บทที่ 4 1.3
ร่างบอบบางจวนเจียนจะแหลกสลายแต่วรรธน์ก็ยังไม่ผ่อนแรง ในเมื่อวันนี้เป็นวันลองสินค้าเขาจะลองผู้หญิงตรงหน้าให้คุ้ม ไม่อยากไปรีวิวแบบผิดๆ ถูกๆ ให้นายธำรงคนโลภต้องเสียหน้า ต่อเมื่อเขาถึงปลายทางสวรรค์อีกคราถึงได้ปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระ พริมานอนตะแคงหันหลังให้คนใจร้าย หายใจรวยรินด้วยความอ่อนแรง ค่ำคืนโหดร้ายมักเชื่องช้าเสมอ
วรรธน์ปรายตามองร่างสะท้านสั่นด้วยแววตาเหยียดหยาม ก่อนจะยกบรั่นดีขึ้นซดไปอึกใหญ่ ผู้หญิงคนนี้เร้าใจเป็นบ้าซ้ำยังช่วยให้รสเหล้าอร่อยขึ้นมาเป็นเท่าตัว
“ชอบไหม”
“...”
“ฉันถามว่าชอบไหม” วรรธน์กระแทกขวดบรั่นดีลงกับโต๊ะไม้เคลือบเงาใกล้หัวเตียงขัดใจกับความเงียบที่เขามองว่าเป็นการต่อต้านดื้อรั้น
พริมาไม่แน่ใจว่าคำถามนี้ต้องการคำตอบหรือมีเจตนาเพียงเยาะเย้ยล้อเล่นจึงไม่รู้จะตอบอย่างไร พลันร่างใหญ่ก็พุ่งเข้ามากระชากไหล่ทั้งสองข้างเขย่าโดยไม่ออมแรง
“เธอไม่มีปาก หรือว่าเธอหูหนวก”
“คุณวรรธน์” พริมาเหนื่อยล้าเหลือเกินเปลือกตากำลังจะปิดแต่การหลับใหลในห้องของซาตานร้ายไม่ดีแน่อีกอย่างบิดาก็ยังรออยู่ข้างล่าง ไม่อยากให้ท่านเห็นเธอในสภาพนี้เลย
“ชอบหรือเปล่าคืนแรกของเรา” น้ำเสียงห้วนเข้มลดระดับมาเป็นแผ่วเบาแต่รังสีอำมหิตแผ่ออกมามากมายจน พริมากลัวแทบบ้า มือใหญ่ตะปบเข้าที่ต้นคอของเธอแล้วออกแรงบีบ “ชอบไม่ชอบก็ตอบมาสิทูนหัว”
คนตัวเล็กจำเป็นต้องพยักหน้า คิดว่าวรรธน์คงบ้าเพราะไม่มีผู้หญิงที่ไหนชอบการปฏิบัติของเขาในคืนนี้ เมื่อชายหนุ่มพึงพอใจจึงผลักร่างบอบช้ำออกแรงๆ
“คิดจะเป็นผู้หญิงของฉันต้องฟังคำสั่งของฉันเข้าใจไหม ฉันสั่งให้ขึ้นสวรรค์ก็ต้องขึ้น สั่งให้ลงนรกเธอก็ต้องลง” พริมาพยักหน้าน้ำตานองและราวกับจะได้ยินเสียงจิ๊อย่างไม่พอใจมาจากคนร่างหนา วรรธน์อยากจะฆ่าเจ้าหล่อนให้ตายคามือแต่เขาจะถือสาหาความอะไรกับคนที่มีสภาพไม่ต่างจากศพเช่นนี้
“คลานออกไป” วรรธน์ชี้นิ้วสั่ง
พริมาแข็งใจลุกขึ้นไม่เกี่ยงงอนสองมือรวบผ้าห่มมาพันกายแล้ววาดขาลงจากเตียงหากก็แทบสิ้นแรงล้มพับหากไม่เท้าขอบที่นอนเอาไว้ หญิงสาวก้มลงเก็บเสื้อผ้าที่ตกกระจายโดยไม่รู้เลยว่าชายเบื้องหลังจ้องมองด้วยสายตาที่มากด้วยปรารถนา
อารมณ์กำหนัดพุ่งสูงอย่างแรงกล้าเมื่อเห็นเนื้อนวลอร่ามตาโผล่ออกมานอกผ้าห่มดูน่าดูชมเสียยิ่งกว่าตอนเปลือยเปล่า ร่างขาวจึงถูกชายหนุ่มผลักจนล้มลง วรรธน์ตามลงมาแนบชิดทางด้านหลังดุนดันแก่นกายเข้ามาในท่วงท่าที่ล้ำลึกกว่าที่เคย
“คุณวรรธน์!” น้ำเสียงแหบโหยเปล่งออกมาใบหน้าถูกกดลงไปกับพื้น
