บทที่ 1 ตอนที่ 1
พ่อผัวในตำนาน
นิยายในเซตนี้ประกอบด้วย พ่อผัวในตำนาน
สุดแค้นแสนหื่น แด๊ดดี้ที่รัก
ผู้เขียน : กาสะลอง
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น
ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล
และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา
อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
……….
นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา
ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์
ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง
ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง
เราเตือนท่านแล้ว
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2537
ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น
พ่อผัวในตำนาน
“ดาจ๊ะ… นี่พ่อรัมภ์… คุณพ่อของผม”
‘พีรพงษ์’ และนำ ‘ดาลัน’ กับ ‘ชรัมภ์’ ผู้เป็นบิดา ในวันที่พาดาลันเข้ามาอยู่ร่วมบ้าน ในฐานะ ‘เมีย’ ที่จะใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกันต่อไปในอนาคต
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ”
ดาลันยกมือไหว้พ่อสามีที่เพิ่งมีโอกาสได้เจอกันครั้งแรก หล่อนเคยได้ยินชื่อของชรัมภ์มานาน เพราะว่าพีรพงษ์เคยเอ่ยออกมาให้ได้ยินบ่อยๆ เพียงแต่หล่อนยังไม่เคยเห็นหน้า… กระทั่งวันนี้
และสาเหตุที่ทำให้หญิงสาวตะลึงมองพ่อสามี มองแล้วมองอีก ก็เพราะว่าพีรพงษ์ไม่เคยบอกว่าเขามีพ่อเป็นฝรั่ง หน้าตาคมคร้ามหล่อเหลาทำเอาใจสั่น รูปร่างสูงใหญ่ที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้ความสูงน่าจะเกินร้อยแปดสิบเซนติเมตร เนื้อตัวกำยำล่ำลันไปด้วยมัดกล้าม เส้นขนสีดำแผ่กระจายเป็นแพทั่วแผงอก เว้นไว้เฉพาะรอบๆ เม็ดหัวนมขนาดเท่าเม็ดถั่วแดง ที่ดาลันมองเห็นก็เพราะว่าพ่อสามีสวมเพียงกางเกงขาก๊วย หรือที่คนเหนือเรียกว่าเตี๋ยวสะดอ
หน้าตาของชรัมภ์ช่างคมคร้ามหล่อเหลาเหลือเกิน ผิวของเขาเป็นสีแทน คล้ายพวกลาตินอเมริกา ใบหน้าคมเข้ม ดวงตาสีสนิมเหล็กคมกริบ เขาไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของ
พีรพงษ์ แต่เป็นพ่อเลี้ยงที่เลี้ยงดูพีรพงษ์มาตั้งแต่เล็ก
“สวัสดีครับ… ”
ชรัมภ์ยกมือรับไหว้ลูกสะใภ้ สะดุดตากับหญิงสาววัยกำดัด ใบหน้าของดาลันสะสวยจนเขาตะลึงมอง ทรวดทรงของหล่อนช่างอรชรอ้อนแอ้น สะโพก อก เอวดูเซ็กซี่ ผิวพรรณขาวผ่องดูราวกับนางเอกหนังเอวีญี่ปุ่นยังไงยังงั้น
“ที่นี่เป็นบ้านนอก บ้านป่า ห่างไกลความเจริญ พ่อหวังว่าหนูจะปรับตัวอยู่ได้นะจ๊ะ”
เพราะหล่อนเรียกเขาว่า ‘พ่อ’ ชรัมภ์จึงต้องแทนตัวเองว่า ‘พ่อ’ กล่าวพลางแลไปรอบๆ บ้านไม้สักหลังใหญ่ โอบล้อมไว้ด้วยพงไพรพนา ด้านหลังเป็นภูเขาและน้ำตก ด้านหน้าเป็นทุ่งหญ้าและไร่องุ่นกว้างขวางสุดลูกหูลูกตา
“ดาชอบค่ะ… ที่นี่สวยมาก บรรยากาศดีมากค่ะคุณพ่อ ที่ผ่านๆ มาวันๆ ดาใช้ชีวิตอยู่แต่ในกรุงเทพฯ อยู่มานานหลายปีก็รู้สึกเบื่อค่ะ วันๆ เจอแต่มลพิษและรถติด รู้สึกดีมากๆ ค่ะที่ได้ออกมาเจอชนบทแบบนี้”
ดารันกล่าว ชรัมภ์ยิ้ม
“ดาจ๋า… รู้ว่าคุณชอบผมก็ดีใจ… ”
พีรพงษ์หอมแก้มดารัลเสียงดังฟอดโดยไม่เกรงใจพ่อที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“พ่อสั่งให้ป้าผินให้เตรียมห้องไว้แล้ว… พาเมียแกขึ้นบ้านก่อนเถอะเจ้าพีร์”
ชรัมภ์ผายมือเชื้อเชิญลูกชายกับลูกสะใภ้แสนสวยให้เข้ามาในบ้านหลังใหญ่ ตอนนี้ข้าวปลาอาหารตั้งรอเอาไว้พร้อมอยู่ที่โต๊ะในครัว
‘ป้าผิน’ ที่ถูกกล่าวถึงเมื่อครู่ ก็คือหญิงสูงวัยอายุเฉียดหกสิบ เป็นคนคอยดูแลทำความสะอาดบ้านและหุงหาข้าวปลาอาหารให้กับชรัมภ์และคนงานในไร่อีกสิบกว่าชีวิตที่เขาจ้างไว้ทำงาน
แม้ว่าทุกวันนี้ชรัมภ์เป็นเจ้าของไร่องุ่นหลายร้อยไร่ แต่เขาก็ไม่ได้ลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง
ฐานะของชรัมภ์ร่ำรวยเข้าขั้นเศรษฐี หลังจากได้รับมรดกจากบิดาซึ่งเป็นชาวอเมริกันเมื่อสิบปีก่อน เขาเอาเงินมรดกที่ได้รับมาซื้อไร่องุ่น ลงทุนจ้างคนงานหลายสิบคนไว้ทำงานในไร่ โดยมี ‘ลุงมั่น’ สามีของป้าผินช่วยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงดูแลคนงานแทนเขาอีกที
ด้วยทุกวันนี้ชรัมภ์มีงานอิดเรกที่ทำด้วยใจรักมานานกว่าสิบปี ด้วยเบื้องหลังฐานะเจ้าของไร่องุ่น ชรัมภ์คือศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะ เขาเป็นประติมากรมีชื่อเสียงโด่งดังระดับชาติ แต่ด้วยความที่ชรัมภ์เป็นคนรักสันโดษ มีโลกส่วนตัวสูง ในแต่ละวันชรัมภ์มักจะเก็บตัวทำงานอยู่ในมุมสงบของตัวเอง ขลุกตัวอยู่กับงานปั้นและงานแกะสลักไม้ที่เขารัก
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ความสามารถทางด้านศิลปะของชรัมภ์จะถ่ายทอดมาถึงพีรพงษ์ผู้เป็นลูกชายซึ่งเขาเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก แต่ที่ต่างออกไปก็คือพีรพงษ์ถนัดงานทางด้านจิตรกรรมมากกว่างานประติมากรรม ก็คือถนัด ‘วาด’ มากกว่า ‘ปั้น’
ทุกวันนี้พีรพงษ์ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงระดับประเทศเช่นกัน ผู้คนในแวดวงศิลปะรู้จักเขาเป็นอย่างดี ด้วยฝีมือการเขียนภาพสีน้ำมันขั้นเทพที่กวาดรางวัลระดับประเทศและระดับโลกมาแล้วมากมาย
