บทที่ 2 การเปิดเผยของสื่อ
ทันใดนั้น เสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้นจากหน้าประตู กองทัพนักข่าวที่ดักซุ่มรออยู่หน้าโรงแรมต่างเตรียมพร้อมที่จะแฉความลับอันดำมืดนี้ให้โลกได้รับรู้
"ปัง!" ประตูห้องพักถูกผลักเปิดออกอย่างแรง เหล่านักข่าวกรูกันเข้ามา แสงแฟลชวูบวาบระยิบระยับไม่หยุดหย่อน เลนส์กล้องทุกตัวต่างจับจ้องไปที่ทั้งสองคน
"ท่านประธานครับ ได้ข่าวว่าท่านกำลังคบหากับคุณหนูตระกูลแจ่มสว่าง ช่วยให้สัมภาษณ์หน่อยได้ไหมครับ?"
"ไสหัวไป!" แคมป์ตะคอกเสียงดังลั่น สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที ดวงตาลุกโชนด้วยความโกรธเกรี้ยว ความไว้วางใจที่มีต่อพันดาวพังทลายลงในชั่วพริบตา
"แคมป์คะ... ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าพวกเขาตามมาเจอที่นี่ได้ยังไง" พันดาวรีบยกมือขึ้นปิดหน้าด้วยความตื่นตระหนก ในใจเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
"น่าสมเพชสิ้นดี! ละครฉากนี้มันก็คือหลักฐานว่าเธอวางแผนจับฉันชัดๆ!" แคมป์หันกลับมามองอย่างไร้เยื่อใย เมินเฉยต่อการมีตัวตนของพันดาวโดยสิ้นเชิง ในใจเขาอยากจะหนีไปให้พ้นจากที่นี่เสียเดี๋ยวนี้
และเขาก็ทำเช่นนั้นจริงๆ
"อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก" แคมป์จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ แล้วเดินดุ่มๆ ตรงไปที่ประตู ทำหูทวนลมใส่คำถามของนักข่าวที่รุมล้อมเข้ามา
เหล่านักข่าวต่างพากันรุมล้อมเข้าไปด้วยความตื่นเต้น แสงแฟลชสาดส่องจนห้องสว่างจ้าไปทั่ว พันดาวมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างหมดหนทาง หัวใจเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง "แคมป์..."
แผ่นหลังของแคมป์ดูเย็นชาจับใจท่ามกลางแสงแฟลชที่วูบวาบ ทิ้งให้พันดาวต้องเผชิญชะตากรรมอยู่ภายในห้องเพียงลำพัง น้ำตาแห่งความเสียใจไหลรินลงมาอย่างห้ามไม่อยู่
ตระกูลผลิพัฒน์คือตระกูลอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง ทั้งยังเป็นตระกูลผู้ดีเก่าแก่ คุณปู่กิรติผู้ยึดมั่นในขนบธรรมเนียม เมื่อทราบเรื่องอื้อฉาวนี้ จึงประกาศงานแต่งงานระหว่างแคมป์และพันดาวทันที
นับตั้งแต่วันที่ได้พบกับแคมป์ในวัยสิบขวบ เมล็ดพันธุ์แห่งความรักก็ได้ถูกฝังลงในหัวใจของพันดาว
ตลอดสิบสองปีที่ผ่านมา เพื่อที่จะก้าวตามแคมป์ให้ทัน เธอพยายามพัฒนาตัวเองอย่างหนัก เพียงเพื่อหวังว่าจะได้มองเห็นเขาชัดๆ ท่ามกลางผู้คนมากมาย
การได้แต่งงานกับเขาในตอนนี้ สำหรับพันดาวแล้วมันเหมือนกับความฝัน... แต่มันกลับไม่ใช่ฝันดีอย่างที่คิด
เพราะแคมป์ไม่ได้รักเธอ มิหนำซ้ำยังรังเกียจและเกลียดชังเธอด้วยซ้ำ เขาเกลียดที่การปรากฏตัวของเธอทำให้เขาต้องผิดคำสัญญากับหญิงคนรัก ซึ่งก็คือ 'มาลินี' พี่สาวของเธอนั่นเอง
แต่งงานกันมาสามเดือนแล้ว แคมป์ไม่เคยทำหน้าดีๆ ใส่เธอเลยสักครั้ง แต่พันดาวก็ยังยอมรับมันด้วยความเต็มใจ เธอเฝ้าฝันว่าสักวันแคมป์จะกลับมาอ่อนโยนกับเธอเหมือนในวัยเด็ก และหวังว่าเขาจะเปลี่ยนใจมารักเธอ
แต่ความฝันก็เป็นได้เพียงแค่ความฝัน
ท้ายที่สุด พันดาวก็ยังไม่ได้รับความรักจากแคมป์ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเครียดหรือเปล่า ช่วงนี้เธอจึงรู้สึกไม่ค่อยสบายเนื้อสบายตัว
พันดาวจึงตัดสินใจมาโรงพยาบาลเพียงลำพัง
พันดาวนั่งอยู่ในห้องตรวจ ข่าวดีเรื่องการตั้งครรภ์ถาโถมเข้ามาดั่งคลื่นลูกใหญ่ ใบหน้าของเธอเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขและความตื่นเต้น ในใจวาดฝันถึงอนาคตไม่หยุดหย่อน "ฉันกำลังจะได้เป็นแม่คนแล้วจริงๆ!" เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ หัวใจพองโตด้วยความคาดหวัง
ทว่า เมื่อเธอรีบกดโทรศัพท์หาแคมป์ สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงเสียงสัญญาณรอสายที่ว่างเปล่าและเย็นชา
ดูเหมือนว่าแคมป์จะไม่ยอมรับสายเธอเลย ความร้อนใจปะทุขึ้น แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้
"ทำไมเป็นแบบนี้นะ... เขาคงกำลังยุ่งอยู่แน่ๆ" พันดาวพึมพำปลอบใจตัวเอง สุดท้ายทำได้เพียงเก็บความปิติยินดีและความคาดหวังนั้นไว้กับตัวเพียงลำพัง
ราตรีย่างกรายเข้ามา พันดาวรู้สึกหนาวเหน็บที่ขั้วหัวใจ เธอรู้ดีว่าคืนนี้แคมป์ก็คงจะไม่กลับบ้านอีกเช่นเคย
สามเดือนของการแต่งงาน เขาไม่เคยกลับมานอนที่บ้านเลยสักคืน พันดาวต้องนอนเฝ้าห้องหอเพียงลำพัง ส่วนเรื่องที่ว่าเขาไปค้างอ้างแรมที่ไหนนั้น... จริงๆ แล้วพันดาวรู้ดีอยู่เต็มอก
พันดาวอาบน้ำชำระร่างกาย เปลี่ยนมาสวมชุดนอนผ้าไหมสีดำตัวโปรด ขณะที่กำลังจะเข้านอน จู่ๆ ประตูห้องก็ถูกกระแทกเปิดออกเสียงดัง "ปัง!" อย่างรุนแรง
เขาก้าวเข้ามาในห้อง สายตาจับจ้องไปที่ร่างของพันดาว ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นด้วยความหงุดหงิด
"คิดจะยั่วฉันอีกหรือไง?" เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก แววตาไร้ซึ่งความปรานี
พันดาวชะงักงัน ความคาดหวังในใจมอดดับลงในพริบตา
"แคมป์คะ... ฉันไม่ได้..." เธอรีบปฏิเสธพัลวัน พวงแก้มแดงระเรื่อขึ้นด้วยความอับอาย
