บทที่ 10 หัวใจแทบหยุดเต้น
“เราอยากเป็นคนเดียวในสายตาอุ่น!”
“แต่อุ่นไม่ได้มองใครเลยนะ” น้ำอุ่นพูดอย่างหน้าซื่อตาใส นี่เขาหึงแม้กระทั่งดอกไม้เหรอ
“.....” ภูผายังทำหน้านิ่ง สองคนนั่งมองหน้ากันอยู่แบบนั้น
“ฮึ.....” จนกระทั่งน้ำอุ่นหลุดขำออกมา
“ขำ!” ภูผาทำหน้าไม่พอใจ
“เปล่า...” น้ำอุ่นส่ายหัว แต่ก็ยังแอบขำ
“หึงเหรอ?” ก่อนจะเอ่ยถามเขาออกไป
“แล้วไม่มีสิทธิ์!” คนหน้าเดียวก็คงหน้านิ่ง บึ้งตึงเก๊กไว้แบบนั้น
“หึงได้....แต่ไม่ใช่กับดอกไม้ ภูผารู้ไหมตอนนี้ภูผาเหมือนเด็กน้อยเลย อุ่นไม่ได้มองใครสักหน่อย” ถึงจะยังไม่ได้รู้จักเขามากพอ แต่ก็พอจะรู้ว่าคนตรงหน้าเธอตอนนี้เขาเป็นคนขี้หวงมากขนาดไหน แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้
“แล้วตกลงภูผาจะพาอุ่นไปไหน ภูผายังไม่ตอบเลยนะ” เมื่อเห็นบรรยากาศไม่ค่อยดี น้ำอุ่นรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที
“สนามแข่ง!”
“สนามแข่ง? ภูผาจะไปแข่งรถเหรอ?” น้ำอุ่นพูดอย่างตื่นเต้นดีใจ ก็ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยได้ไปเที่ยวไหน นี่เป็นครั้งแรกก็ว่าได้ที่จะได้ไปเปิดหูเปิดตา เคยดูแต่ในทีวี วันนี้จะได้เห็นสนามจริง คนจะเยอะแล้วจะมีสาวๆ พริตตี้สวยๆ เหมือนอย่างในทีวีไหมนะ แค่คิดดวงตากลมโตคู่สวยก็เปล่งประกายความสุขออกมาทันที
“คิดอะไร?” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเป็นปม จ้องหน้าแฟนสาวที่เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“อุ่นแค่ดีใจ ว่าแต่มันเหมือนกับในทีวีไหม เวลาเขาแข่งรถคนเยอะๆ มีสาวๆ สวยๆ แบบนั้นไหม”
“ไม่รู้ ไปดูเอง!....” เขาเอ่ยเสียงทุ้ม พร้อมกับพนักงานเอาอาหารมาเสิร์ฟ ที่จริงมันก็ไม่ใช่งานใหญ่โตอะไร เป็นสนามเล็ก ๆ เพื่อให้คนที่ชอบประลองความเร็วได้เข้าร่วมแข่งขัน แต่ครั้งนี้เงินเดิมพันมันสูง เขาเลยอยากคว้าเอาชัยชนะมาให้เธอ และมอบเงินรางวัลที่จะได้รับ ให้เธอและน้อง ๆ ทุกคนจะได้เรียนหนังสือสูงๆ เหมือนอย่างที่แฟนสาวเขาตั้งใจไว้ และเหตุผลที่สำคัญไปกว่านั้น เขาอยากคว้าชัยชนะมอบเป็นของขวัญวันเกิด ที่เจ้าตัวเองก็ลืมวันสำคัญของตัวเอง
“แล้วมันอันตรายไหม” แต่เมื่อนึกถึงอุบัติเหตุ น้ำอุ่นก็เกิดเป็นห่วงภูผาขึ้นมาทันที
“กิน!” ภูผาจ้องดุ เมื่อแฟนสาวเอาแต่ถามแต่ไม่ยอมทานอาหารสักที
“ก็อุ่นเป็นห่วง” คนตัวเล็กถึงกับทำหน้าซึม
“ห่วงเราก็กิน!”
“.....” น้ำอุ่นได้แต่ทำหน้ามุ่ย ก้มหน้าก้มตากินแซลมอนในจาน
“.....” ภูผาเองก็ได้แต่ส่ายหัว ผู้หญิงอะไร บทจะพูดก็พูดซะ บทจะเงียบก็เงียบไปซะดื้อๆ
“แล้วภูผาไม่กินเหรอ เอาแต่จ้องอุ่นอยู่ได้” มันก็รู้สึกแปลกๆ นะ คนหนึ่งนั่งกิน อีกคนนั่งจ้อง แบบนี้ใครจะกล้ากิน
“......” แต่คำตอบคือเงียบ เขามองหน้าเธอ จ้องมองอยู่แบบนั้น
“กินเลอะเป็นเด็กไปได้” ก่อนเขาจะเอื้อมฝ่ามือ ใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือเช็ดน้ำซอสที่มุมปากเธออย่างอ่อนโยน
“อะ...อุ่นเช็ดเองได้” น้ำอุ่นถึงกับเขินอายจนหน้าแดง รีบหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดปากตัวเองทันที
“กินสิ จ้องอยู่ได้” น้ำอุ่นทำหน้าดุใส่ เมื่อแฟนหนุ่มเอาแต่จ้อง ทำอย่างกับไม่ได้เจอหน้ากันมานาน
สนามแข่ง....
