บทที่ 5 พี่น้องพบกันแล้ว

ไม่เจอกันตั้งสามปี กลับมาเจอกันอีกครั้งในสภาพแบบนี้ มันออกจะดูเหมือนละครฉากหนึ่งไปหน่อยนะ

อรวินท์สูดหายใจเข้าลึกๆ มองเจตน์ด้วยสายตาเรียบเฉย แล้วหันหลังเตรียมจะเดินหนี

วิ่งไปได้เพียงไม่กี่ก้าว เจตน์ก็ไล่ตามมาทัน เขาคว้าแขนเธอไว้อย่างรวดเร็ว ใบหน้าเคร่งขรึมลงทันที "เตะฉันแล้วคิดจะหนีงั้นเหรอ? ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!"

อรวินท์หันกลับมา สบเข้ากับแววตาอันเยือกเย็นของเขาพอดี ท่าทางของเขาตอนนี้เหมือนกับตอนที่เขาอุ้มลูกของเธอไปอย่างเลือดเย็นเมื่อสามปีก่อนไม่มีผิด

ความทรงจำเมื่อสามปีก่อนไหลย้อนกลับมา อรวินท์พลันยิ้มหวาน แต่แฝงไว้ด้วยความเยือกเย็น

"เจตน์ คุณบีบให้ฉันต้องทำแบบนี้เองนะ!"

อรวินท์เปลี่ยนจากฝ่ายตั้งรับเป็นฝ่ายรุก พุ่งตัวเข้าหาเขาอย่างรวดเร็ว

แววตาของเจตน์ฉายแววตระหนก ยังไม่ทันที่เขาจะตอบโต้ ลำคอของเขาก็ถูกของมีคมจ่อเอาไว้ สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก

ร่างกายของเขาแข็งทื่อ "ไม่เจอกันสามปี เธอใจกล้าขึ้นเยอะเลยนี่"

อรวินท์ยิ้มเย็นเลียนแบบท่าทางของเขา "ก็ต้องขอบคุณความใจดำของคุณนั่นแหละ ที่ทำให้ฉันตาสว่างได้ทันเวลา คุณเจตน์ ปล่อยฉันไปซะ ไม่อย่างนั้นฉันคงคุมของในมือไม่อยู่แน่"

ภายใต้แสงจันทร์ ด้ามช้อนอันแหลมคมส่องประกายแวววาว เพียงแค่เธอออกแรงอีกนิด ลำคอของเจตน์คงได้เป็นรูแน่

เมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นที่ลำคอ เจตน์หรี่ตามองด้วยความอำมหิต "นี่เธอกล้าขู่ฉันเหรอ? อยากตายนักใช่ไหม!"

อรวินท์ยิ้มจางๆ พร้อมกับกดมือหนักขึ้น "คุณเจตน์ ถ้าคุณยังพูดมากอีก คนที่อยากตายคงจะเป็นคุณแล้วล่ะ"

เพียงแค่ขยับเบาๆ ด้ามช้อนที่แหลมคมก็บาดผิวหนังที่ลำคอของเขา เจตน์เจ็บจี๊ด เลือดสีแดงสดค่อยๆ ไหลซึมลงมา

เจตน์จ้องมองเธอเขม็ง หากสายตาฆ่าคนได้ อรวินท์คงตายไปเป็นพันครั้งแล้ว

อรวินท์เห็นเขาไม่สะทกสะท้าน จึงออกแรงกดเพิ่มขึ้นอีก

ในที่สุด เจตน์ก็ยอมปล่อยเธอ

อรวินท์ได้รับอิสระก็รีบถอยหลังไปหลายก้าว ก่อนจะหันหลังวิ่งหายไปในความมืด

ขณะปีนกำแพงหนี เธอหันกลับมามองเจตน์ ชูด้ามช้อนในมือขึ้นโบกไปมาพร้อมรอยยิ้มหวาน "คุณเจตน์ บ๊ายบาย ลาก่อนและไม่ต้องเจอกันอีกนะ"

ใบหน้าของเจตน์มืดครึ้มลงทันที ผู้หญิงบ้าเอ๊ย!

