บทที่ 10 นุ่นและฝ้าย
ไป๋ลี่ถิงเอ๋ยไป๋ลี่ถิงความโชคดีนี้เจ้าได้แต่ใดมาสิ่งที่นางหวังเอาไว้ว่าจะพบเจอกลับไม่เจอแต่สิ่งที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเจอนั้นกลับเจอเอาเสียง่าย ๆ ปานนี้
แล้วแบบนี้จะไม่ให้นางดีใจได้ยังไง ใครจะไปอดใจไหว เฉิงคุณที่เห็นนางทำหน้าดีใจขนาดนั้นก็อดถามออกมาไม่ได้
“ถิงเอ๋อร์เจ้าเจออะไรหรือสิ่งนั้นใช่สิ่งที่เจ้าพูดเอาไว้ก่อนเข้าป่าหรือไม่”
“ไม่ใช่เจ้าค่ะท่านพี่ แต่สิ่งนี้จะทำให้เราอบอุ่นในฤดูหนาว ท่านพี่เห็นต้นไม้ต้นนั้นหรือไม่ที่มีฝักสีเขียวและสีน้ำตาลอยู่เต็มต้น นั่นเรียกว่าต้นงิ้วและฝักของมันหากเราแกะออกมามันจะมีปุยขาว ๆ ข้างในเรียกว่านุ่น แล้วเจ้านุ่นนี้สามารถทำฟูกนอนหมอนและผ้าห่มได้ อุ่นมากเลยล่ะ ส่วนต้นนั้นที่เกิดอยู่ทางด้านนั้นที่มีดอกสีขาวนั้นเรียกว่าฝ้ายสามารถนำมาบุข้างในเสื้อทำเป็นเสื้อกันหนาวได้เจ้าค่ะ”
“จริงหรือ เจ้าพูดจริง ๆ ใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนี้พวกเราก็ไม่ต้องทนหนาวอีกต่อไป”
“จริงเจ้าค่ะ ข้าเคยโกหกท่านพี่หรือเจ้าคะ เอาล่ะน้องรองน้องเล็กพวกเจ้าเก็บดอกฝ้ายมาเถอะพี่สะใภ้จะสอนเก็บ ส่วนท่านพี่ท่านปีนขึ้นไปแล้วทำให้ฝักสีน้ำตาลร่วงลงมาข้าจะคอยเก็บอยู่ข้างล่าง”
“ได้ ๆ ตกลง เจ้าพาน้องรองกับน้องเล็กไปเก็บฝ้ายก่อน แล้วค่อยมาเก็บฝักงิ้วต่อ”
“เจ้าค่ะท่านพี่”
หลังจากแบ่งงานกันแล้วไม่นานทั้งสองอย่างก็อัดแน่นอยู่ในตะกร้าของพวกเขา แต่เพราะฝ้ายมีจำนวนมากทำให้ตะกร้าที่นำมาไม่พอเฉิงคุณจึงอาสาเอากลับไปเก็บที่บ้านพร้อมสวี่คุณ
และทิ้งให้ลี่ถิงอยู่ที่นี่กับฮั่นคุณเพราะฝ้ายและฝักงิ้วมีน้ำหนักเบาจึงไม่เป็นอุปสรรคในการที่เขาจะเอาตะกร้ามาถือเอาไว้ทั้งสองมือส่วนตะกร้าของเขาก็สะพายเอาไว้บนหลังทั้งสองคนใช้เวลาไม่นานก็กลับถึงบ้าน
จากนั้นเขาเอาทั้งสองอย่างไปเทกองเอาไว้ที่ห้องโถงของบ้านและรีบกลับไปหาทั้งสองคนในป่าทันทีและเขายังได้เอาตะกร้าไปเพิ่มอีกด้วยจะได้เก็บกลับมาให้หมดเสียทีเดียว
เพราะเขากลัวว่าจะมีคนเข้าป่ามาเจอเสียก่อนเขามั่นใจว่าต้องมีคนรู้จักฝ้ายเพราะเสื้อกันหนาวที่บุฝ้ายเอาไว้ข้างในนั้นมีราคาแพงมาก
ส่วนฝักงิ้วนั้นถึงแม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าไม่มีใครรู้จักแต่ก็ไม่วางใจยังไงวันนี้เขาก็ต้องเก็บทั้งสองอย่างนี้กลับไปให้หมดเสียภายในวันนี้
ถึงแม้ว่าเขาจะใช้เวลาเดินไปกลับระหว่างบ้านและป่าหลายรอบแต่เขาก็เต็มใจที่จะเดิน
