บทที่ 3 เห็นเต็มตา

หลังจากที่กลับไปเยี่ยมพ่อ และแม่เกือบหนึ่งเดือน ตอนนี้จีน่าก็บินกลับมาที่ไทยแล้ว ที่จริงเธอก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลิกกับแฟนหนุ่มไหม เธออยากจะคุยกับเขาก่อนตัดสินใจ ว่าความสัมพันธ์ของเธอและเขาทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ เพราะเธอยังดีไม่พอ หรือเพราะเขาเองที่ไม่เคยพอ

ออกจากสนามบินก็นั่งแท็กซี่ตรงมาที่คอนโดของแฟนหนุ่มทันที เธอไม่ได้บอกเขาก่อนว่าเธอจะกลับมาวันนี้ ที่จริงเธอก็เป็นเหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไป จะบอกว่าอยากจับผิดก็คงจะไม่ถึงขนาดนั้น เธอก็แค่อยากเห็นท่าทีของเขาตอนที่เธอหายไป ว่าเขาจะใช้ชีวิตแบบไหนตอนที่เธอหายไปจากชีวิตเขา

ถึงจะอยู่หน้าคอนโดแล้ว เธอก็ยังไม่กล้าที่จะลงจากรถ เรื่องไหน ๆ คนอย่างจีน่าก็เหมือนจะกล้าไปซะหมด แต่กลับเรื่องความรู้สึก และหัวใจตัวเอง เหมือนความกล้าที่เธอมีจะไม่มากพอ เธอนั่งอยู่ในรถครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจกดโทรไปหาเพื่อนสนิท

“เกล..”

เกวลินเหมือนจะรู้สึกได้ว่าเพื่อนไม่โอเค จึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “เป็นอะไรไป? โอเคไหม ถ้าไม่โอเคก็มาหาฉันที่คอนโดก่อน”

“ฉันมาถึงคอนโดเขาแล้ว แต่ฉันกลับไม่กล้าอะเกล ฉันคิดว่าความรักของฉัน มันจะเปลี่ยนเขาได้ ฉันยอมรับว่าฉันรักเขา แต่ฉันก็เจ็บมาตลอด ฉันก็อยากตัด แต่มันยากจังเลยเกล” เธอระบายกับปลายสายทั้งน้ำตา เธอเองก็อดสมเพชตัวเองไม่ได้ ถ้าไม่เอาใจลงมาเล่นก็ไม่ต้องเจ็บแบบนี้ใช่ไหม นี่คือคำถามที่เธอมักจะถามตัวเองมาตลอด อดไม่ได้ที่จะคิดถึงจีน่าคนที่ไม่ต้องผูกมัดกับอะไรทั้งนั้น

“ทำตามหัวใจตัวเอง ฉันอยู่ตรงนี้เสมอ ไม่ไหวก็มาหาฉันนะ ตั้งหลักก่อน แล้วค่อยว่ากัน” เกวลินเข้าใจความรู้สึกของจีน่ากว่าใครเพราะคบกันมานาน

ระหว่างที่คุยโทรศัพท์อยู่ในรถ สายตาของจีน่าก็เหลือบไปเห็น แฟนหนุ่มของเธอเดินมากับผู้หญิงคนอื่น ท่าทางทั้งคู่เหมือนจะเมา เธอรู้สึกชาวาบไปทั้งหัวใจ มือเล็กกระชับโทรศัพท์ที่แนบอยู่ที่หู

“จีน่า...เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมเงียบไปล่ะ” เกวลินเอ่ยเรียกคนในสายเพราะอยู่ ๆ ก็เงียบไป ทั้งที่เมื่อกี้ยังคุยกันอยู่

“ฉันเห็นเขานัวเนียกับผู้หญิงคนอื่น” พูดจบจีน่าก็กดวางสาย ก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาอัดวิดีโอทั้งน้ำตา ตอนนี้เธอทั้งรู้สึกเจ็บ และจุกที่อกข้างซ้าย ก่อนหน้านี้เธอจับได้ก็แค่ในแชต หรือได้ยินจากเพื่อนในมหาลัยมาเตือน แต่ครั้งนี้เธอได้เห็นกับตาตัวเอง กับสิ่งที่เขาทำ เขากล้าทำแบบนี้ได้ยังไง กล้าเอาผู้หญิงคนอื่น ขึ้นมานอนเตียงที่เธอเคยนอนกลับเขาได้ยังไง

“หนูผู้ชายไม่ได้มีคนเดียวในโลกนะ ถ้ามันเลวก็หาใหม่” คนขับรถเห็น และได้ยินที่จีน่าคุยกับเพื่อนสนิท ก็อดพูดเตือนสติไม่ได้

“ชีวิตหนูเจอแต่คนเฮงซวย คงไม่มีดวงเรื่องความรักกับเขา” เธอเอ่ยน้ำเสียงสั่นเครือ มองคนทั้งคู่นัวเนียกันขึ้นลิฟต์ไป ก่อนจะเปิดกระเป๋าหยิบแบงก์พันยื่นให้คนขับรถ “ไม่ต้องทอนค่ะ”