คนหนีไปแล้ว บอดี้การ์ดก็เพิ่งมาถึง หัวหน้าบอดี้การ์ดถามเสียงเบาอย่างไม่กลัวตายว่า "คุณเจตน์ครับ เห็นผู้หญิงที่วิ่งมาทางนี้ไหมครับ?"

เจตน์ตวาดลั่น "ไสหัวไป!"

บอดี้การ์ดไม่กล้าพูดอะไรอีก รีบถอยฉากออกไปทันที

เจตน์ยืนตัวตรงอยู่ที่เดิม นิ้วเรียวยาวเช็ดคราบเลือดที่ลำคอเบาๆ ความเจ็บปวดเล็กน้อยเตือนให้เขารู้ว่าเรื่องเมื่อกี้คือความจริง

สามปีแล้ว ผู้หญิงคนนี้กล้ากลับมางั้นเหรอ!

กลับมาไม่พอ เธอยังกล้าแอบเข้ามาในบ้านเก่าเพื่อขู่เขาอีก!

ดี ดีมาก!

ยิ่งคิดเจตน์ก็ยิ่งโมโห เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออก "อรวินท์กลับมาแล้ว ไปสืบมาว่าพักอยู่ที่ไหน เจอตัวแล้วลากคอมาให้ฉันเดี๋ยวนี้! ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม!"

ผู้หญิงบ้า เขาจะทำให้เธอรู้ซึ้งว่าจุดจบของการขู่เขามันน่าสมเพชแค่ไหน!

...

ดึกสงัด อรวินท์กลับมาถึงบ้านใหม่ ซ่อน "อาวุธ" เรียบร้อยแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเดินเข้าห้องนอน

พี่รมย์ชลีเฝ้าอยู่ข้างเตียงจินตหรา พอเห็นอรวินท์กลับมาก็รีบลุกขึ้น "คุณคะ เป็นยังไงบ้าง? ได้เจอคุณหนูไหมคะ?"

อรวินท์พยักหน้า มุมปากยกยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอเปิดรูปในมือถือให้พี่รมย์ชลีดู

พี่รมย์ชลีตาเป็นประกาย ประคองมือถือดูด้วยรอยยิ้มดีใจ "เหมือนค่ะ เหมือนจริงๆ! คุณคะ ตาของคุณหนูเหมือนตาของคุณเปี๊ยบเลย!"

ในหัวของอรวินท์ปรากฏภาพณัฐนนท์นั่งเล่นเลโก้อย่างเงียบๆ แววตาของเธอฉายแววอ่อนโยน

รมย์ชลีคืนมือถือให้เธอ แล้วถามอย่างเป็นห่วง "จริงสิคะคุณ ตอนกลับมาไม่มีใครเห็นใช่ไหมคะ?"

อรวินท์ส่ายหน้า "ฉันระวังตัวมาก ไม่น่าจะมีใครเห็นหรอกค่ะ"

พี่รมย์ชลีพยักหน้า ถอนหายใจอย่างโล่งอก "งั้นก็ดีแล้วค่ะ"

เหตุการณ์เมื่อสามปีก่อนที่ณัฐนนท์ถูกอุ้มไป ยังคงทำให้รมย์ชลีหวาดผวาจนถึงทุกวันนี้ เธอเลยต้องระวังตัวเป็นพิเศษ

ขณะที่คุยเรื่องสัพเพเหระกันอยู่ มือป้อมๆ คู่หนึ่งก็เข้ามากอดอรวินท์ "หม่ามี้ กลับมาแล้วเหรอคะ!"