“ท่านพี่กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ เหนื่อยหรือไม่”
“ไม่ ๆ พี่ไม่เหนื่อย เดี๋ยววันนี้พี่กับน้องรองจะขนลงไปมันไม่ได้หนักหนาอะไรทั้งสองอย่างนี้มีน้ำหนักเบามาก ฝ้ายเก็บหมดแล้วใช้หรือไม่”
" เจ้าค่ะแต่ในอนาคตเราสามารถปลูกได้นะเจ้าคะท่านพี่เมล็ดที่เราแยกออกจากฝ้ายสามารถนำไปปลูกได้"
“ดียิ่งนักเช่นนั้นพี่จะเอาฝักงิ้วพวกนี้ลงไปเองส่วนน้องรองเจ้าเอาฝ้ายลงไปเถอะ”
“ขอรับพี่ใหญ่”
หลังจากนั้นทั้งเฉิงคุณและสวี่คุณก็ขนทั้งฝ้ายและฝักงิ้วเดินไปกลับระหว่างป่ากับบ้านอยู่ 4รอบถึงได้ขนลงไปหมดและทั้งสองพี่น้องก็กลับเข้ามาในป่าที่มีอีกสองคนรออยู่
และกินอาหารเที่ยงด้วยกันถึงแม้ว่ามันจะเลยยามอู่มาจนถึงยามเว่ยแล้วก็ตามเมื่อกินอาหารเที่ยงเสร็จแล้วพวกเขานักพักเหนื่อยอยู่เพียงครู่เดียวก็ออกเดินต่อ
เพราะวันนี้ลี่ถิงยังไม่เจออะไรที่กินได้เลยนางเห็นว่ายังมีเวลาอยู่อีกมากจึงได้พาสามีและน้อง ๆ เดินกันต่อไป หลังจากที่ลี่ถิงเดินเข้าป่าลึกไปเรื่อย ๆ นั้นระหว่างทางก็พบเจอสมุนไพรขั้นพื้นฐานบ้างแต่ไม่ได้พบเจอสมุนไพรที่มีราคาและหายาก
แต่ถึงแม้ว่าจะไม่เจอสมุนไพรล้ำค่าเลยแต่นางก็บอกให้สามีและน้องชายเก็บกลับไปด้วยเอาไว้ใช้ในบ้านยามฉุกเฉินจะได้ไม่ต้องไปหาหมอหากเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ซึ่งสามีและน้องชายทั้งสองก็ทำตามอย่างว่าง่ายทั้งสี่คนเดินเข้าป่ามาเรื่อย ๆ เวลาผ่านไปประมาณสองเค่อเห็นจะได้ลี่ถิงได้ก็เจอพริกที่มีทั้งพริกขี้หนู(เสี่ยวหมี่ล่า) พริกแดง(ล่าเจียว) พริกหยวก(ซื่อจื่อเจียว)
ไม่รอช้านางรีบสาวเท้าเข้าไปเก็บทันทีโดยเฉพาะสวี่คุณกับฮั่นคุณที่พวกเขารู้มาจากพี่สะใภ้แล้วว่าเจ้าสิ่งนี้สามารถนำกลับไปทำอาหารได้ จึงไม่รอช้าช่วยนางเก็บด้วยความกระตือรือร้น
ส่วนเฉิงคุณโดนสั่งให้ขุดต้นเล็ก ๆ เอากลับไปปลูกที่บ้านซึ่งเขาก็เต็มใจทำตามที่นางบอกทุกอย่างเมื่อเก็บล่าเจียวจากตรงนี้หมดแล้วลี่ถิงพาทุกคนออกเดินต่อไม่ไกลจากจุดที่เจอล่าเจียวเท่าไหร่นางได้เจอเข้ากับโจ้วผี (มะกรูด)
ไม่รอช้านางก็เก็บใบพร้อมลูกกลับไปด้วยส่วนเฉิงคุณไม่รอให้เมียสั่งรีบขุดต้นเล็ก ๆ กลับไปด้วยหลายต้นเลยทีเดียวถึงแม้ว่าเขาไม่รู้ว่ามันใช้ทำอะไรแต่ในเมื่อลี่ถิงเก็บกลับไปด้วยย่อมเป็นสิ่งที่กินได้และมีประโยชน์
เมื่อตรงนี้ไม่มีอะไรให้เก็บเกี่ยวแล้วทุกคนจึงออกเดินต่อทันทีในใจลี่ถิงภาวนาขอให้เจอหนิงเหมิงเฉ่า(ตะไคร้)ด้วยเถอะ หนันเจียง(ข่า)ด้วย ถ้าเจออีกสองอย่างเครื่องต้มยำก็ครบแล้วถึงแม้ว่าจะยังไม่เจอหนิงเหมิง(มะนาว)แต่ใช้ลูกโจ้วผีแทนได้
แค่คิดน้ำลายก็ไหลแล้วไหมต้มยำรสแซ่บมันจะดีกว่านี้ถ้าหากเครื่องปรุงที่บ้านมีมากกว่าเกลือและน้ำตาลดูเหมือนว่านางต้องพยายามอย่างมากในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคนในครอบครัว
และปฏิวัติอาหารและเครื่องปรุงขึ้นมาใหม่ให้ได้นางได้แต่สัญญาเอาไว้กับตัวเองในใจและเหมือนกับว่าพระเจ้าจะฟังคำอ้อนวอนของนางเดินมาได้ไม่ไกลจากจุดที่เจอโจ้วผี
ลี่ถิงเจอหนิงเหมิง(มะนาว) หนันเจียง(ข่า)และยังมี เถียนหลัวเล่อ (กะเพรา) หลัวเล่อ(โหระพา)อีกด้วย ครั้งนี้ลี่ถิงถึงกับดีใจกระโดดโลดเต้นเลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าจะยังไม่เจอถู่โต้วและยวี่โถว (มันฝรั่งและเผือก) ตามที่หวังเอาไว้แต่ในเมื่อได้เจอกับผักที่ใช้ทำต้มยำรสแซ่บได้นางก็จะสามารถทำอาหารได้หลากหลายขึ้นบอกตรง ๆ ว่านางไม่ชื่นชอบอาหารรสจืดสักเท่าไหร่
แต่ในเมื่อมันเลือกกินไม่ได้ก็คงต้องกินไปก่อน รอก่อนนะเหล่าบรรดาอาหารทั้งหลายลี่ถิงคนนี้จะเป็นผู้ริเริ่มเอง
ตอนนี้ลี่ถิงชวนสามีและน้องชายกลับบ้านเพราะเวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงปลายยามเซินแล้ว (15.00-16.59) หากไม่รีบเดินออกจากป่าเกรงว่าจะค่ำมืดเอาเสียก่อน
“กลับกันเถอะท่านพี่ พรุ่งนี้เราค่อยมาใหม่ดีหรือไม่วันนี้เราได้ผักใหม่ ๆกลับไปเยอะแยะเลย พอกลับถึงบ้านแล้วข้าจะทำอาหารแบบใหม่ให้กินนะเจ้าคะแต่ต้องรบกวนท่านพี่ช่วยไปจับปลาและกุ้งมาให้ข้าด้วย”
“ได้ เอาเป็นว่าเรารีบกลับกันเถอะ”
“ข้าด้วยข้าก็จะช่วยจับปลาจับกุ้งด้วยเอาเยอะ ๆ เลย”
จากนั้นทั้งสี่คนก็รีบเดินออกจากป่ากลับบ้านทันทีระหว่างทางลี่ถิงยังได้เจอกับมะเขือเทศ(ฟ่านเฉีย,ซีหงซื่อ)อีกด้วยนับว่าวันนี้เป็นอีกวันที่สามารถเก็บเกี่ยวได้มากมาย
ใช้เวลาเดินออกจากป่า 3 เค่อก็กลับมาถึงบ้านทันทีที่ถึงบ้านเฉิงคุณวางตะกร้าลงและตรงไปจับปลาที่ลำธารทันทีโดยมีน้องชายทั้งสองตามไปจับกุ้งด้วย
ลี่ถิงเองเตรียมทำมื้อค่ำนางจัดการหุงข้าวเอาไว้ก่อนจากนั้นก็เอาพืชผักที่ได้มาวันนี้เอาไปวางรวมกันที่ข้างโอ่งน้ำหลังบ้านและรดน้ำอีกนิดหน่อยหลังจากกินข้าวเย็นเสร็จแล้วหากว่าท้องฟ้ายังไม่มืดนางจะรีบนำต้นกล้าเล็ก ๆ พวกนี้ลงดินปลูกทันที
หลังจากที่สามพี่น้องไปจับปลาและกุ้งที่ลำธารเวลาผ่านไปไม่ถึง 2 เค่อทุกคนก็กลับมาแล้วพร้อมทั้งอาบน้ำมาเรียบร้อย
ลี่ถิงให้เฉิงคุณทำความสะอาดปลาวันนี้นางจะทำต้มยำปลา ปลาเผาเกลือกุ้งเผาและน้ำจิ้มรสเด็ดเนื่องจากวันนี้ได้เครื่องปรุงมาครบถึงแม้ว่ามันจะไม่มีน้ำปลาแต่มีเกลือกับน้ำตาลก็ใช้ได้แล้ว
นอกจากนี้นางยังได้ทำการหมักเหล้าผูเถาเอาไว้ถึงสองไหใหญ่ หลังจากมื้ออาหารค่ำลี่ถิงเห็นว่าท้องฟ้ายังไม่มืดจึงได้ชวนสามีและน้องชายไปปลูกผักที่ขุดเอามาจากป่าให้เรียบร้อยจากนั้นจึงกลับไปพักผ่อน
ส่วนเฉิงคุณวันนี้ถึงแม้ว่าเขาจะเหนื่อยมากก็ตามแต่เขาก็มีความสุขมากเช่นเดียวกัน อาหารที่ภรรยาทำวันนี้อร่อยมากและสิ่งที่พบในป่าวันนี้ทำให้ก้อนหินก้อนใหญ่ที่กดทับอยู่ภายในใจเขาหายไปทันที
เขาไม่ต้องกังวลอะไรมากแล้วสำหรับฤดูหนาวนี้ อย่างน้อย ๆ พวกเขายังมีเวลาอีกหลายเดือนในการหาอาหารและกักตุนเสบียง นอกจากนี้ยังหมดห่วงเรื่องเครื่องนุ่งห่มไปได้อีกอย่าง
ขอบคุณสวรรค์ที่ดลใจให้เขาพานางกลับมานางนับเป็นดาวนำโชคของบ้านเขาโดยแท้จริงนางคือคนที่จะช่วยให้ครอบครัวเขาดีขึ้นได้ในอนาคตเขาเชื่อแบบนั้น
จากนั้นทั้งลี่ถิงและเฉิงคุณก็หลับไปด้วยความเหนื่อยล้าถึงแม้ลี่ถิงจะไม่รู้ว่าตลอดคืนสามีแอบกินเต้าหู้นางทั้งคืนแต่นางก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร
เพราะความเหนื่อยล้าจึงทำให้หลับลึกนางไม่รู้หรอกว่าสามีแอบกอดแอบหอมนางส่วนสามีของนางนั้นไหนเลยจะกล้าทำตอนที่นางรู้สึกตัวเขาก็ได้แอบเท่านั้นแหละ
เช้าวันใหม่ลี่ถิงยังคนตื่นเช้าเช่นเดิมแต่วันนี้สามีของนางกลับตื่นก่อนนางและทำงานในส่วนของแปลงผักแทนนางหมดแล้วเพราะเขาแอบกินเต้าหู้นางมาทั้งคืน
พอเช้ามาก็ต้องรีบลุกออกจากที่นอนเพราะกลัวนางจะรู้ว่าตลอดเวลาที่นอนเขากอดนางเอาไว้ทั้งคืนไม่นานน้องชายทั้งสองก็ตื่นแล้วเช่นเดียวกัน
ลี่ถิงทำมื้อเช้าสำหรับทุกคนเสร็จแล้วและชวนน้องชายทั้งสองไปจัดการกับฝ้ายพวกนั้นก่อน
ส่วนนุ่นนั้นค่อยจัดการทีหลังหลังจากแยกกลีบดอกออกจากฝ้ายแล้วนางนำไปตากเอาไว้เตรียมแยกเมล็ดที่อยู่ข้างในออกก็จะสามารถนำไปใช้ได้แล้ว
โดยมีวิธีการทำอีกนิดหน่อยแต่ไม่เป็นปัญหาอะไรกับลี่ถิงเพราะชาติที่แล้วนางเป็นเด็กในชนบทย่อมรู้จักวิธีจัดการกับฝ้ายและนุ่นอยู่แล้ว
เวลาล่วงเลยมาจนถึงปลายยามเฉิน (07.00-08.59น.) ลี่ถิงจึงได้เรียกทุกคนให้มากินมื้อเช้าและหลังจากกินมื้อเช้าเสร็จพวกเขาก็จะเข้าป่ากันอีกครั้ง
ในวันนี้และอาหารกลางวันของวันนี้เป็นซาลาเปาไส้ผักกับกากหมูนางทำเอาไว้เยอะพอสมควรเพราะที่บ้านมีแต่ผู้ชายปริมาณในการกินอาหารจึงมากขึ้นตามไปด้วย
