บทที่ 4 อย่าหนี
“ถ้าอุ่นอยากรู้จักเรามากกว่านี้ อุ่นก็ต้องเป็นแฟนเรา”
“ปะ.... เป็นแฟน!!” บ้าไปแล้ว นี่มันบ้าชัดๆ เมื่อกี้เขาเพิ่งจะบอกชอบ ตอนนี้เขาขอเธอเป็นแฟน....
“ตกลงว่าไง” ใบหน้าหล่อคมโน้มเข้าไปใกล้ใบหน้าหวาน ใกล้จนลมหายใจอุ่นๆ เป่ารดแก้มใส
“.....” น้ำอุ่นตอนนี้ได้แต่ยืนนิ่ง งุนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า ทุกอย่างมันเร็วไปหมดจนเธอตั้งตัวไม่ทัน
“มือถืออยู่ไหน” เขาเอ่ยเสียงเรียบ เมื่อเห็นคนตรงหน้าเอาแต่นิ่ง
“.....” น้ำอุ่นได้แต่ส่ายหน้า เธอพูดอะไรไม่ออกจริงๆ ก่อนจะรีบดึงสติตัวเอง ค่อยๆ ถอยหนีเขา
หมับ!!
“อย่าหนีเรา เราไม่ชอบให้อุ่นเดินหนีเราแบบนี้!” ฝ่ามือหนาคว้าดึงร่างเล็กไว้ สีหน้าท่าทางเขาดูเข้มขรึมจริงจังขึ้น ดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้ในท่อนแขนแกร่ง
“อะ...อุ่น...มือถืออุ่นพัง” คนตัวเล็กในอ้อมกอดเอ่ยเสียงสั่น จะทำยังไงดีอยากจะหนีจากตรงนี้แต่เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอได้หนีเลย
“งั้นเอาของเราไป ไว้ถึงบ้านเราโทรหา” มือสากหนาล้วงกระเป๋ากางเกงนักเรียน หยิบ iPhone 13 Pro Max สีกราไฟต์ ของตัวเองให้คนในอ้อมกอด
“มะ...ไม่เอา อุ่น....”
“ถ้าปฏิเสธ เราจะทำมากกว่าจูบ กลับบ้านได้แล้ว” แต่ไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบเขาก็พูดแทรกขึ้น น้ำเสียงที่เอ่ยมันราบเรียบแต่น่ากลัวแปลกๆ จนเธอได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าพูดอะไรกับเขาอีก
ต่างคนต่างเงียบ เงียบจนน่ากลัว ก่อนมือหนาจะกุมมือเล็กเดินไปส่งเธอที่บ้านเด็กกำพร้า ตามที่เขาบอกไว้
“เข้าบ้าน ไว้เราจะโทรหา”
“....” น้ำอุ่นที่เอาแต่ก้มหน้าพยักหน้ารับแทนคำตอบ
“เฮ้อ” ภูผาถอนหายใจอย่างหงุดหงิด เมื่อคนตรงหน้าไม่พูดไม่จาเอาแต่ก้มหน้าหลบตาเขา
“กะ...กลับสิ ดึกแล้วนะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นเขาเอาแต่ยืนนิ่ง ไม่กลับสักที นี่มันก็ดึกแล้ว มีผู้ชายมาส่งถึงบ้านแบบนี้ถ้าแม่รู้คงไม่ดีต่อตัวเธอเองเท่าไหร่
“อุ่นเข้าไปก่อนสิ” เขาเอ่ยเสียงเบา โน้มหน้าเข้าไปใกล้ ก่อนจะขโมยหอมแก้มใส ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ
“อึก!!” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ยืนตัวแข็งทื่อ อีกแล้วนะเขาทำแบบนี้กับเธออีกแล้ว
“เข้าบ้านสิ” เขาเอ่ยเสียงเรียบ มือหนาขยี้หัวเธอเบาๆ
“.....” น้ำอุ่นที่ยังอยู่ในอาการตกใจ รีบดึงสติตัวเอง หันหลังกลับเปิดประตูรั้ววิ่งเข้าบ้านอย่างไว โชคดีที่วันนี้น้อง ๆ ไม่มารอรับ ถ้ามีใครสักคนเห็นเข้า เธอได้ซวยแน่
“.....” ภูผายืนมองตามคนตัวเล็กที่วิ่งเข้าบ้าน พร้อมรอยยิ้มมุมปาก มันเป็นยิ้มที่แทบจะไม่มีใครได้เห็น
ตึก ตึก ตึก
หัวใจที่แข็งกร้าวสั่นรัว ยิ่งคิดถึงใบหน้าสวยหวาน นัยน์ตาชวนฝันคู่นั้นเขาก็ยิ่งอยากจะเป็นเจ้าของเธอและเก็บเธอไว้ข้างตัวตลอดเวลา....
“ใครมาส่ง?”
“เฮือก!!” น้ำอุ่นถึงกับแทบหยุดหายใจ เมื่อกำลังจะเดินเข้าบ้าน โตนนท์ พี่ชายที่โตมาด้วยกันก็เดินเข้ามาขวางทาง
“เพื่อนอุ่นค่ะ” เธอตอบปัดๆ แล้วรีบเดินเข้าบ้าน แต่ทว่า โตนนท์กลับไม่ยอมเปิดทางให้เธอ
“อุ่นไม่มีเพื่อนผู้ชาย แล้วพี่เห็นนะว่าไอ้นั่นมันมาแอบดูอุ่นหลายวันแล้ว!” เขาพูดอย่างไม่พอใจ ทำตัวอย่างกับเป็นเจ้าของเธอ
“มันเรื่องของอุ่น อุ่นจะมีเพื่อนผู้ชายหรือไม่มีก็ไม่เกี่ยวกับพี่ หลีกอุ่นจะไปหาแม่!” น้ำอุ่นเอ่ยเสียงแข็ง หลายครั้งแล้วนะที่เขาทำแบบนี้ ถึงจะโตมาด้วยกัน รักเหมือนพี่ชาย แต่นี่มันก็เรื่องส่วนตัว ทำไมต้องบอกเขาทุกอย่าง
“อุ่นไม่เคยดื้อกับพี่แบบนี้!” โตนนท์จ้องหน้าน้ำอุ่นอย่างเอาเรื่อง
“อุ่นไม่ได้ดื้อ แต่มันคือเรื่องส่วนตัวพี่ก็รู้ว่าอุ่นไม่เคยคิดแบบนั้นกับพี่ เราเป็นพี่น้องกันนะคะ!” เพราะรู้ว่าเขาคิดยังไงกับตัวเอง ตัดไฟเสียแต่ต้นลม บอกไปตรง ๆ ดีกว่าให้ความหวังทั้ง ๆ ที่มันไม่มีอะไรตั้งแต่แรกจะดีกว่า
หมับ!!
“..... คอยดูแล้วกัน! ถ้าถึงวันนั้นเมื่อไหร่ วันที่อุ่นเป็นของพี่แล้วจะปากดีแบบนี้มั้ย!” มือสากหนาบีบที่ต้นแขนเล็กอย่างแรง สายตาที่เขามองเธอมันเต็มไปด้วยโทสะ มันจริงจังดุดัน จนเธอเองก็แอบกลัว กลัวว่าที่เขาพูดมันจะไม่ใช่แค่คำขู่
“อุ่นกลับมาแล้วเหรอลูก วันนี้ทำไมกลับค่ำจัง”
แต่โชคดีที่แม่ผู้ใจดี คนที่รับเลี้ยงเธอและน้อง ๆ เดินออกมาก่อน ทำให้โตนนท์รีบปล่อยมือ เดินหนีไปจากตรงนั้นทันที
“อุ่นลูก...มีอะไรรึเปล่าทำไมหน้าซีดๆ” ผู้เป็นแม่ถามด้วยความห่วงใย
“เปล่าค่ะ อุ่นขอตัวก่อนนะคะ” ด้วยกลัวว่าแม่จะสงสัย น้ำอุ่นรีบเดินเข้าบ้านตรงไปยังห้องนอนตัวเองทันที
แต่เธอจะรู้ไหมว่าแม่ได้ยินทุกอย่างที่โตนนท์พูดทุกประโยค ทำให้เกิดความเป็นห่วงลูกสาวอยู่ไม่น้อย แต่ดีที่โตนนท์ไม่ได้อยู่ที่นี่ ที่เขามาวันนี้เพียงแค่เอาเงินที่ทำงานได้มาให้น้อง ๆ แต่ก็ไว้วางใจอะไรไม่ได้
“จันทร์ ตั้งแต่วันนี้ จันทร์กับเอย ไปนอนเป็นเพื่อนพี่อุ่น” ผู้เป็นแม่หันไปสั่งลูกๆ ที่กำลังนิ่งดูการ์ตูนอยู่ในห้อง
“ค่ะคุณแม่!” สองสาวประสานเสียงกันอย่างฉะฉาน ก่อนจะรีบวิ่งแจ้นขึ้นไปหาพี่สาวที่ห้อง ด้วยความดีใจ
บ้านนับดาว
21.00 น.
“พี่ผา!” ภูพิงค์สองมือกอดอกจ้องหน้าพี่ชายตาเขม็ง เมื่อโทรหาพี่แต่โทรไม่ติด แล้วนี่มันกี่โมงแล้ว เลิกเรียนตั้งแต่ 16.00 น. เพิ่งจะถึงบ้านเนี่ยนะ
“.....” ภูผาเงียบ เดินหนีน้องสาวทันที
“หยุดเลย! เนี่ยหนูอยากกินขนม โทรหาพี่ไม่ติด ขุนศึกก็ไปนอนบ้านลุงกันต์ พ่อแม่ก็ยังไม่กลับ” น้องสาวตัวน้อยทำหน้ามุ่ย เมื่อถูกปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียว
“เฮ้อ...พอดีมือถือพี่ตกน้ำ แล้วกินข้าวรึยัง” เขาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ว่าจะไม่สนใจแต่สุดท้าย ก็ต้องยอมใจอ่อนให้น้องอยู่ดี
“......” ภูพิงค์ส่ายหัวทันที
“หิว”
ร่างเล็กเดินเข้าไปกอดออดอ้อนพี่ชายสุดที่รักมองหน้าทำตาปริบๆ
“.....” ภูผาได้แต่ส่ายหัว ก่อนจะพาน้องสาวเดินเข้าครัว ทำข้าวไข่เจียวให้น้องกินเหมือนที่เคยทำ
กว่าจะปลีกตัวออกจากน้องสาวขี้อ้อนได้ก็เกือบ สี่ทุ่ม
“หลับยังนะ” เขาได้เพียงแค่คิดในใจ แค่คิดถึงใบหน้าสวยหวานหัวใจมันก็พองโตขึ้นมาทันที.....
