอาของฉันมานะแอลไม่งั้นฉันจะโกรธแกจริงๆ ด้วย" ไม่พูดเปล่ามะลิยังเข้าไปแย่งจากมือแอล แต่คนขี้แกล้งกลับหลบทันพร้อมทั้งหัวเราะชอบใจทำให้คนอยากกินกระทืบเท้าปึงปัง

"ฮ่าๆ มีกระทืบเท้าด้วย ถ้าไม่ให้จะทำไม?"

"ไม่ให้ก็จะแย่ง เอามานะ เอามาคืนฉันมาซะดีๆ เดี๋ยวก็หล่นเหมือนครั้งที่แล้วอีก" ไม่พูดเปล่าแต่มะลิเข้าไปแย่งอีกครั้งแต่ทว่าแอลก็กลับหมุนตัวหลบได้อีกครั้ง

ปากกับจมูกแทบจะยื่นมาติดกันเมื่อเพื่อนสนิทพาอมยิ้มวิ่งนำหน้าเธอไป "อยากกินก็เข้ามาแย่งให้ได้สิยัยเด็กติดขนม ฮ่าๆ"

เมื่อได้ยินแบบนั้นมีเหรอเด็กที่ติดลูกอมอย่างเธอจะไม่วิ่งตามไป แอลชอบแกล้งเธอแบบนี้เสมอ

มะลิกระชับกระกระเป๋าสะพายเอาไว้แน่นวิ่งไล่เพื่อนสนิทตามออกไป

"อย่าหนีนะยัยแอล เอาของฉันคืนมา ถ้าจับได้แกโดนแน่" เสียงของมะลิดังขึ้นในตอนที่แอลวิ่งห่างออกไป และกำลังจะเลี้ยวขวาไปทางด้านหน้าของ

อีกด้าน

"นายจะไปไหนครับ?" ฟุโดเอ่ยทักผู้เป็นนายขึ้นทันทีเมื่อเห็นริวปิดแฟ้มเอกสารที่อ่านอยู่ ก่อนที่จะถอดแว่นสายตาวางไว้บนโต๊ะทำงานแล้วหยิบแว่นตากันแดดสีดำสนิทมาใส่แทน ร่างสูงยันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเตรียมจะเดินออกจากห้องทำงาน

"กูจะเดินออกไปข้างนอก"

"ไปไหนครับ? ผมจะได้ให้ไอ้พวกนั้นเตรียมรถเอาไว้ ขอโทษที่ไม่ได้เตรียมรถไว้ล่วงหน้า ผมไม่คิดว่านายจะออกไปข้างนอก"

"ไม่ต้องเตรียมรถ กูจะออกไปแถวๆ นี้ ไม่ไกลจากเพนท์เฮ้าส์มากนัก"

"อย่าบอกนะครับว่าจะออกไปดูสาวๆ อย่างที่นายหญิงใหญ่ว่า ผมไม่รู้ว่านายสนใจผู้หญิงด้วย"

"ไร้สาระ" นายน้อยของตระกูลพูดเพียงแค่นั้นก่อนที่จะสาวเท้าเดินไปที่หน้าประตูห้อง ทำให้ลูกน้องสองคนที่ยืนเฝ้าหน้าประตูก้มหัวให้ผู้เป็นนาย หนึ่งในสองคนนั้นทำหน้าที่เปิดประตูให้กับริว

และนั่นก็ทำให้ฟูโดต้องเก็บเอกสารที่อ่านอยู่ก่อนจะเดินตามผู้เป็นนายออกจากห้องไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

"ไม่ต้องตามกูมา กูไม่อยากให้ใครรู้ว่ากูมาถึงไทยแล้ว"

"เห็นทีจะไม่ได้ครับนาย เขตนี้ยังอันตรายเกินไปอาจจะมียากูซ่าต่างแก๊งแฝงเข้ามา ถ้านายเป็นอะไรขึ้นมานายใหญ่เอาพวกผมตายแน่ครับ"

บทก่อนหน้า
บทถัดไป