บทที่ 7 2.3
เชฟรุ่นพี่กลอกตาพลางถอนหายใจอย่างเอือมระอาแล้วหันกลับไปปรุงอาหารตามออร์เดอร์ที่ได้รับเสียด้วยรู้ว่าอะไรก็ไม่สามารถง้างปากพริมาได้ วันนี้อนลไม่เข้าร้านส่วนเด็กเสิร์ฟก็ลาหนึ่งคนทำให้เชฟสาวและผู้ช่วยเชฟต้องช่วยกันเสิร์ฟอาหารเมื่อเห็นว่าน้องๆ ทำไม่ทัน
แต่เสียงเอะอะโวยวายภายนอกร้านก็ทำให้ทั้งสองหวั่นใจว่าจะเกิดเรื่อง เมื่อรีบเดินออกไปดูก็เห็นว่าเป็นเช่นนั้น น้องพนักงานเสิร์ฟกำลังถูกผู้หญิงคนหนึ่งต่อว่าเนื่องจากทำน้ำหกใส่ผู้ชายที่มาด้วยกัน แม้เด็กจะขอโทษแต่เจ้าของร่างสะคราญผิวขาวอร่ามตัดกับชุดเกาะอกสีแดงนั่นก็ยังไม่ยอม ทำท่าว่าจะตบ พริมารีบเข้าไปขวางทำให้ถูกฝ่ามือเรียวตบเข้าที่หน้าแม้เพียงปลายนิ้วแต่ก็แรงเสียจนพริมาหน้าหัน
“น้องผิง / พี่ผิง” พริมามึนไปชั่วครู่ก่อนจะรู้ว่าดารินกับน้องเด็กเสิร์ฟเข้ามาช่วยประคองและดูที่ถูกตบท่ามกลางเสียงฮือฮาของลูกค้าที่อยู่รอบๆ
“ทำเกินไปแล้วนะ คุณเป็นใครมาจากไหนฉันจะแจ้งตำรวจ” ดารินโวยวายใส่คนที่ไม่สะทกสะท้าน พริมาจำได้ว่าหล่อนคนนี้เป็นไฮโซลูกเจ้าของกิจการเบเกอรี่เจ้าดังผู้ขึ้นชื่อในเรื่องของความสวย แรง และนิสัยแย่ไม่แคร์สื่อก่อนสังเกตเห็นว่าผู้ชายที่มากับเจ้าหล่อนคือวรรธน์ แทบไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนที่เขาเพิ่งมีข่าวด้วยในทีวี
“พนักงานระดับล่างแบบพวกแกสมควรแล้วที่จะโดนแบบนี้ มีอย่างที่ไหนทำน้ำหกใส่ลูกค้าแล้วยังมาบอกว่าถูกลูกค้าดึง คุณวรรธน์ไม่เอาเรื่องไอ้เด็กนี่ก็บุญแค่ไหนแล้ว”
“จริงหรืออ้อม” พริมาที่กุมใบหน้าข้างที่ถูกตบหันไปถามน้องเด็กเสิร์ฟซึ่งอายุอ่อนกว่าตนหลายปีเด็กสาวรีบบอกเสียงละล่ำละลัก
“คุณผู้ชายคนนี้ดึงหนูจริงๆ นะคะ หนูสาบานได้”
“หน็อยแน่ ตอแหลจังเลยนะคนร้านนี้” ไฮโซสาวโวยวายขึ้นมาอย่างไม่ยอมใคร พริมาสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างตั้งสติก่อนจะหันไปพูดกับหล่อน
“มันคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดมากกว่านะคะ แต่เมื่อสักครู่เด็กก็ขอโทษไปแล้วแต่ถ้าคุณกับคุณผู้ชายยังไม่พอใจดิฉันก็ต้องขอโทษอีกครั้งค่ะ”
“คิดว่าขอโทษแล้วเรื่องมันจะจบหรือ” เสียงของวรรธน์ที่เงียบไปทำให้พริมาหายใจสะดุด หญิงสาวเชื่อคำพูดของน้องเด็กเสิร์ฟไม่ใช่เพราะสนิทสนมเพียงอย่างเดียวแต่ยังเป็นเพราะรู้ถึงความร้ายกาจของวรรธน์ดีอีกด้วย
“คุณจะให้ทางร้านรับผิดชอบยังไงคะ” พริมารู้สึกหวั่นใจ วรรธน์อาจจะตั้งใจกลั่นแกล้งเด็กในร้านเพราะรู้ว่าสุดท้ายเรื่องมันจะต้องลงเอยอย่างไร พริมารู้แต่ว่าในสถานการณ์แบบนี้เธอเลือกที่จะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ วรรธน์ยืนขึ้นแล้วพูดช้าๆ ชัดๆ
“เธอรู้ไหมว่ารองเท้าของฉันราคาเท่าไหร่ เงินเดือนทั้งปีของพวกเธอสามคนรวมกันยังไม่สามารถซื้อมาคืนฉันได้ แล้วเธอ...” นิ้วชี้แกร่งจิ้มมาที่หน้าผากของพริมา สายตาดูถูกเหยียดหยามทำให้หญิงสาวถึงกับน้ำตาคลอ “เป็นผู้ใหญ่ประสาอะไรไม่หัดอบรมดูแลเด็กในร้าน เพราะฉะนั้นฉันจะถือว่านี่เป็นความบกพร่องของเธอ”
“ดิฉันขอโทษค่ะ”
“ฉันไม่ต้องการคำขอโทษ” วรรธน์เน้นเสียงหนักก่อนจะชี้ลงไปที่ปลายเท้าของตัวเอง “ก้มลงไปเช็ดรองเท้าให้ฉัน”
“มันไม่เกินไปหน่อยหรือคะคุณ” ดารินโพล่งขึ้นอย่างทนไม่ไหวแต่พริมาก็ปรามเอาไว้เพราะไม่ต้องการมีเรื่อง “ได้ยังไงน้องผิง เราก็คนเขาก็คน จะมาดูถูกกันแบบนี้ไม่ได้”
“หรือจะให้ยายเด็กเสิร์ฟคนนี้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินดีล่ะ รองเท้าคู่นี้หลายแสนอยู่นะ จ่ายไหวงั้นหรือ” สายตาคมปราดมองเด็กเสิร์ฟ อ้อมก้มหน้าขาสั่น เงินมากมายขนาดนั้นจะไปหามาได้อย่างไรลำพังค่ายาของมารดาหล่อนที่ป่วยเป็นมะเร็งก็ไม่รู้ว่าอ้อมจะไปหามาจากไหน พริมาเห็นใจเด็กสาวและไม่ต้องการให้เรื่องราวบานปลาย อะไรยอมได้ก็จะไม่เกี่ยง
“อย่าให้ถึงขั้นนั้นเลยนะคะ”
“ผิง จะไปยอมคนแบบนี้ทำไม” ดารินโวยขึ้นอีก
“เธอจะเป็นคนเช็ดเท้าฉันแทนยายนี่ล่ะ?” วรรธน์เสมองดาริน เชฟสาวกำหมัดแน่น คนอย่างดารินยอมหักไม่ยอมงอ เธอยอมลาออกดีกว่าจะยอมลดศักดิ์ศรีของตัวเองลงไปก้มหัวให้คนรวยแต่พริมารู้ดีเลยรีบพูดขึ้นเสียก่อนว่า
“ไม่ค่ะ จะไม่มีใครทำแทนใครทั้งนั้น เรื่องนี้ดิฉันจะรับผิดชอบเอง”
“พี่ผิงคะ หนูผิดหนูจะทำเองค่ะ หนูจะเช็ดรองเท้าให้คุณคนนี้เอง” อ้อมเด็กเสิร์ฟเขย่าชายเสื้อของบุคคลที่ตนเคารพรักเหมือนพี่สาว หากพริมารู้ดีว่าความต้องการของวรรธน์คือกลั่นแกล้งตนคนอื่นก็แค่ตัวประกอบเท่านั้น
“ไม่เป็นไร” พริมาเบือนหน้าไปยิ้มน้ำตารื้น วรรธน์แสยะยิ้มพอใจกับสิ่งที่จะได้รับ พริมาดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากเอี๊ยมก่อนจะยอบกายลงไปเช็ดคราบสกปรกออกจากรองเท้าหนังชั้นดี ทั้งดารินและอ้อมพากันเบือนหน้าไม่อยากเห็นภาพน่าแค้นใจนั้นทั้งที่อยากจะเข้าไปตบหน้าผู้ชายใจหยาบกร้านที่ยกยิ้มสาแก่ใจไม่สะทกสะท้านและอยากจิ้มตาของแม่สาวหน้างามที่เวลานี้ปิดปากหัวเราะได้น่าหมั่นไส้มากเท่าไรก็ตาม
“พวกเธอคงไม่หน้าด้านจะเรียกเก็บค่าอาหารจากลูกค้าผู้เสียหายอย่างพวกเรานะ”
เสียงเย้ยๆ ของไฮโซสาวทำให้พริมากล้ำกลืนเช็ดรองเท้าหนังสุดหรูต้องกัดฟันแน่น วรรธน์ให้เธอเช็ดรองเท้าให้ไม่พอผู้หญิงของเขายังจะทำแบบนี้ นั่นหมายความว่าอ้อมจะต้องชดใช้ค่าอาหารเหล่านี้ให้ร้านเพราะมันคือกฎ แต่พริมารู้สึกว่าโลกใบนี้ที่ขับเคลื่อนด้วยเงิน ลูกค้าคือพระเจ้ามันไม่ยุติธรรมเลย
หลายครั้งหลายคราที่ได้เห็นพนักงานถูกเหยียดหยามจากลูกค้าผู้ที่คิดว่าตัวเองมีเงินจะทำอะไรก็ได้ ทั้งจากสายตาและคำพูดเพียงเพราะเห็นเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟอาหาร หากความจริงแล้วพวกเขาไม่ได้ทำเพื่อสนองความพอใจของลูกค้าเหล่านั้น แต่ทำเพื่อคนที่อยู่ข้างหลังด้วยรู้ว่าความพอใจของลูกค้าก็คือมาตราวัดว่าใครจะได้อยู่หรือไปจากกิจการหนึ่งๆ
...สุดท้ายเงินก็ยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนทุกสิ่งอย่างอยู่ดี และอำนาจของมันก็มีมากเกินจนบดบังความเป็นมนุษย์ในตัวคน
“ไปกันเถอะค่ะวรรธน์” สาวไฮโซเข้าไปกอดแขนแล้วดึงวรรธน์ออกไป หากแต่ชายหนุ่มขืนตัวเอาไว้เมื่อสายตายังสังเกตเห็นคราบเล็กๆ บนปลายรองเท้า
“เธอเช็ดประสาอะไร” พริมาที่ยืดกายลุกขึ้นกะพริบตาปริบๆ อย่างไม่เข้าใจ
เธอคิดว่าตัวเองก็ไม่ได้ทำอะไรขาดตกบกพร่องแต่อย่างใด หากทันใดนั้นทั้งร้านก็เกิดเสียงฮือฮาเมื่อวรรธน์คว้าแก้วน้ำสาดใส่หน้าพริมา
หญิงสาวปิดเปลือกตาข่มอารมณ์เอาไว้ และนึกไม่ออกว่าตัวเองควรต่อว่าเขาด้วยถ้อยคำใด แล้วหากทำไปแล้วมันจะช่วยให้อะไรดีขึ้นจึงได้แต่ก้มหน้านิ่ง น้ำตามันไหลออกมาแต่คนตรงหน้าคงไม่ใส่ใจ
พี่วรรธน์ของเธอไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว...เธอน่าจะรู้และจดจำให้ขึ้นใจตั้งแต่ที่ผ่านคืนเลวร้ายนั่นมาได้ด้วยซ้ำ หากหัวใจที่ยังรักมั่นกลับไม่เคยเชื่อฟัง
“ร้านนี้มีแต่พวกชุ่ยๆ นี่เอง สภาพเลยดูกระจอกแบบนี้” วรรธน์ดูแคลนทิ้งทวนก่อนจะควงสาวไฮโซเดินออกจากร้านไป ผู้ชายตัวใหญ่สองสามคนเดินเข้ามาในร้าน จัดการพวกที่ถ่ายคลิปด้วยการข่มขู่ให้ลบออกหากเผยแพร่ออกไปจะถูกจัดการด้วยวิธีที่จำเป็น ความน่ากลัวของคนเหล่านั้นสร้างความหวาดหวั่นครั่นคร้ามจนรีบลบแทบไม่ทัน
ดารินและน้องๆ เด็กเสิร์ฟคนอื่นๆ ในร้านต่างเข้ามาช่วยกันปลอบใจพริมา หลายคนด่าทอและสาปแช่งให้วรรธน์รถคว่ำตาย ฝ่ายอ้อมรู้สึกผิดขนาดที่ว่าคุกเข่าขอโทษเธออยู่นาน หากใครจะไปเอาเรื่องน้องน้อยที่เห็นกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรได้ลงอีกทั้งนี่ก็ไม่ใช่ความผิดของใครในนี้เลยสักคน
“ค่าอาหารวันนี้ผิงชดใช้แทนอ้อมเองนะคะพี่ดาว”
พริมาเปลี่ยนจากยูนิฟอร์มของร้านมาใส่เสื้อยืดกับกระโปรงพลีทสีหวานเตรียมกลับบ้านเหลียวมาบอกกับดารินที่เวลานี้กำลังนั่งเคลียร์บัญชีแทนอนลอยู่ ไม่ทันที่ดารินจะได้พูดอะไรต่อผู้ช่วยเชฟคนสวยก็คว้าจักรยานที่จอดพิงต้นไม้หน้าร้านปั่นจากไป เธอคงทนไม่ได้หากวันนี้อ้อมจะไม่ได้ค่าแรงกลับไปแล้วซื้อของที่จำเป็นสำหรับการดูแลแม่ ส่วนตนนั้นยังถือว่าโชคดีกว่าอ้อมนัก