หัวใจของอรวินท์อ่อนยวบ เธอยิ้มพลางกอดจินตหราไว้ในอ้อมแขน จิ้มจมูกลูกสาวเบาๆ "ยัยตัวแสบ ทำไมยังไม่นอนอีกหืม?"

จินตหราทำตาโต ยิ้มแฉ่งตอบว่า "ก็หม่ามี้ไม่อยู่ หนูนอนไม่หลับนี่นา"

มือน้อยๆ อวบอ้วนของเธอดึงมืออรวินท์ ถามอย่างคาดหวังว่า "หม่ามี้ เจอพี่ชายแล้วเหรอคะ? พี่ชายเป็นยังไงบ้าง? สบายดีไหม?"

เห็นท่าทางร้อนรนของลูก อรวินท์ก็ยิ้มมุมปาก เอารูปออกมาให้ดู

จินตหราจ้องรูปตาเขม็ง ผ่านไปพักใหญ่ถึงเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างจริงจัง "หม่ามี้ นี่พี่ชายของหนูเหรอคะ?"

อรวินท์พยักหน้า พลางทัดผมที่ปรกหูให้ลูกสาว

จินตหรายิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายวิบวับ "พี่ชายหน้าสวยจังเลยค่ะ"

สวยกว่าเธอซะอีก เธออยากเจอพี่ชายจังเลย ไม่รู้ว่าพี่ชายจะคิดเหมือนเธอไหมนะ?

ไม่สิ พี่ชายดูเหมือนจะยังไม่รู้ว่ามีเธออยู่บนโลกนี้ด้วยซ้ำ!

ไม่เป็นไรหรอก เธอน่ารักขนาดนี้ พี่ชายเห็นแล้วต้องชอบเธอแน่ๆ

อรวินท์มองด้วยความปลื้มใจ เธอเก็บมือถือแล้วลูบผมจินตหราเบาๆ "เด็กดี นอนก่อนนะ พรุ่งนี้หม่ามี้จะพาไปโรงเรียนอนุบาล"

จินตหราพยักหน้าอย่างว่าง่าย ปีนลงจากตักอรวินท์อย่างทุลักทุเล แล้วกลับไปนอนบนเตียง หลับตาพริ้ม ไม่นานก็ผล็อยหลับไป

แสงจันทร์สลัว อรวินท์เฝ้าอยู่ข้างเตียงจินตหรา มองใบหน้ายามหลับใหลของลูกสาวอย่างครุ่นคิด

...

เช้าวันรุ่งขึ้น จินตหราตื่นแต่เช้า พออรวินท์ตื่นมาเตรียมทำอาหารเช้า จินตหราก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกแล้ว

เพราะโฆษณาตัวต่อไปของจินตหราจะถ่ายทำในอีกสามเดือนข้างหน้า อรวินท์เลยหาโรงเรียนอนุบาลให้ การไปโรงเรียนย่อมดีกว่าอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน

สองแม่ลูกทานอาหารเช้าเสร็จ ก็จูงมือกันออกจากบ้าน

เพื่อป้องกันไม่ให้จินตหราเป็นข่าวมากเกินไป อรวินท์จึงตั้งใจเลือกโรงเรียนอนุบาลที่มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง

เธออยากให้จินตหราได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กคนอื่นๆ มีวัยเด็กที่มีความสุข

พอถึงโรงเรียน จินตหราก็ดูแตกต่างจากเด็กใหม่คนอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด

เธอไม่ร้องไห้งอแง หลังจากโบกมือลาอรวินท์ที่หน้าประตู ก็เดินตามคุณครูเข้าโรงเรียนไปอย่างว่าง่าย

เธอเหมือนเจ้าหนูจำไม มองซ้ายมองขวา สงสัยไปหมดทุกอย่าง แถมยังเข้าไปปลอบเพื่อนที่กำลังร้องไห้อีกต่างหาก

หน้าโรงเรียน อรวินท์เพิ่งจะคล้อยหลังไป รถตู้เบนซ์คันหนึ่งก็มาจอดเทียบท่าที่หน้าประตู

ประตูรถค่อยๆ เปิดออก ณัฐนนท์ในชุดสูทตัวจิ๋วที่ดูเนี้ยบกริบเดินลงมาจากรถ

เขาเบิกตากว้าง เงียบกริบไม่พูดไม่จา

อาจเพราะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง จินตหราที่กำลังปลอบเพื่อนอยู่ก็เงยหน้าขึ้น ดวงตากลมโตเป็นประกาย "พี่ชาย!"