หลังจากที่ทั้งสองคนทานอาหารเสร็จ ภูผาก็ต้องรีบขับรถตรงมายังสนามแข่ง เพราะใกล้ถึงเวลา ไหนจะต้องเช็กเครื่อง อุปกรณ์อีกหลายๆ อย่าง
ทันทีที่มาถึง ภูผาให้น้ำอุ่นไปอยู่ในห้องรับรอง โซน VIP ที่แยกออกมาต่างหาก ไม่อยากให้แฟนต้องไปนั่งเบียดกับคนอื่น เขาเองก็ไม่อยากจะให้เธออยู่เพียงลำพัง แต่มันก็จำเป็น
“เอาอะไรไหม เราต้องเข้าสนามแล้ว” ภูผาในชุดนักแข่ง เดินเข้ามาหาแฟนสาว ที่กำลังตื่นเต้นกับสิ่งแวดล้อมใหม่ ผู้คนมากมาย นี่ขนาดเขาบอกว่างานเล็ก ๆ นะ แต่สำหรับเธอมันคืองานใหญ่
“ไม่เป็นไร ว่าแต่....” น้ำอุ่นมองสำรวจแฟนหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำไมเขาถึงได้ดูเท่ขนาดนี้ ทั้งการวางตัว ที่เห็นเขาคุยกับนักแข่งด้วยกัน กับทีมงานที่จัดงาน เขาดูโตเป็นผู้ใหญ่และมีความเป็นผู้นำสูงมาก
“อย่ามองเราด้วยสายตาแบบนั้น!” ใบหน้าหล่อโน้มเข้ามาใกล้ใบหน้าหวาน เธอจะรู้ไหมว่าสายตาเธอตอนนี้มันเย้ายวนมากแค่ไหน
“อะ...อุ่นไปดูตรงนั้นดีกว่า” น้ำอุ่นทำท่ากระอึกกระอัก เขินอายรีบเดินหนีเขาไปทางอื่น
หมับ!!
“ภะ...ภูผา” คนตัวเล็กเอ่ยเสียงเบา ยังไม่ทันจะได้ก้าวเท้าไปไหนเขาก็คว้าตัวดึงเธอเข้าไปกอด
“......” แต่ภูผากลับเงียบ กอดเธอไว้แบบนั้น
“ภูผา....อุ่นหายใจไม่ออก มีอะไรรึเปล่า อุ่นว่าภูผาแปลกๆ นะ?” ก็วันนี้เขาแทบจะไม่พูดอะไรเลยเอาแต่เงียบ ปกติก็พูดน้อยอยู่แล้ว แต่วันนี้เขาเหมือนมีอะไรในใจ
“ไว้แข่งเสร็จจะบอก” เขาพูดแค่นั้น ก่อนจะแตะประทับจูบฉกชิงริมฝีปากบางเพื่อเพิ่มกำลังใจแล้วเดินออกไป ปล่อยให้แฟนสาวได้แต่ยืนมองไหล่กว้างที่ห่างออกไปเรื่อย ๆ ด้วยความสงสัย
“คนเย็นชา” น้ำอุ่นพูดยิ้มๆ ถ้าเป็นคนอื่นอาจคิดว่า พามาแล้วก็ปล่อยให้อยู่คนเดียวแบบนี้ไม่ต้องพามายังดีซะกว่า
แต่สำหรับน้ำอุ่น การที่เขาพามา เขาอาจอยากให้เธอได้มาดู อยากให้เธอรู้จักเขามากขึ้น เพราะบางอย่างมันพูดออกมาไม่ได้ ได้เห็นด้วยตาถึงจะเข้าใจ
“สู้ๆ นะ” น้ำอุ่นพูดยิ้มให้แฟนหนุ่ม ผ่านห้องกระจกเมื่อเห็นเขาเดินเข้าไปในสนามและมองมาทางเธอ
ตึก ตึก ตึก
แล้วหัวใจดวงน้อยก็เต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะ มันตื่นเต้นและกลัวในเวลาเดียวกัน เมื่อทุกอย่างดำเนินต่อไป เมื่อภูผาก้าวขึ้นนั่งบนรถและปิดหมวกกันน็อกลง ก่อนรถจะวิ่งออกไปด้วยความเร็ว
พร้อมรถเหล่านักกีฬา Motosport ที่ออกตัวไปพร้อมกันนับสิบคัน ความกลัวในใจมันก็เกิดขึ้น สองมือประสานเข้าหากันสายตาจดจ้องไปยังแฟนหนุ่ม ที่ตอนนี้เขาอยู่ในลำดับที่สอง
ถึงจะเป็นการแข่งในสนามทางเรียบ อาจดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ทางมันก็คดเคี้ยว ยิ่งช่วงที่เข้าทางโค้ง มองด้วยสายตาจากตรงที่เธออยู่ หัวใจมันยิ่งจะวาย เหมือนกับรถเขามันกำลังเสียหลัก รถ Motosport ทั้งคัน เอียงขนานไปกับพื้นถนน
“เฮ้อ...” แต่แล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อเข้าสู่ทางปกติ เมื่อรถกลับมาทรงตัวและเหมือนว่าจะเร่งความเร็วขึ้น เมื่ออีกแค่สองรอบสนามเขาก็จะสามารถคว้าเอาชัยชนะมาให้เธอ
โครม!!!
“ภูผา!!!!!!”
