บทที่ 13 13

ก๊อก ๆ ๆ

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงประตูห้องทำงานก็ถูกเคาะให้สัญญาณก่อนจะเปิดออก หญิงสาวหันไปมองแล้วคลี่ยิ้มกว้างก่อนจะทำหน้างง เธอบอกวางสายกับเพื่อนแล้วยกมือสวัสดีอีกฝ่าย

“ประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ ทำไมเร็วจัง”

“เขาประชุมฝ่ายบุคคลเท่านั้นจ้ะ ไม่ใช่ฝ่ายส่งออก”

“แต่พี่รามบอกนิดว่าพี่ราชเข้าประชุมด้วยนี่คะ”

“พี่รามพูดอย่างนั้นจริง ๆ เหรอ”

“จริงค่ะ ก็ตอนแรกนิดจะให้พี่ราชแวะไปรับที่บ้านเพราะเห็นพี่รามเขามีประชุม แต่พี่รามบอกว่าพี่ราชก็ต้องเข้าประชุมด้วยเหมือนกัน ให้นิดมาพร้อมกับเขาเลยทีเดียว”

ราชคลี่ยิ้มกว้าง เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจว่าทำไมพี่ชายถึงพูดแบบนั้น “พี่รามเขาคงกลัวพี่มาทำงานสายมั้ง แล้วหนูนิดมาทำอะไรที่นี่ล่ะ”

“นิดจะไปหาที่เรียนต่อปริญญาโทค่ะ”

“อ๋อ พี่ก็เรียนอยู่เหมือนกันนะ แต่พี่เรียนปริญญาเอก เพิ่งสมัครไปเอง แล้วหนูนิดได้ที่เรียนหรือยังล่ะ”

“ยังค่ะ แต่ก็มีเลือกไว้บ้างแล้ว”

“ก็ลองไปดูก่อนนะ ถ้าไม่ถูกใจเราค่อยมาคุยกัน”

“ค่ะ หนูนิดสนใจที่นี่เพราะคุณแม่บอกว่าที่นี่หลักสูตรดี เทียบเท่ากับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ นิดก็เลยอยากลองไปดูที่นี่ก่อนค่ะ”

“ดีจ้ะ แล้วหนูนิดจะเรียนภาคปกติหรือว่าภาคพิเศษล่ะ”

“ตั้งใจว่าจะเรียนภาคพิเศษนะคะ”

“ไม่ดีหรอกหนูนิด เรียนภาคปกติเถอะเชื่อพี่” ถ้าเธอเลือกเรียนภาคพิเศษ เธอกับพี่ชายของเขาก็คงจะห่างเหินกันไปอีกเพราะวันหยุดไม่ตรงกัน แล้วความหวังของมารดาก็อาจจะเป็นจริงขึ้นมาก็ได้

“ทำไมเหรอคะพี่ราช”

“พี่คิดว่าวันเสาร์อาทิตย์เป็นวันของครอบครัวนะ แต่ถ้าหนูนิดไม่กลัวว่าคนอื่นจะมาทำหน้าที่แทนพี่แก้ว หนูนิดจะเรียนภาคพิเศษก็ได้ ก็แล้วแต่หนูนิดนะ”

“ตกลงค่ะ นิดจะเรียนภาคปกติ ขอบคุณนะคะที่เตือนสตินิด ไม่งั้นนิดพลาดแน่ ๆ”

ราชคลี่ยิ้มกว้างก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน รู้สึกภูมิใจตัวเองนิด ๆ ที่ฉลาดหลอกล่อให้เธอคล้อยตามได้สำเร็จ

พวกเขาทั้งสองพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเรื่องเรียนกันไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้สนใจเวลาที่ผ่านไปมากกว่าครึ่งชั่วโมง

ขณะนั้นเองประตูห้องทำงานก็เปิดออกอีกครั้ง และคนที่เข้ามาก็เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจที่เห็นคนอื่นอยู่ในห้องอีกคน

“ทำไมไม่เข้าประชุมนายราช” รามทำทีเป็นตำหนิน้องชายหน้าตาเฉย

“ผมต้องเข้าด้วยเหรอพี่ราม ไม่เห็นมีใครแจ้งนี่”

“ทำไมต้องมีใครแจ้งด้วย ในเมื่อพี่เคยบอกนายแล้วว่าให้เข้าร่วมประชุมทุกครั้งในฐานะน้องชายของพี่”

ราชอ้ำ ๆ อึ้งๆ พูดไม่ออกไปเลยทีเดียว ครั้งนี้ไม่ใช่ประชุมผู้ถือหุ้นนะ มันแค่ประชุมฝ่ายบุคคลเองไม่ใช่เหรอ ทำไมเขาต้องเข้าร่วมด้วยล่ะ

