บทที่ 9 น่าละอาย สุดๆ
ปืนใหญ่ (เล่าเรื่อง)
ผมกดวางสายแล้ว แต่ใจเหี่ยวแฟบพิกล ทว่าเอาจริงๆ ความอยากปลดปล่อยยังมีอยู่ตลอด เมื่อวิดีโอคอลไม่ได้ คงต้องพึ่งหนังเด็ดๆ เพื่อลบภาพของลงเอยไปจากหัว
เมื่อปิดประตูห้องเรียบร้อย ผมใช้เวลาดูหนังโป๊เกือบสองชั่วโมง ยอมรับว่าเพลียจัด อีกทั้งอารมณ์ยังวนเวียนกับเรื่องของลงเอย โดยที่ผมสังหรณ์ใจว่าเขาอาจไม่ใช่แค่พ่อค้าขายขนมหวาน นอกจากนั้นจู่ๆ รอยยิ้มเขา กับดวงตาคมๆ ก็ละม้ายใครบางคนที่ผมรู้จัก แต่มันติดอยู่ที่ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ดูเหมือนมีม่านหมอกจางๆ ปิดกั้นไว้ พอคิดถึงผมก็ปวดหัวจี๊ดๆ กระทั่งผล็อยหลับไปเสียดื้อๆ
ผมฝันร้ายตลอดคืน ภาพในคลิปที่ลงเอยถ่ายเอาไว้ในโทรศัพท์ตามหลอกหลอน ที่ร้ายแรงกว่านั้นคือผมฝันเปียก ซึ่งน่าละอายเชี่ยๆ มันเป็นความฝันน่าอดสู แต่เสียวซ่านจับใจ
ผมนั่งควบของแข็งให้ลงเอย ทั้งโยก ทั้งถูกอุ้มรอบห้อง ก่อนลงไปนั่งอ่อยเขา ทำท่ารูปตัวเอ็มสุดฤทธิ์ ผมส่งเสียงคราง ร้องเรียกให้ลงเอยเอาผมอย่างหน้าด้านๆ ความฝันชวนขนลุกทำให้ผมแทบบ้า ซึ่งปกติผมไม่เคยต้องการแบบนั้นมาก่อน แต่คืนนี้ความร่านมันมีพลังมหาศาล จนผมปลดปล่อยอย่างสุดๆ แถมไม่ใช่แค่หนเดียว ดันแตกติดกันถึงสองหน
ผมตื่นตอนตีห้าด้วยความเพลีย ใจคอไม่อยู่กับเนื้อตัว พออาบน้ำเสร็จจึงรีบแต่งตัว แล้วหาเครื่องดื่มเย็นๆ ซัดลงคอ ผมนั่งอยู่ในออฟฟิศจนใกล้เวลานัด พลางเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์มือถือดู เห็นว่าลงเอยส่งรูปขนมที่เขาทำเสร็จแล้วเข้ามาในกล่องข้อความหลายรูป
‘อดใจรอผมสักนิดนะ เดี๋ยวได้พบกัน’
เมื่อดูรูปกับข้อความลงเอย ผมก็หลอนฉิบหาย ทั้งที่ตอนแรกเป็นผมซึ่งหวังอยากกินลงเอย แต่ในตอนนี้ ผมกลับอยากแทรกแผ่นดินแล้วหนีไปให้ไกลๆ เขา
รถตู้คันใหญ่ขับมาจอดที่ลานด้านหน้าหอพักชายเจ้ตุ้งแช่ ด้านข้างรถมีป้ายชื่อร้านขนมลงเอย ส่วนคนที่ก้าวลงมาคือผู้ชายหน้าหวาน สวมผ้ากันเปื้อน วันนี้เขาไม่ได้มาคนเดียว มีผู้ช่วยอีกสองคน คนหนึ่งตัวสูงไม่ผอมไม่อ้วน ผมยาวมัดรวบไว้เป็นหางม้า อีกคนดูมีอายุท่าทางเหมือนรปภ.หรือยาม มากกว่าจะเป็นคนขายขนม
ผมก้าวออกจากออฟฟิศยืนมองลงเอย เขายิ้มให้ผม รอยยิ้มกว้างๆ ประดับบนดวงหน้าขาวละมุน แต่ผมรู้ว่าภายใต้หน้ากากที่หวานแทบละลายได้ มีคนหื่นและโรคจิตซ่อนอยู่ และตอนนี้เขามีคลิปของผมอยู่ในมือ
“ส่งที่นี่เลยไหม ผมจะให้คนขนลงมา”
ผมส่ายหน้าช้าๆ จากนั้นจึงบอกสถานที่พร้อมส่งโลเคชันให้เขา
“มึง เอ่อ...” ผมเอ่ยเสียงแข็งๆ เป็นลงเอยที่ส่งสายตาคมๆ ปรามเอาไว้
“สุภาพหน่อยซีปืนใหญ่”
“ลงเอยไปส่งขนมตามที่อยู่แล้วกัน เดี๋ยวปืนจะขับรถตามไป”
“มีคนรอรับหน้างานนะ”
“แหงสิ ป่านนี้หิวแล้วมั้ง รีบไปเลย แจ้งยอดมาด้วย ปืนจะโอนเงินเข้าบัญชีให้”
“เรื่องค่าใช้จ่าย ให้จบงานเรียบร้อยค่อยชำระก็ได้ เอาละ ขอตัวไปส่งของก่อนเดี๋ยวไม่ทันเวลา”
ผมโบกมือโบกไม้ให้ลงเอย และเกือบกลั้นขำไม่ไหว ด้วยสถานที่ซึ่งปักหมุดให้เขาคือแผนสำรองที่ผมหวังใช้แก้เผ็ดลงเอย!