วรรธน์โน้มใบหน้าลงมาแนบนาบปล่อยเสียงครางกระเส่าชิดแก้มขาวก่อนจะปลดปล่อยอย่างทรงพลังอีกครา คราวนี้เขาคงเหนื่อยหนักหนาถึงได้ยอมผละจากร่างเล็กแล้วทิ้งกายแบหลาบนพื้น
“สนุกเป็นบ้า ฮ่าๆๆๆ”
หอบหายใจถี่กระชั้นก่อนจะหันไปหาคนที่นอนหมดแรงอยู่ข้างๆ ก่อนถาม
“คราวหน้าฉันเข้าประตูหลังได้ไหม แบบว่าเอาตูดน่ะ”
ถามไปอย่างนั้นแต่นั่นไม่ใช่รสนิยม วรรธน์เพียงอยากรู้ว่าเพื่อเงินแล้วคนพวกนี้จะยอมทำทุกอย่างได้จริงหรือ พริมากัดริมฝีปากด้านในเอาไว้ข่มความรู้สึกทั้งหลายเพราะไม่อยากให้ที่ทำมาต้องสูญเปล่าก่อนจะพยักหน้าช้าๆ อย่างกล้ำกลืน เธอยอมได้ทุกอย่างเพื่อคนที่เธอรัก
เวลาตีสองพริมาถูกวรรธน์อุ้มลงมาในสภาพหมิ่นเหม่เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยเขียวช้ำและรอยฟัน ใบหน้าซีดเผือดเปรอะเปื้อนน้ำตา คุณธำรงนั่งกุมขมับอยู่ตรงโซฟาเห็นแล้วก็รีบถลาเข้าหาร่างบุตรสาวที่กำลังถูกวรรธน์ปล่อยลงพื้นโชคดีที่พริมายังพอมีสติจึงได้ใช้มือดันพื้นไว้ไม่ให้ศีรษะกระแทก
“ผมลองสินค้าเรียบร้อยแล้ว เชิญเอากลับได้” พริมากำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ สำหรับเขาเธอเป็นเพียงสินค้าทดลองไม่ใช่ของที่เขาอยากได้ น้ำตาที่คล้ายกับจะไม่เหือดแห้งรินไหลออกมาอีกครั้ง
“แล้วเรื่องแต่งงานล่ะครับคุณวรรธน์” คุณธำรงประคองบุตรสาวเอาไว้ในอ้อมกอดสงสารจับใจแต่ก็ไม่ลืมเรียกร้องความยุติธรรม
“อะไรนะ!?” วรรธน์ทวนคำพลางยกยิ้มแสยะ
“เรากลับเถอะค่ะคุณพ่อ” พริมาร้องบอกเสียงพร่าเนื้อตัวสั่นระริกมีอุณหภูมิสูง การกระทำของผู้ชายคนนี้แทนคำตอบได้เป็นอย่างดีไม่ต้องรีรออะไรอีก และเธอก็ต้องยอมรับให้ได้ว่าการพลีกายในครั้งนี้มันไร้ค่าเพราะคนที่เขาต้องการไม่ใช่พริมาแต่เป็นอีกคน...เรื่องนี้หญิงสาวไม่รู้มาก่อน
“ไม่ได้นะผิง เขาเป็นลูกผู้ชายพูดคำไหนก็ต้องเป็นคำนั้น” คุณธำรงก้มลงปลอบบุตรสาวที่เวลานี้ซุกซบใบหน้ากับอกอุ่น เธอมันช่างน่าสมเพช เสียงตำหนินั้นตอกย้ำตัวเองในใจ
“ผมพาผิงมาหาตามสัญญาแล้ว คุณเองก็ต้องทำตามสัญญาเหมือนกัน” ดวงตาของคนที่เป็นพ่อแดงก่ำกำลังจะร้องไห้ มีใครบ้างหนอจะทนได้หากต้องมาทนเห็นลูกสาวผู้เป็นเหมือนแก้วตาดวงใจอยู่ในสภาพแบบนี้
“ถุย!” วรรธน์ถุยน้ำลายหยามเหยียด ที่นี่บ้านเขา อาณาจักรของเขา เขาจะทำอะไรกับใครก็ย่อมได้ หากมันยังน้อยไปด้วยซ้ำหากเทียบกับสิ่งที่เขาเคยโดน “ลีลาอ่อนเปลี้ยอย่างกับคนเป็นโปลิโอ ครางก็ไม่เร้าใจ เอาก็ไม่สนุกแข็งยังกับท่อนไม้ สารรูปแบบนี้เนี่ยนะจะมาเรียกร้องการแต่งงาน ขนาดโสเภณีลีลาเด็ดฝีมือห่างชั้นกว่าลูกของคุณเยอะเธอยังได้คืนละหมื่นแค่นั้นเลย”
“คุณวรรธน์!!!”
