บทที่ 3 Chapter 3
“แม่เป็นหนี้พวกนี้จริงเหรอคะ” ธันย์ณิชาหันมาถามวรนุชที่น้ำตาอาบแก้ม
“จริงจ้ะ” วรนุชตอบทั้งน้ำตา “ไปบอกเสี่ยวิชัยนะว่า ฉันขอเวลาสักสองวัน แล้วฉันจะเอาดอกไปส่งให้ บางทีก็อาจจะได้เงินต้นด้วย”
“เออ กูจะไปบอกให้ แล้วถ้าอีกสองวันมึงไม่เอาเงินมาใช้หนี้เสี่ยล่ะก็ มึงตาย” โด่งข่มขู่ส่งท้าย หมุนตัวเดินออกจากบ้านของลูกหนี้พร้อมกับลูกน้อง
“แม่จ๋า แม่ แม่ไปติดหนี้พวกนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมวุ้นไม่รู้เรื่องเลยล่ะคะ” พ้นร่างของโด่ง เธอรีบถามมารดาทันที
“แม่ติดหนี้พวกนั้นตั้งแต่วุ้นขึ้นปีสอง ตอนนั้นที่ร้านลูกค้าน้อย รายได้แม่ก็หดหาย พ่อก็มาตกงานอีก ไหนจะค่าเทอม ค่าเรียนพิเศษของวุ้น เงินเลยไม่พอใช้ แม่ก็เลยต้องไปกู้เสี่ยชัย ทบต้นทบดอกมาเรื่อยๆ ก็เป็นเงินล้านห้า วันนี้แม่หาค่าดอกให้เสี่ยไม่ได้ เสี่ยก็เลยให้ลูกน้องมาทวง” วรนุชไขความกระจ่างให้บุตรสาวฟัง
ธันย์ณิชาได้ยินคำตอบถึงกับน้ำตาไหล เป็นเพราะเธอเองที่ทำให้วรนุชลำบาก หาเงินส่งเสียให้ร่ำเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัยเอกชนที่ค่าเทอมๆ ละเกือบห้าหมื่นบาท ไหนจะค่าเรียนภาษา และค่าเรียนทำเบเกอรีที่เธอขอวรนุชเรียนอีก ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายประจำวัน ทั้งที่เธอเป็นเพียงลูกที่เก็บมาเลี้ยง ทว่าวรนุชกับเดชดวงก็เลี้ยงดูเธออย่างดี ไม่ต่างกับลูกในไส้
“ทำไมแม่ไม่บอกวุ้น วุ้นจะได้ดรอปเรียนก่อนหรือไม่ก็ไปเรียนมหา’ลัยเปิด วุ้นจะได้ช่วยแม่หาเงินเป็นค่าใช้จ่าย วุ้นรู้สึกผิดจังเลยแม่” ธันย์ณิชากอดร่างมารดา ร้องไห้ด้วยความสงสารและรู้สึกผิด
“แม่รักวุ้น แม่ทนลำบากได้เพื่อความสำเร็จของวุ้น”
“แม่ขา วุ้นเรียนจบแล้วนะคะ วันนี้ทางมหา’ลัยเพิ่งประกาศผลค่ะ ต่อไปแม่ไม่ต้องลำบากเพื่อวุ้นแล้ว วุ้นจะทำงานหาเงินเลี้ยงพ่อกับแม่เองค่ะ” แม้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์นี้ ธันย์ณิชาก็ตั้งใจทำตามที่พูด
“แม่ดีใจเหลือเกินที่วุ้นเรียนจบ แค่นี้แม่ก็หายเหนื่อยแล้วลูก” วรนุชดีใจที่ลูกสาวเรียนจบ เพราะเป็นเรื่องที่ตนใฝ่ฝันมาตั้งแต่เลี้ยงลูกนอกไส้คนนี้
“แล้วแม่จะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้เขาคะ เงินตั้งเยอะ”
ธันย์ณิชาถามด้วยความเป็นห่วง
“หนี้ก้อนนี้แม่เป็นคนไปเอามา แม่ก็ต้องเป็นคนหาเงินไปใช้เขา” วรนุชพูดเสียงสั่น สีหน้าเต็มไปด้วยความหนักใจ “วุ้นกลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำเถอะลูก แม่ก็จะไปอาบน้ำ ต้องออกไปทำงานแล้ว”
วรนุชพูดเหมือนตัดบท ราวกับว่าไม่ต้องการให้บุตรสาวพลอยเป็นกังวลเรื่องนี้ไปด้วย ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน โดยมีสายตาของลูกสาวมองตามไปอย่างเป็นห่วงและกังวลว่า คนเป็นแม่จะหาเงินมาใช้หนี้จำนวนนี้ได้อย่างไร เพราะเงินไม่ใช่น้อยๆ ที่จะหามาได้ในระยะเวลาสองวัน