“นายคงไม่เข้าใจความหมายที่พี่เคยพูดกับนายสินะ เอาเป็นว่าต่อไปนี้ให้เข้าร่วมด้วยทุกครั้งก็แล้วกัน”

“ครับพี่ราม”

“มีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีก็ไปทำงานได้แล้ว”

“......” ราชงงเป็นรอบที่สอง เขามองไปที่หญิงสาวแล้วยักไหล่น้อย ๆ “ครับพี่ราม พี่ไปก่อนนะหนูนิด แล้วค่อยโทรคุยกันนะ”

“ค่ะพี่ราช บายค่ะ” เธอโบกมือลาเขา

“หนูนิดสนิทกับราชมากเหรอ” รามรอจนน้องชายออกไปจากห้องแล้วจึงถามหญิงสาว เขาหรืออุตส่าห์รีบประชุมเพราะไม่อยากให้เธอคอยนาน แต่ก็ต้องเสียความรู้สึกเมื่อกลับมาเห็นแบบนี้

“สนิทค่ะ พี่ราชเป็นเพื่อนคนเดียวของนิดนี่คะ”

“แล้วทำไมไม่ให้ราชพาไปดูที่เรียนล่ะ”

“นิดอยากไปกับพี่รามมากกว่านี่คะ” ถ้าเธอไปกับราช ก็ไม่ได้ยั่วพินแพรน่ะสิ

รามเหลียวมองหญิงสาวด้วยสายตาเคลือบแคลง สงสัยว่าที่เธอพูดนั้นแค่ต้องการเอาใจหรือว่าเป็นเรื่องจริง

“จริง นะคะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมตัวได้แล้ว เราจะไปกันเดี๋ยวนี้แหละ”

“ค่ะ” เธอตอบรับอย่างร่าเริง แล้วหยิบกระเป๋าเป้แฟชั่นแบรนด์ดังขึ้นสะพายหลังทันที ไม่นานทั้งสองก็เดินเคียงคู่กันออกไปจากห้อง ผ่านหน้าพินแพรที่เพิ่งเดินมาถึงโต๊ะทำงานพอดี

รามหยุดยืนที่หน้าโต๊ะของเธอ แล้วบอกกับเธอว่าจะออกไปทำธุระข้างนอก วันนี้ให้เลื่อนนัดลูกค้าไปก่อน

“แต่แพรเพิ่งรับนัดคุณปนัดดาไปเองค่ะพี่ราม วันนี้ตอนบ่ายสามโมง”

“โทรไปเลื่อนนัดเป็นพรุ่งนี้แทนก็แล้วกัน”

“แต่ว่า..” พินแพรทำหน้าลำบากใจ เพราะในบรรดาลูกค้าของบริษัท แม่ม่ายทรงเครื่องวัยสี่สิบนามว่าปนัดดาคนนั้นเดาใจยากที่สุด และอารมณ์ร้ายที่สุดเลยก็ว่าได้

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวพี่โทรไปบอกคุณนัดเธอเอง”

“แพรว่าอย่างนั้นน่าจะดีกว่าค่ะ” เธอยิ้มออกเมื่อได้ยินดังนั้น “แล้วพี่รามจะไปไหนเหรอคะ เผื่อคนในบริษัทถามแพรได้ตอบถูก”

ได้คืบจะเอาศอกจริงนะหล่อน สิริญ่าคิดในใจก่อนจะคลี่ยิ้มกว้าง และตอบแทนพี่เขยของตน

“นิดชวนพี่รามไปดูที่เรียนแถวคลองจั่น เสร็จแล้วจะเลยไปทำธุระแถวๆ ถนนโพธิ์แก้วด้วย ตอบไปตามนี้ก็แล้วกันนะคะคุณแพร”

“คุณนิดจะมาเรียนต่อที่เมืองไทยเหรอคะ”

“ค่ะ ทำไมคุณแพรทำหน้าแปลกๆ อย่างนั้นล่ะ” ไม่เก็บอาการเลยนะหล่อน

“ขอโทษที่เสียมารยาทค่ะ แต่การเรียนที่ออสเตรเลียน่าจะดีกว่าที่ไทยมาก แพรก็เลยแปลกใจที่คุณนิดเลือกเรียนที่ไทยก็เท่านั้น” ถ้าเธอตัดสินใจเลือกที่เรียนแบบนี้ แสดงว่าเธอจะอยู่ที่นี่ไปอีกอย่างน้อย ๆ ก็สองถึงสามปีเลยสิ แบบนี้โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับรามก็ยิ่งยากไปอีกล่ะสิ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป