บทที่ 4 Chapter 4

“แล้วพ่อกับศักช่วยอะไรแม่ได้ไหม” เอมอรถามถึงสามีและลูกชายของวรนุช

“จะช่วยอะไรได้ล่ะ แกสองตัวก็รู้ๆ อยู่ แค่ไม่เอาปัญหาใหม่มาให้ฉันก็ถือว่าดีมากแล้ว”

พอพูดถึงเดชดวงกับศักรินทร์ สามีและลูกชายของวรนุช สีหน้าของนางก็หมองเศร้าลง เพราะทั้งคู่ดีแต่สร้างปัญหาให้นางไม่หยุดหย่อน เดี๋ยวเรื่องนั้น เดี๋ยวเรื่องนี้ ทว่าพักหลังทั้งคู่ทำตัวดีขึ้น ไม่นำความเดือดร้อนมาให้นาง แต่ถึงกระนั้นก็วางใจไม่ได้ นางยังกลัวๆ อยู่ว่า อาจจะนำเรื่องปวดหัวมาให้นางสักวัน

“ถ้าอย่างนั้นก็มีทางเดียวนะแม่คือ แม่ต้องหาสาวพรหมจรรย์ให้พ่อเลี้ยง ถ้าแม่ไม่หาแต่ไปหาหนี้สินก้อนใหม่ มันก็จะดินพอกหางหมูไปกันใหญ่ หนี้ไม่ลดแต่กลับเพิ่มขึ้นมา”

ธันย์ณิชาที่ยืนแอบฟังอยู่ใจเต้นแรง เธอไม่คิดว่าวรนุชจะมีปัญหาทางด้านการเงินหนักมากถึงเพียงนี้ อีกทั้งหนี้สินยังเร่งรัดจนหายใจหายคอไม่ออก ระหว่างที่กำลังยืนอึ้งกับการสนทนาที่ได้ยิน สุเมธ พนักงานในลานจอดรถได้เดินมาอีกทางหนึ่ง เขาผลักประตูเข้าไปโดยไม่เคาะ ในมือถือกล่องหนึ่งมาด้วย

“แม่ มีคนฝากกล่องนี้มาให้” สุเมธบอกเจ้าของห้อง

“มึงนี่ไอ้เมธ มึงไม่เคาะประตูห้องอีกแล้วนะ” วรนุชตวาดแว้ดใส่

“โธ่แม่ ก็มันลืมนี่นา เอ้า กล่องที่เขาฝากมา”

“ใครวะที่ฝากมา แล้วในกล่องมีอะไร” วรนุชถามอย่างสงสัย

“ใครไม่รู้ รู้แต่ว่าเป็นผู้ชาย ส่วนในกล่องนี้มีอะไร ฉันไม่รู้เพราะไม่ได้เปิดดู ฉันไปก่อนนะ ลูกค้าเริ่มทยอยมากันแล้ว”​

สุมธเดินออกจากห้องทันทีที่หมดหน้าที่ ปล่อยให้สามชีวิตในห้องต่างสงสัยกล่องปริศนาที่วางอยู่บนโต๊ะ

“ใครให้ของขวัญแม่เนี่ย เปิดเลยแม่เปิดเลย” นภาอยากรู้เช่นกัน

“เออ” วรนุชเปิดกล่องสี่เหลี่ยมที่มีคนฝากมา แต่พอเห็นของในกล่อง สามชีวิตในห้องก็กรีดร้อง

“มะ...แม่ คะ...ใครส่งมาเนี่ย” เอมอรละล่ำละลักถาม มองนิ้วมือโชกเลือดในกล่องอย่างหวาดกลัว

“แม่มันของปลอมนี่ มีคนส่งมาขู่แม่แน่ๆ เลย นี่ไงมีกระดาษอยู่ใต้นิ้วด้วย” นภาหยิบกระดาษที่พับไว้ใต้นิ้วมือปลอมขึ้นมาคลี่อ่าน “แม่ๆ เสี่ยชัยส่งมาขู่แม่น่ะ ในโน้ตนี้เขียนไว้ว่า ถ้าหาเงินไม่ได้ตามกำหนดที่บอก มันจะตัดนิ้วแม่สองนิ้ว ถือเป็นค่าดอกเบี้ย แล้วถ้าหาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้ภายในเจ็ดวัน มันจะฆ่าแม่ทิ้ง”

จดหมายขู่ของเสี่ยชัยมีผลต่อวรนุชทันควัน นางถึงกับหน้ามืดตาลายคล้ายจะเป็นลม ใบหน้านางซีดขาว ความกังวลเพิ่มพูน มีความกลัวเข้ามาแฝง

“ตายแล้วฉัน ฉันจะหาเงินที่ไหนมาให้เสี่ยชัยเนี่ย” หนทางวรนุชยิ่งตันหนักขึ้น นางคิดหาทางอื่นแทบไม่ได้เลย “สงสัยฉันต้องเตรียมงานศพให้ตัวเองจริงๆ ซะแล้ว”

“ไม่หรอกค่ะแม่ แม่ต้องไม่ตาย วุ้นจะช่วยแม่เอง” เสียงของบุคคลที่สี่ ทำให้ทั้งสามหันมามองต้นเสียงที่เดินเข้ามาในห้อง “วุ้นจะยอมตัวให้พ่อเลี้ยง แม่จะได้มีเงินมาใช้หนี้”

ธันย์ณิชาตัดสินใจแน่วแน่ เธอบอกให้ทุกคนรู้ความต้องการอย่างไม่ลังเล เพราะมันเป็นทางเดียวที่ทำให้วรนุชรอดพ้นจากความตาย

เอมอรกับนภาหันมามองสาวสวยหน้าหวาน นิสัยดีด้วยสายตาตกใจ แล้วในสายตาสองคู่นั้นมีความสงสารเห็นใจรวมอยู่ด้วย

“วุ้นแอบฟังแม่คุยกันเหรอ” น้ำเสียงคล้ายตำหนิ

“วุ้นไม่ได้ตั้งใจค่ะแม่ พอดีวุ้นไปเบิกเงินแล้วเอาแหวนทองที่แม่ซื้อให้วุ้นไปขาย วุ้นรวบรวมเงินมาให้แม่ได้ห้าหมื่นกว่าบาท แม่จะได้เอามารวมกับที่แม่หามาได้ แต่วุ้นคิดว่าแม่คงหาไม่ได้แน่ๆ ไม่อย่างนั้นแม่คงไม่กลุ้มใจแบบนี้ วุ้นยินดีแลกความสาวเพื่อให้แม่อยู่รอด ให้แม่หมดหนี้สิน”

แม้ว่าการขายตัวจะไม่เคยอยู่ในสมอง ธันย์ณิชาปฏิญาณตนกับตัวเองไว้ว่า จะไม่มีวันขายร่างกายแลกเงิน ทว่าเธอต้องกลืนคำยึดมั่นหายไปในลำคอ แล้วเอ่ยคำพูดประโยคนี้ออกมา เธอคงจะต้องกล้ำกลืนทั้งน้ำตากับความอดสูครั้งนี้ไปตลอดชีวิต

ธันย์ณิชายอมได้...แต่ยอมไม่ได้ที่เห็นวรนุชต้องตาย

“แม่คงทำตามที่วุ้นต้องการไม่ได้ ไม่มีแม่คนไหนหรอกนะที่จะให้ลูกตัวเองขายตัว แม้ว่าแม่จะมีอาชีพเป็นมาม่าซังก็ตาม” วรนุชปฏิเสธความหวังดีของบุตรสาวบุญธรรม

“แต่มันเป็นความต้องการของวุ้น ที่วุ้นมีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะแม่ ถ้าไม่มีแม่ก็ไม่มีวุ้น ถึงแม้ว่าแม่จะไม่ได้ให้กำเนิด แต่แม่ให้ชีวิต ทำไมวุ้นจะเอาความสาวมอบเพื่อใช้หนี้ให้แม่ไม่ได้คะ ชีวิตของวุ้น วุ้นก็ให้แม่ได้” สำหรับธันย์ณิชา ความบริสุทธิ์เป็นเรื่องรอง ชีวิตของบุพการีที่ชุบเลี้ยงตนมาตั้งแต่เกิดต่างหากที่เป็นเรื่องหลัก ความกตัญญูเป็นเรื่องสำคัญที่เธอต้องยึดมั่นปฏิบัติ แล้วตอนนี้เธอมีโอกาสทดแทนบุญคุณ หญิงสาวจึงไม่ลังเลที่จะทำ

“แม่หาทางอื่นก่อนดีกว่า แม่ทำใจไม่ได้ที่ให้วุ้นทำอย่างนั้น” วรนุชยังคงความตั้งใจเดิม

“ถ้าแม่มีทางอื่นที่ดีกว่านี้ แม่คงไม่มานั่งปรับทุกข์กับพี่อร พี่ภาหรอกค่ะ ที่แม่กลุ้มเพราะแม่ไม่มีทางออก ตอนนี้วุ้นหาทางออกให้แม่แล้ว แม่รับไว้เถอะค่ะ วุ้นเต็มใจขายตัวเพื่อแม่”

น้ำตาของผู้พูดไหลริน ทั้งที่พยายามเก็บกักมันไว้เต็มกำลัง สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ทว่าน้ำตาที่รินไหลแม้ว่าจะมาจากความเสียใจที่ตนต้องพลีกายให้ชายที่ไม่รู้จักเชยชม แต่เธอก็ยังภูมิใจว่า สิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตลูกผู้หญิง แลกกับชีวิตกับวรนุช ถือว่าคุ้มแสนคุ้ม

วรนุชซาบซึ้งในน้ำใจของลูกบุญธรรม ที่นางฟูมฟักมาตั้งแต่เกิด นึกย้อนถึงเลือดในอกอย่างศักรินทร์ที่ไม่เคยทำอะไรเพื่อนางเลย มีแต่จะหาเรื่องปวดหัวมาให้ทุกวัน เรียนหนังสือก็ไม่เรียน เกเรมีเรื่องชกต่อยบ่อยครั้งจนต้องออกจากโรงเรียน ต่างกับธันย์ณิชาที่หมั่นขยันร่ำเรียนอย่างแข็งขัน

“วุ้น...แม่” วรนุชถึงกับพูดไม่ออก ลุกขึ้นเดินมาหาบุตรสาว

“รับไว้เถอะค่ะแม่ วุ้นยินดีและเต็มใจเพื่อแม่” ธันย์ณิชายิ้มบางๆ ส่งให้วรนุช ทว่าน้ำตาก็ยังหยดไหล “ถือว่าเป็นการตอบแทนข้าวแดงแกงร้อนที่แม่เลี้ยงวุ้นมา”

“แม่...แม่ขอบใจมากนะลูก ขอบใจมาก” วรนุชไม่มีทางเลือก อาจจะพูดได้ว่า ไม่มีหนทางให้เลือกก็ว่าได้ นางรั้งร่างบุตรสาวมาสวมกอดไว้แน่น “ขอบใจมากลูก”

“วุ้นถามแม่ข้อนึงได้ไหมคะ”

วรนุชได้ยินถ้อยคำของบุตรสาว นางจึงดันร่างสวยให้ออกห่าง “ถามว่าอะไร”

“ที่พี่อรบอกว่า ถ้าแม่หาผู้หญิงบริสุทธิ์ให้พ่อเลี้ยงคนนั้นได้ แม่จะมีเงินใช้หนี้เสี่ยชัยบางส่วนกับใช้หนี้คนอื่นด้วย พ่อเลี้ยงให้ค่าตัวเยอะเหรอคะแม่” เธอถามในเรื่องที่ติดใจ

“ให้เยอะอยู่ ค่าเปิดพรหมจรรย์ราคาที่แม่ตั้งไว้คือหนึ่งแสน ส่วนอีกสามแสนเป็นค่าตัวที่ต้องอยู่กับพ่อเลี้ยงเพลิงหนึ่งเดือน”

วรนุชบอกราคาค่าตัวให้ลูกสาวรับรู้

“แล้วเงินที่ได้ ใช้ค่าดอกกับจ่ายให้เสี่ยคนอื่นครบไหมคะแม่” เธอยังถามต่อ

“ก็หมดนะ ใช้หนี้เสี่ยชัยสองแสน อีกสองแสนก็ใช้หนี้เสี่ยพวกนั้น ที่เหลือเจ็ดหมื่นแม่พอหาได้”

“ถ้าอย่างนั้นแม่ไปบอกพ่อเลี้ยงเลยว่า แม่หาสาวพรหมจรรย์ได้แล้ว แม่จะได้เอาเงินไปใช้หนี้ แล้วเอาเงินของวุ้นไปสมทบ แม่หาอีกหมื่นกว่าๆ ค่ะ”

ธันย์ณิชาส่งเงินที่หยิบออกมาจากกระเป๋าสะพายให้วรนุช ที่ก้มมองดูเงินในมือของบุตรสาวทั้งน้ำตา นางเอาทั้งเงินและความสาวของธันย์ณิชา มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน

“แม่ขอบใจวุ้นมากนะที่ช่วยแม่ ขอบใจมากๆ เลยลูก”

“ไม่เป็นไรค่ะ วุ้นทนได้ วุ้นทำได้เพื่อแม่...ฮือ”

ธันย์ณิชากอดร่างของสตรีที่เคารพรักสุดหัวใจ สูญเสียเพียงแค่เยื่อบางๆ ไม่เทียบเท่ากับเสียคนที่ตนกอดอยู่ มันจึงเป็นการสูญเสียที่คุ้มค่ายิ่งนัก

เอมอรกับนภาเห็นภาพนี้แล้วถึงกับน้ำตาปริ่ม จนต้องกระพริบตาถี่ๆ เพื่อขับไล่น้ำใสๆ ไม่ให้ไหลออกจากเบ้าตา ทั้งคู่สงสารธันย์ณิชาเหลือเกิน เธอจะรู้หรือไม่ว่า การกระทำทุกอย่าง คำพูดทุกคำในห้องนี้ รวมทั้งเรื่องที่มีคนไปทวงหนี้ที่บ้านของวรนุช คือการจัดฉากของวรนุชทั้งสิ้น แผนที่จะทำให้ธันย์ณิชายอมไปเป็นของเล่นของพ่อเลี้ยงเพลิง โดยที่วรนุชไม่ต้องบังคับขู่เข็ญธันย์ณิชาสักนิดเดียว ใช้ความเจ้าเล่ห์ของตัวเองแค่นี้ ผลที่ออกมาก็สมดังตั้งใจ

ทั้งสองมีความรู้สึกผิดปะปนในจิตใจ เอมอรกับนภาไม่อยากทำเช่นนี้แต่ก็ขัดคำสั่งของวรนุชไม่ได้ จำต้องเล่นละครตบตาอย่างเสียมิได้ พอทำลงไปแล้วเพิ่งมารู้ตัวว่า กำลังผลักธันย์ณิชาให้ก้าวสู่ถนนแห่งราคะ ถนนแห่งความอัปยศ ที่หญิงสาวหลายคนทั้งเต็มใจและไม่เต็มใจเดินบนถนนเส้นนี้

บทก่อนหน้า
บทถัดไป