คิดไปคิดมาเธอก็เพิ่งนึกได้ว่า ตนเองมีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง แม้ว่าจะไม่มากมายแต่ก็อาจช่วยสมทบจ่ายค่าดอกเบี้ยเสี่ยชัยได้ ธันย์ณิชารีบเดินขึ้นไปบนห้อง หยิบสมุดบัญชีธนาคารที่ตนสะสมเงินไว้ ตั้งใจจะไปเบิกเงินทั้งหมดมาให้วรนุช
หลังจากปิดบัญชีธนาคารที่ตัวเองสะสมเงินออมทั้งหมด ธันย์ณิชาได้ไปยังร้านทองแห่งหนึ่งเพื่อขายแหวนน้ำหนักสองสลึงที่วรนุชซื้อให้ในวันคล้ายวันเกิดเมื่อหลายปีก่อน เพื่อนำเงินมาสมทบกับเงินที่เบิกมา รวมแล้วได้ห้าหมื่นสามพันบาท เงินจำนวนนี้เธอจะนำไปให้วรนุช สะสางหนี้สินที่คั่งค้าง หญิงสาวจึงเดินทางไปยังสถานอาบอบนวดเซนทาร่าทันที
“อ้าววุ้น มาถึงที่นี่เชียวนะ มีธุระอะไรหรือเปล่า”
โสภีหนึ่งในสาวอาบอบนวดทักธันย์ณิชา สีหน้าของคนถามเต็มไปด้วยความแปลกใจที่เห็นอีกฝ่ายที่นี่
“วุ้นมาหาแม่ค่ะพี่จิ๊บ” ธันย์ณิชาตอบ “แม่อยู่ไหนคะพี่”
“เมื่อกี้พี่เห็นอยู่ในห้องทำงาน”
“ขอบคุณค่ะพี่จิ๊บ”
ธันย์ณิชารีบไปห้องทำงานของวรนุชที่อยู่ชั้นสอง และอีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงห้องดังกล่าว ทว่าเสียงพูดคุยที่ดังผ่านประตูห้องที่เปิดแง้มอยู่ทำให้ปลายเท้าของเธอชะงัก เธอหยุดยืนแอบอยู่ริมขอบประตู ยอมเสียมารยาทยืนฟังการสนทนานั้น เพราะหัวข้อเรื่องที่ได้ยิน เรียกความสนใจให้เธอไม่น้อย
“แล้วแม่จะหาใครไปให้พ่อเลี้ยงล่ะ ถ้าแม่หาให้ไม่ทันกำหนด มีหวังแม่เป็นหนี้เพิ่มมากขึ้นแน่ๆ” เจ้าของน้ำเสียงมีสีหน้ากลัดกลุ้ม “หนี้ของแม่ก็เยอะอยู่แล้วด้วย อีกสองวันต้องหาดอกเบี้ยไปให้เสี่ยชัยตั้งสองแสน ไหนจะเงินค่าตัวที่แม่ขอล่วงหน้าจากบรรดาผู้ชายตัณหากลับอีกสองแสนเจ็ดหมื่น รวมแล้วแม่ต้องหาเงินมาให้ได้สี่แสนเจ็ดหมื่นเลยนะ เกือบครึ่งล้านเลยนะแม่ แม่จะหาได้เหรอ จะเอาบ้านเอารถไปจำนองก็ไม่ได้อีก เพราะแม่ยังผ่อนไม่หมด” เอมอรพูดต่อ ยิ่งพูดเธอยิ่งกลุ้มแทนวรนุช
“นั่นสิแม่ แล้วเรื่องที่แม่รับปากพ่อเลี้ยงไว้อีกล่ะ นี่ก็ใกล้วันแล้วนะ แม่ยังหาสาวพรหมจรรย์ให้พ่อเลี้ยงไม่ได้เลย แต่ถ้าหาได้แม่ถือว่าโชคดีมากเลยนะ มีเงินใช้หนี้เสี่ยชัยกับพวกนั้นอีก ถือว่ารอดตัวเลยล่ะ” นภากล่าวเสริม
“เฮ้อ...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน มันมืดแปดด้านไปหมด ประดังกันมาคราวเดียวกันด้วย” วรนุชหาทางออกไม่ได้ ทุกอย่างมันเหมือนติดอยู่ในทางตัน
“ฉันว่านะ มีทางเดียวที่จะทำให้แม่ปลดห่วงไปได้เปลาะหนึ่งคือ แม่ต้องหาสาวบริสุทธิ์ไปให้พ่อเลี้ยง เพราะพ่อเลี้ยงให้เงินตั้งห้าแสน แม่มีเงินไปส่งดอกเสี่ยชัย และใช้หนี้บรรดาเสี่ยที่แม่เอาเงินเขามา ทางอื่นฉันมองไม่เห็นนะ” เอมอรบอก
“ฉันก็เห็นด้วยกับอรนะแม่ แม่รีบหาสาวซิงไปให้พ่อเลี้ยงเถอะ ถ้าแม่หาได้ แม่โล่งไปเยอะเลย ไม่อย่างนั้นนะ แม่ตายกับตาย ไอ้เสี่ยชัยมันโหดอย่างกับอะไรดี ได้ข่าวว่ามันฆ่าลูกหนี้ที่ไม่ใช้หนี้มันมาหลายคนแล้ว ตำรวจก็จับมันไม่ได้ด้วย มันเส้นอภิมหาใหญ่” นภาพูดสมทบ
“ฉันคิดว่า หาผู้หญิงซิงสมัยนี้มันหายากพอๆ กับหาเงินไปใช้หนี้เสี่ยชัยกับเสี่ยอีกหลายคนซะอีก สงสัยงานนี้ฉันต้องเตรียมต่อโลงไว้แล้วละมั้ง” วรนุชถอนหายใจเฮือกใหญ่กับปัญหาที่ตนเผชิญ