“ขอบคุณมากหนู ยังจะเข้าไปอีกเหรอ ให้ลุงไปส่งบ้านเพื่อนไหม?” คนขับแท็กซี่ถามด้วยความเห็นใจ

“ต้องขึ้นไปสิคะ ต้องขึ้นไปให้เห็นกับตา จะได้พอสักที”

คนขับเปิดประตูช่วยเธอเอากระเป๋าเดินทางลงจากรถ ก่อนจะขับออกไป

หญิงสาวกำที่ลากกระเป๋าเดินทางแน่น น้ำตาอาบสองแก้ม ขาสองข้างแทบยืนไม่อยู่ เธอรู้สึกชาไปทั้งตัว ก่อนจะกัดฟันก้าวเท้าเดินขึ้นลิฟต์ไปชั้นที่เธอกับเขาเคยอยู่ด้วยกัน

ลิฟต์มาหยุดที่ชั้นที่เธอกดก่อนประตูลิฟต์จะค่อย ๆ เปิดออก หญิงสาวยืนนิ่งค้างปล่อยให้หยดน้ำตากระทบจากดวงตาสู้พื้นทีละหยดอยู่แบบนั้น ไม่ยอมก้าวเท้าออกจากลิฟต์ จนประตูลิฟต์กำลังจะปิดอีกครั้ง พอได้สติเธอก็รีบยื่นมือไปจับที่เซนเซอร์ของประตูลิฟต์ที่กำลังจะปิดสนิทกระชับแน่น ทำให้มือเล็กโดนประตูลิฟต์หนีบจนเป็นรอยแดง แต่เธอกลับไม่รู้สึกเจ็บที่มือเลยสักนิด

จีน่าเดินลากกระเป๋าเดินทางมาหยุดอยู่ที่ประตูห้องที่เธอกับเขาเคยมีช่วงเวลาดี ๆ ด้วยกัน แรงจะยกมือขึ้นมากดปลดล็อกรหัสแทบจะไม่เหลือแล้ว เธอทรุดลงนั่งยองกับพื้นสะอื้นไห้ มือสองข้างกำแน่น เธอทั้งเจ็บ ทั้งโกรธ ทั้งแค้น ที่เขาทำแบบนี้กับเธอ นี่เหรอที่บอกว่ารักเธอ บอกว่าไม่อยากเสียเธอไป

“ไอ้สารเลว”

ก่อนจะดันตัวลุกขึ้น ยกมือปาดน้ำตา ตัดสินใจกดรหัสเปิดประตู เดินเข้าห้องไป ดวงตาที่คลอหน่วยไปด้วยน้ำตาทอดมองเข้าไปในห้องโถง ที่ตอนนี้คนทั้งคู่ไม่อยู่ เหลือแต่เศษซากเสื้อผ้า และชุดชั้นใน ที่ถูกถอดออกโยนพาดไว้ที่โซฟา แม้แต่รูปถ่ายของเธอและเขาที่ตั้งอยู่ที่ตู้โชว์ก็ถูกคว่ำหน้าลง หญิงสายหยิบกรอบรูปที่ถูกคว่ำหน้าขึ้นมา ก่อนจะแกะรูปออกมาฉีกทิ้ง เธอค่อย ๆ ก้าวเดินไปหยุดที่ประตูห้องนอน ยกมือที่สั่นเทาจับที่ลูกบิดประตูกระชับแน่น ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่มีความกล้ามากพอที่จะเปิดประตูเข้าไปเห็นภาพ ผู้ชายสารเลว กับผู้หญิงแพศยาผสมพันธุ์กัน

“เหมาะสมกันดี...ไอ้ชาติหมา” เธอเค้นเสียงที่สั่นเครือสบถออกมา

ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกเดินออกมาจากที่นั่น ไม่มีความรู้สึกเสียใจหลงเหลืออยู่แล้ว ตอนนี้ความรู้สึกที่เธอรู้สึกมีแค่ โกรธ เกลียด แค้น และขยะแขยง เธอลงลิฟต์มาที่ล็อบบี้ ก็รีบเดินเข้าห้องน้ำไปเปิดน้ำที่อ่างล้างมือ ด้วยความรู้สึกขยะแขยงรังเกียจ เธอถูมือซ้ำไปซ้ำมา แบบนั้นอยู่พักใหญ่ ขณะที่เสียงโทรศัพท์สั่นอยู่ตลอด พอได้สติเธอก็หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาดู เป็นเกวลินที่โทรเข้ามา เธอยกมือปาดน้ำตาก่อนจะตัดสินใจรับสาย

“จีน่าแกเป็นไงบ้าง ฉันมาอยู่หน้าคอนโดแล้ว” เกวลินเอ่ยถามน้ำเสียงร้อนใจ เพราะเป็นห่วงเพื่อนมาก

จีน่ามองตัวเองในกระจกบานใหญ่ของห้องน้ำ สภาพของเธอตอนนี้ดูเหมือนไม่ใช่ เธอคนเก่าที่ไม่กลัวฟ้า กลัวดินเลยสักนิด นี่มันผู้หญิงโง่งี่เง่าที่เธอไม่รู้จักชัดๆ เธอบอกกับตัวเองในใจว่าจะไม่มีวันเอาตัวเองมาอยู่ในสภาพนี้อีกแล้ว ก่อนจะเอ่ยตอบเพื่อนสนิท “ฉันไม่เป็นไร โตแล้วจะเสียใจมากหน่อยก็คงไม่เป็นไร เพื่อนเธออ่อนแอหรือไง”

เกวลินถอนหายใจอย่างโล่งใจ “อืม...ฉันรู้ว่าแกเข้มแข็ง ฉันรอแกอยู่หน้าคอนโด ออกมาเถอะ” เกวลินเองก็น้ำตาคลอ แต่พยายามจะไม่ร้องไห้ เพราะรู้ว่าเพื่อนอย่างจีน่าไม่อยากให้ใครมองว่าอ่อนแอ

“อืม...ก็แค่ผู้ชายชาติหมาไม่รู้จักพอคนเดียว ไม่มีค่าพอให้ฉันเสียใจนานหรอก ไม่คู่ควรสักนิด” จีน่าเอ่ยกับปลายสาย

“อืม...เพื่อนฉันสวย เก่งขนาดนี้ ผู้ชายสารเลวนั่นมันไม่คู่ควรสักนิด อย่าเสียใจไปเลย เรากลับกันเถอะ”

ตอนนี้ไม่มีน้ำตาหลงเหลืออยู่บนใบหน้าของหญิงสาวอีกแล้ว เธอล้างหน้าล้างตาเสร็จก็เดินออกมาหาเกวลินที่รออยู่หน้าคอนโด พอเจอหน้าเพื่อนสนิท เธอก็ฉีกยิ้มทำเป็นเข้มแข็งเหมือนทุกครั้ง

เกวลินรู้ว่าเพื่อนเธอต้องพยายามเสแสร้งทำเข้มแข็งขนาดไหน ก็ปวดใจไม่น้อย แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงยิ้มตอบแล้วเดินมาช่วยลากกระเป๋าเดินทางไปขึ้นรถ ที่จอดรออยู่ใต้คอนโด

“หิวหรือเปล่า?” นี่คือคำถามที่เกวลินถามจีน่าเป็นคำถามแรกที่เจอหน้ากัน

“อืม...ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่ลงเครื่อง” จีน่าหันมาเอ่ยตอบเพื่อนสนิทน้ำเสียงปกติ

เกวลินกระชับแขนจีน่าแน่น “ปะกินข้าวกัน ฉันก็หิวเหมือนกัน”

จีน่าไม่ได้เอ่ยตอบทำเพียงพยักหน้ารับ

ตั้งแต่วันนั้น จนวันนี้ผู้ชายสารเลวส่งข้อความมาหาจีน่าตลอด ปืนไม่รู้ว่าจีน่ากลับมาไทยแล้ว ตั้งแต่ที่ร้องไห้หนักวันนั้น จีน่าก็ไม่ได้ร้องไห้อีกเลย เธอทำทุกอย่างปกติ ตกกลางคืนเธอจะออกไปดื่มทุกคืน แล้วกลับมานอนที่คอนโดของเกวลินแทนที่จะกลับคอนโดตัวเอง

“แกจะไปเจอผู้ชายแบบนั้นอีกเหรอ?” เกวลินเอ่ยถามจีน่าที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จกำลังจะออกไปเจอปืนด้วยสีหน้าเป็นห่วง

“ฉันจะไปเซอร์ไพรส์วันเกิดเขาน่ะ”

“ให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม แกจะไปคนเดียวจริง ๆ เหรอจีน่า?” เพื่อนสนิทเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่ต้องหรอก ฉันไปแป๊บเดียว เดี๋ยวก็กลับ”

พูดจบจีน่าก็เดินเปิดประตูออกไปทันที เธอไม่ได้บอกปืนว่ากลับมานานแล้ว เธอบอกเขาว่าเธอกลับมาวันก่อน และมีของขวัญจะเซอร์ไพรส์วันเกิดเขา เป็นของขวัญแทนคำขอบคุณที่เขาดูแลเธอมาอย่างดี ตลอดเกือบสองปี

ไม่นานจีน่าก็ขับรถมาจอดที่บาร์ของปืน ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานวันเกิดของเขา เธอแต่งตัวด้วยเดรสยาวรัดรูปสีดำ แต่งหน้าจัดกว่าปกติทาลิปสติกสีแดงสด เดินบนรองเท้าส้นเข็มอย่างมั่นใจเข้ามาในงาน สายตากวาดไปทั่วห้องจัดเลี้ยง มองแขกที่มาถึงก่อนเธอทีละคน ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดที่ผู้หญิงคนหนึ่ง เธอจำได้แม่นยำว่าเป็นผู้หญิงแพศยาคนนั้น จีน่ามองจ้องผู้หญิงคนนั้นนิ่ง อีกฝ่ายก็มองมาที่เธอเช่นกัน มุมปากของจีน่ายกขึ้นเล็กน้อย ก่อนเธอจะผละสายตาออกจากแววตาของผู้หญิงหน้าไม่อายคนนั้น

บทก่อนหน้า
บทถัดไป