“ทำไม?” เจ้าของบ้านยักไหล่ยียวนกวนประสาทคุณธำรงจำต้องเก็บอารมณ์เอาไว้เพราะคิดว่าวันนี้คงคุยไม่รู้เรื่อง วรรธน์ดูเหมือนจะเมา “สินค้าตัวนี้ไม่ผ่าน ผมจำเป็นต้องจ่ายตังค์ด้วยหรือ?”
พริมากลั้นหายใจด้วยความทรมานร้าวรานในหัวใจ...เธอเป็นแค่สินค้าด้อยค่า
“ลูกสาวผมไม่ใช่สินค้า” อยากจะชกหน้าผู้ชายคนนี้เหลือเกินแต่คุณธำรงก็จำต้องหักใจไม่อยากให้อะไรมันดูแย่ลงไปมากกว่านี้
“อย่าโง่น่าคุณธำรง” วรรธน์ทำให้พริมากัดฟันข่มอารมณ์เอาไว้ เขาจะดูถูกเธอก็ได้ร้ายแรงแค่ไหนเธอจะไม่หวั่นแต่อย่าทำแบบนี้กับบุพการีที่เธอเคารพรัก คนเป็นพ่อได้แต่กล้ำกลืนฝืนความโกรธเอาไว้ด้วยรู้ว่าไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น
“อย่าว่าพ่อผิงเลยนะคะ”
“หรือไม่จริงล่ะ? จะต้องให้บอกใช่ไหมว่าลูกที่ถูกพ่อแม่ขายก็คือสินค้าเหมือนช้างม้าวัวควายนั่นแหละ”
“คุณวรรธน์!!!” คุณธำรงทนไม่ไหวจะลุกขึ้นไปเอาเรื่อง วรรธน์ถอยออกนิดหนึ่งเพื่อไว้ระยะ ใช่ว่ากลัวแค่เพื่อให้ตั้งตัวทัน แต่เมื่อเห็นพริมารั้งบิดาไว้เขาก็ยกยิ้มแสยะ อำนาจของเงินมันมากมายจนทำให้คนยอมจำนนอย่างไร้ข้อแม้ ไม่เว้นแม้แต่คนที่เคยถุยน้ำลายรดหน้าแล้วถีบหัวส่งเขาเมื่อหลายปีที่แล้ว
“รู้สึกยังไงที่โดนหยามศักดิ์ศรี” ความโกรธแค้นที่มีอยู่ในใจทำให้ชายสูงวัยกำหมัดแน่น
“ตอบมาสิคุณธำรง”
“ผมไม่อยากพูดเรื่องเก่าๆ” ชายสูงวัยกลืนน้ำลายเชิดคางขึ้นแล้วเบือนสายตาไปทางอื่น แม้จะรู้ว่าการเข้ามาของวรรธน์มีจุดประสงค์แอบแฝงอยู่มากมายแต่เมื่อเรืออับปางตนก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อจะไขว่คว้าขอนไม้เพียงขอนเดียวที่มองเห็น
“เรอะ?”
วรรธน์เบ้ปากหยามหยันเต็มขั้นก่อนจะใช้เท้าเขี่ยเท้าของพริมาซึ่งเวลานี้แน่นิ่งไปแล้วกับอกพ่อ
“ความจริงลูกสาวคุณนี่ก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียว นมใหญ่เป็นบ้า เอาไปใส่ตะกร้าล้างน้ำหลอกขายเศรษฐีได้สบายๆ”
“คุณพ่อขา ฮือๆๆ”
พริมาร้องไห้เสียงแผ่วเบาเขย่าชายเสื้อบิดาเป็นเชิงเร่งเร้าให้รีบจากไปอับอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี ไม่อยากทนอยู่ตรงนี้เพื่อฟังคำดูถูกเหยียดหยามราวกับว่าตนไม่ใช่คน
วรรธน์เห็นแล้วถึงกับต้องกลืนน้ำลาย เขาเพิ่งรู้ว่าตัวเองเลวร้ายถึงเพียงนี้ หากก็สาสมกันดีกับสิ่งที่คนพวกนี้มันทำเอาไว้
“เมื่อกี้ยัยนี่ตัวร้อนนะ ต้องหาอะไรมาดับร้อน” ไม่พูดเปล่าร่างใหญ่ถลาไปที่โต๊ะรับแขกแล้วคว้าเหยือกน้ำเข้ามาราดลงไปบนศีรษะของพริมาจนเปียกปอน
คุณธำรงโวยวายเอะอะมะเทิ่ง วรรธน์ได้เห็นน้ำตาของชายชราแล้วสาแก่ใจแต่กลับรู้สึกตรงกันข้ามเมื่อเห็นน้ำตาของพริมา แขนเล็กร่วงลงจากการเกาะกุมชายเสื้อของบิดาขณะที่ถูกคุณธำรงและนายนพคนขับรถอุ้มออกไป