พี่ชายของเธอมาแล้ว!

ณัฐนนท์เพิ่งเดินมาถึงหน้าห้องเรียน จินตหราก็วิ่งเข้ามาหา เป็นฝ่ายจับมือณัฐนนท์ไว้ แล้วพูดเสียงเจื้อยแจ้วว่า "พี่ชาย หนูเป็นน้องสาวของพี่นะ"

ณัฐนนท์เงยหน้าขึ้น สบตาเธอ

น้องสาว? เขามีน้องสาวเพิ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่?

เขาชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็ยิ้มออกมา

บอดี้การ์ดและพ่อบ้านที่มองอยู่ไกลๆ ถอนหายใจอย่างโล่งอก ณัฐนนท์เป็นคนเก็บตัว ไม่ชอบพูดมาตั้งแต่เด็ก ไม่ชอบสุงสิงกับใคร พอเห็นเขายิ้มให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง พ่อบ้านก็แปลกใจมาก

เด็กผู้หญิงหน้ากลมๆ หน้าตาน่ารักมาก ดวงตาสุกใส มองแวบแรกก็ดูคล้ายกับณัฐนนท์อยู่เหมือนกันนะ!

ไม่ว่าจะยังไง ในที่สุดเขาก็มีเรื่องไปรายงานนายหญิงใหญ่แล้ว

จินตหราดึงเขามานั่งข้างๆ ณัฐนนท์ไม่ขัดขืน กลับรู้สึกว่ามือน้อยๆ ที่อวบอ้วนของเธอนุ่มนิ่มน่าจับดี

จินตหราหยิกแก้มเขาเบาๆ "พี่ชาย ตัวจริงพี่สวยกว่าในมือถืออีกนะเนี่ย!"

ในมือถือ?

ณัฐนนท์กะพริบตาปริบๆ มองเธออย่างไม่เข้าใจ

จินตหราทำไม้ทำมือวุ่นวาย อธิบายไม่ถูก ทำเอาณัฐนนท์อดขำไม่ได้

"เมื่อกี้เธอบอกว่าเป็นน้องสาวฉันเหรอ?"

จินตหรายิ้มตอบ "ใช่แล้ว หนูถามหน่อยสิ ปะป๊าของพี่ชื่อเจตน์ใช่ไหม?"

ณัฐนนท์ตาเป็นประกาย พยักหน้าหงึกๆ

จินตหราส่งเสียง "อื้ม" แล้วว่า "งั้นก็ไม่ผิดแล้วล่ะ"

พูดจบ เธอก็หยิบกระจกออกมาจากกระเป๋า ส่องไปที่หน้าของทั้งคู่ "พี่ดูสิ หน้าเราเหมือนกันไหม? โดยเฉพาะดวงตาเนี่ย?"

ณัฐนนท์ขยับเข้ามาใกล้ กะพริบตาปริบๆ ก็เหมือนกันจริงๆ นั่นแหละ แต่เขาไม่เห็นรู้เลยว่าตัวเองมีน้องสาวด้วย?

จินตหราเห็นเขายังทำหน้าสงสัย ก็เลยหยิบจี้หยกออกมาจากกระเป๋านักเรียน "พี่ชาย พี่มีอันนี้เหมือนกันใช่ไหม?"

พอเห็นจี้หยก ณัฐนนท์ก็ผงกหัวรัวๆ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป