บทที่ 3 คำตอบมันต้องไม่ใช่แบบนี้

“นี่ยัยพรเมื่อไหร่ยัยดาจะกลับสักทีมันนานแล้วนะเธอโทรไปถามทีสิจะกลับตอนไหนกับข้าวจะเย็นหมดแล้วเนี่ย จะว่าไปแล้วชีวิตคนเรานี่มันก็สั้นจริง ๆ แถมยังไม่รู้อีกด้วยว่าตายแล้วไปไหน น่าเบื่อจริง ๆ คำถามที่หาคำตอบไม่ได้เนี่ย”

“นี่ยัยเอ๋ เธอยังไม่เลิกคิดหาคำตอบจากคำถามพวกนี้อีกเหรอเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกเนี่ย”

“ไม่มีอะไร รีบ ๆ โทรตามยัยดากลับมาได้แล้วกับข้าวจะเย็นหมดแล้วเนี่ยเดี๋ยวก็ไม่อร่อยพอดีชักช้ารำไรอยู่นั่นแหละ”

ติ๊ดด ติ๊ด “ฮัลโหล ว่าไงพร มีอะไรหรือเปล่า” ชลดารับสายจากเพื่อนสนิท

“ดาเธออยู่ไหน รีบกลับมาได้แล้วกับข้าวจะเย็นหมดแล้วเนี่ย เรารำคาญเอ๋มากเลยเนี่ยตอนนี้”

“หืม มีอะไรหรือเอ๋เป็นอะไร หรือทำอะไรให้เธอไม่พอใจอย่างงั้นเหรอ”

“ก็บ่น ๆ อยู่นั้นเรื่องที่คนตายแล้วไปไหนนั่นแหละไม่รู้อะไรนักหนา”

“ฮ่า ๆ เอาน่าปล่อยเอ๋ไปเถอะ บอกเอ๋ไปแล้วกันเอาไว้เราตายก่อนนะเดี๋ยวกลับมาบอกให้ว่าตายแล้วไปไหน”

“ว๊าย ยัยดาพูดบ้าอะไรยะ ตายเตยอะไรพูดไม่ดีเลยรีบ ๆ กลับมาเลย”

ยังไม่ทันที่ชลดาจะได้พูดคุยตอบโต้กับเพื่อนเสียงปืนก็ดังขึ้นพร้อม ๆ กับที่ร่างของชลดาทรุดลงไปกองกับพื้น

ปัง!!

“ยัยดา เสียงอะไรยัยดา เธอเป็นอะไรหรือเปล่าเราได้ยินเสียงปืนตอบสิ ตอบเราสิ” พรได้แต่เรียกเพื่อนเสียงดัง

“ยัยพร เป็นอะไรยัยดาเป็นอะไรแล้วที่เมื่อกี้บอกเสียงปืน เสียงปืนอะไร”

“เราก็ไม่รู้ เอ๋ เราไม่รู้ เมื่อกี้ยังคุยกันอยู่ดี ๆ แล้วก็ได้ยินเสียงปืนเข้ามาในโทรศัพท์ ยัยดาจะเป็นอะไรหรือเปล่า”

ทางด้านชลดาที่ตอนนี้ลมหายใจแผ่วลงทุกที ดวงตาของเธอปิดสนิทมือถือตกอยู่ข้างลำตัวในโสตประสาทได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้คน ในที่สุดก็มีวันนี้วันที่เธอได้ไปหาคำตอบด้วยตัวเอง

ตายแล้วไปไหนเธอได้แต่หวังว่าเธอจะสามารถกลับมาตอบคำถามของเพื่อนสนิทอย่างเอ๋ได้ และสามารถให้คำตอบกับเอ๋ ได้ว่าตายแล้วไปไหน

เอ๋และพรที่ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกพลันมือถือของพรก็ดังขึ้นเมื่อเห็นเป็นเบอร์ของชลดา เพื่อนทั้งสองคนก็ได้แต่มองหน้ากันด้วยความโล่งอกแต่หลังจากพรที่รับสายของชลดานั้นทุกสิ่งทุกอย่างมันกลับไม่ใช่อย่างที่คิดเลย

“ฮัลโหล ยัยดาเธออยู่ไหนแล้วเมื่อกี้เสียงอะไร เราได้ยินเหมือนเสียงปืนเลย”

“สวัสดีครับ ผมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจครับ ไม่ทราบว่าคุณรู้จักกับเจ้าของมือถือเบอร์นี้หรือเปล่า สายล่าสุดที่เธอรับสายเป็นเบอร์ของคุณน่ะครับ”

“ตำรวจเหรอคะ! เพื่อนของฉันเป็นอะไรคะคุณตำรวจ ”

“ผมขอแสดงความเสียใจด้วยครับ เพื่อนของคุณเสียชีวิตแล้วจากเหตุการณ์นักศึกษาทะเลาะวิวาทและมีการยิงกันเกิดขึ้นทำให้เพื่อนคุณโดนลูกหลงไปด้วย”

“ยัยพร ยัยดาเป็นอะไร ตำรวจโทรมาทำไม”

“ยัยดาตายแล้ว ได้ยินไหมว่ายัยดาตายแล้ว ตำรวจโทรมา เรารีบไปหายัยดากันเถอะ”

ในโลกคู่ขนานต่างมิติ

หยางเฉิงคุณที่พาลี่ถิงมาถึงโรงหมอในเวลาต่อมาทันทีที่มาถึงหมอชราก็รีบรักษาทันที แต่ก็ช้าไปเสียแล้วเพราะนางโดนงูกัดมานานพอสมควร

ทำให้พิษได้แล่นเข้าสู่หัวใจของนางและสิ้นใจไปในตอนที่หมอชรากำลังทำการรักษาพอดี ทางด้านหมอชราที่เห็นว่าลี่ถิงตายแล้วและกำลังจะเดินออกไปแจ้งให้กับชายหนุ่มที่พาหญิงสาวคนนี้มารักษาว่าตัวเองไม่อาจยื้อชีวิตของนางเอาไว้ได้นั้น

แต่ยังไม่ทันที่หมอชราจะได้ก้าวขาพ้นประตู ชลดาในร่างของลี่ถิงก็ได้ส่งเสียงออกมาเสียก่อนทำให้หมอชราต้องรีบหันหลังกลับมาดูนางอีกครั้ง

“โอ๊ย ทำไมปวดหัวจัง”

“หือ ปวดหัวหรอ แม่นาง แม่นางได้ยินข้าหรือไม่”

หมอชรารีบจับชีพจรของลี่ถิงก็พบว่าปกติดีทุกอย่างเพียงแต่นางยังไม่ฟื้นขึ้นมาเท่านั้น หมอชราได้แต่ยืนมองนางด้วยท่าทางโง่งม

เมื่อสักครู่นางได้หยุดหายใจไปแล้วและตรวจไม่พบชีพจรชีวิตใด ๆ แต่เพียงเวลาผ่านไปไม่นานไม่ถึงเค่อด้วยซ้ำชีพจรนางกลับเต้นปกติและหายใจปกติจะว่าเขาตรวจผิดก็ไม่ใช่ เขารักษาคนมาตั้งแต่หนุ่มยันแก่ไม่น่าจะผิดพลาดได้

“พ่อหนุ่ม แม่นางที่เจ้าพามาพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ร่างกายนางอ่อนแอมากตอนนี้เลยทำให้นางยังนอนไม่ได้สติอยู่ แต่ไม่ต้องกังวลนะพรุ่งนี้นางก็จะฟื้นแล้ว”

“ท่านหมอข้าสามารถพานางกลับไปได้หรือไม่ขอรับ”

“ไอ้ได้มันก็ได้อยู่แต่ เจ้าน่ะไปเช่าเกวียนมารับนางกลับไปก็แล้วกัน”

“ขอรับท่านหมอเช่นนั้นรบกวนท่านดูแลนางสักประเดี๋ยว ข้าจะรีบกลับมารับนาง”

“ได้ ๆ เจ้าไปเถอะ”

หลังจากที่เฉิงคุณไปไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมเกวียนและเมื่อจ่ายค่ายาและค่ารักษาเรียบร้อยแล้วเขาจึงอุ้มลี่ถิงไปวางบนเกวียนและกลับหมู่บ้านทันที

และเขายังได้แวะซื้อข้าวชั้นเลวและธัญพืชอีกนิดหน่อยเพื่อนำกลับไปทำอาหารให้น้องชายทั้งสอง เขาไม่รู้ว่าเขาคิดถูกหรือคิดผิดที่ซื้อคนป่วยมาด้วยเงินเกือบทั้งหมดที่มีไหนจะจ่ายค่ายาค่าหมออีก

แต่ก็ช่างเถอะหวังว่าพอนางฟื้นขึ้นมาแล้วจะสำนึกบุญคุณเขาบ้างและทำตัวว่าง่ายถ้าหากนางฟื้นขึ้นมาแล้วทำตัวร้ายกาจและขี้เกียจเขาก็ไม่ลังเลใจที่จะขับไล่ไสส่งนางออกไป

ระยะทางจากเมืองจินหลิงถึงหมู่บ้านหวงเป่ยใช้เวลาเดินทางหนึ่งชั่วยามหากเดินทางด้วยเกวียนวัวถ้าหากเดินเท้าจะใช้เวลาถึงสองชั่วยามเลยทีเดียว

บ้านของเขาเป็นกระท่อมเล็ก ๆ สองหลังติดกันอยู่ที่ท้ายหมู่บ้านพร้อมด้วยที่ดิน 7 หมู่ สมบัติชิ้นสุดท้ายที่พ่อและแม่ของเขาเหลือเอาไว้ให้ และน้องชายอีกสองคน

เขาได้แต่หวังว่าเมียทาสที่เขาซื้อมานี้จะช่วยแบ่งเบาภาระของเขาได้บ้าง เฉิงคุณกลับมาถึงบ้านก็เป็นเวลาที่ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปนานแล้ว

แต่ก็ดีเหมือนกันที่ในตอนนี้ไม่ต้องตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใครในหมู่บ้านไม่เช่นนั้นคงได้เกิดสงครามน้ำลายกันเกิดขึ้นอีกแน่

“พี่ใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว แล้วนั่นท่านพาผู้ใดกลับมาด้วย พี่สาวท่านนี้เป็นใคร” หยางฮั่นคุณถามพี่ชายด้วยความสงสัย

“นั่นสิพี่ใหญ่ ไม่ใช่ท่านเข้าเมืองไปขายของป่าหรอกหรือทำไมถึงได้พาพี่สาวท่านนี้กลับมาด้วยได้” หยางสวี่คุณเองก็อดจะถามออกมาไม่ได้เช่นกัน

“เข้าบ้านก่อนแล้วค่อยคุยกันดีหรือไม่ พวกเจ้าไม่หิวหรือ กินข้าวกันหรือยัง”

“พวกข้ากินแล้ว ส่วนของพี่ใหญ่ข้าแบ่งเอาไว้ให้แล้ว ท่านไปกินข้าวก่อนเถอะ”

“อืม เอาล่ะต่อไปนี้ แม่นางคนนี้จะมาอยู่บ้านเราในฐานะพี่สะใภ้ของพวกเจ้า เข้าใจหรือไม่”

“ห๊ะ พี่สะใภ้ พี่ใหญ่นี่ท่านไม่ได้ไปฉุดหญิงชาวบ้านมาทำเมียหรือทำร้ายนางจนเป็นแบบนี้ใช่หรือไม่” ฮั่นคุณตะโกนออกมาเสียงหลง

“ให้มันน้อย ๆ หน่อยน้องเล็ก ข้าจะไปทำแบบนั้นได้ยังไง”

“ใครจะไปรู้ก็ท่านดูพี่สาวท่านนี้สิทำไมมีสภาพแบบนี้ล่ะ เป็นใครก็อดคิดไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ข้าไม่ผิดสักหน่อย”

“ตอนแรกพี่ว่าจะไปซื้อทาสมาสักคนมาช่วยทำงานและดูแลพวกเจ้าตอนที่พี่ไม่อยู่ แต่กลับเจอแม่นางคนนี้ถูกทำร้ายและพามาขายข้าก็เลยตัดสินใจซื้อมาน่ะ”

“พี่ใหญ่บ้านเราไม่ได้ร่ำรวยจะซื้อทาสมาทำไมขอรับข้าสองคนโตแล้วช่วยเหลือตัวเองได้ ท่านน่าจะเก็บเงินเอาไว้แต่งภรรยาเข้าบ้านดีกว่านะขอรับ”

“ก็นี่ไงน้องรอง พี่ก็พาภรรยามาแล้วนี่ไงเจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก หากว่านางเป็นคนดีและขยันขันแข็งพี่ก็พร้อมจะรับนางเป็นภรรยาของพี่ แต่ถ้านางตื่นขึ้นมาแล้วขี้เกียจและเรื่องมากล่ะก็พี่จะเอานางไปขายที่ตลาดค้าทาสพวกเจ้าวางใจได้เลย”

“เฮ้อพี่ใหญ่ แค่ปล่อยนางไปก็พอขอรับ ยังไงเสียนางก็เป็นคนเช่นพวกเราอย่าให้ถึงกับต้องทำแบบนั้นเลย”

“อืม พี่ก็พูดไปอย่างนั้นเองใครจะไปทำแบบนั้นกันเห็นข้าพี่ใหญ่ของพวกเจ้าคนนี้เป็นคนยังไงกัน”

หลังจากที่มีการพูดคุยกันภายในครอบครัวแล้วน้องชายทั้งสองคนก็กลับไปนอนที่ห้องของตัวเองส่วนห้องนี้ยกให้ลี่ถิงนอนและหยางเฉิงคุณเองก็นอนห้องนี้ด้วยเช่นกัน แต่เขาต้องปูฟูกเก่า ๆ นอนข้างเตียง ชลดาในร่างลี่ถิงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมากลางดึกแต่เธอไม่กล้าส่งเสียงดังเลยแม้แต่น้อย นางมองไปที่ชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างเตียง

นี่มันไม่ใช่ชายหนุ่มในฝันของเธอหรอกหรือ แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้แถมยังอยู่ในร่างของคนอื่นและชายหนุ่มคนนี้ยังซื้อเธอมาในราคาห้าเหรียญเงินอีกด้วย เขาซื้อเธอมาเพื่อเป็นภรรยาทาสของเขา

นี่มันเรื่องอะไรกันนี่หรือคำตอบที่ว่าตายแล้วไปไหนใครก็ได้ที่ส่งนางมาที่นี่รบกวนกลับไปบอกเพื่อนนางให้ด้วยตายแล้วต้องมาอยู่ในร่างคนอื่นยังพอทน

แต่สามีจน ๆ นี่มายังไงถึงแม้ว่าจะหน้าตาหล่อเหลามากก็เถอะ เฮ้อแบบนี้คงต้องทำใจอย่างเดียว ชลดาได้แต่หวังว่ามันจะเป็นความฝันเหมือนทุกครั้ง

เธอจึงข่มตานอนอีกครั้งและหวังว่าพรุ่งนี้เช้าตื่นขึ้นมาทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมเป็นชลดาสาวโรงงานคนเดิม

บทก่อนหน้า
บทถัดไป