ลงเอย (เล่าเรื่อง)
เกือบเจ็ดโมงตรง ผมต้องหงุดหงิดเล็กน้อย สถานที่ซึ่งปืนใหญ่ปักโลเคชันให้อยู่ไกล นอกจากไกลแล้วทางก็เปลี่ยว นานๆ ถึงมีรถขับสวน ดูแปลกอยู่หรอก แต่ผมอยากรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการทำอะไรกันแน่ ที่สำคัญเบอร์เกอร์ผม ลูกค้าควรได้กินแบบที่ยังไม่เสียรสชาติ ผมปรุงด้วยอกไก่และหมักให้นิ่มด้วยนมสดแล้วย่างไฟจนหอม จากนั้นก็ราดซอสจนฉ่ำในเนื้อ ก่อนนำไปวางบนขนมปังแบบโฮมเมด ส่วนชิฟฟอนก็นุ่มฟู เค้กกล้วยหอมยังอุ่นๆ อยู่ ทุกอย่างเพอร์เฟกต์อย่างที่ผมต้องการ
“เฮียเอย มันใช่เหรอ ไอ้เด็กนั่นหลอกหรือเปล่า ผมว่ากลับร้านเถอะ ง่วงนอนจนจะไม่ไหวแล้ว” ไฉ่ไฉ หรือ ฉันทัชถาม อีกฝ่ายเป็นลูกน้าห่างๆ ของผม นับว่าเป็นญาติคนหนึ่ง
“เออ มึงคิดว่ากูโง่เหรอ แต่อยากรู้ว่า ขับรถมาตั้งนานเนี่ย ที่ส่งของมีจริงไหม และถ้าไม่มี กูจะได้รวบยอดทำโทษปืนใหญ่ให้ดุๆ โทษฐานที่ทำร้ายความรู้สึกกู และยังกล้าล้อเล่นอะไรแบบนี้ จนกูต้องเหนื่อยแทบไม่ได้นอน”
ไฉ่ไฉทำหน้าค้านในเรื่องนี้
“แต่ผมกับน้าเพิ่มต่างหากที่วิ่งอยู่ทั้งคืน แล้วยังมีพวกเด็กใหม่ที่ช่วยกันเตรียมของอีก ส่วนเฮียเอย ก็แค่...” ไฉ่ไฉจะบอกว่า ลงเอยแค่คอยคุม และง่วนอยู่กับการค้นหาข้อมูลต่างๆ หน้าจอแท็บเล็ต
“มึงอย่าเสือกให้มาก ถามหน่อยกูยังเป็นเฮียของมึงหรือเปล่า”
ผมไม่ได้ขู่ไฉ่ไฉ สิ่งที่ผมทำต้องดีที่สุด โดยเฉพาะขนมและอาหาร เมื่อผมตัดสินใจดูแลปากท้องของคนอื่น ผมต้องพิสูจน์ให้ทุกคนรู้ว่าผู้ชายคนนี้ทำทุกอย่างได้ดีเลิศแค่ไหน ทั้งการเปิดร้านขนมเล็กๆ หรือจะเป็นงานในเครือบริษัทแบล็ควูดที่ผมต้องดูแล
ไฉ่ไฉเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก และเปลี่ยนเรื่องใหม่ถามผม
“ดูเหมือนเฮียสนใจเด็กนั่น”
ผมไม่รู้จะตอบไฉ่ไฉอย่างไรดี สนใจหรือ คงไม่ขนาดนั้น แต่ผมอยากทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ และไม่คิดผิดคำพูดใคร ถึงเป็นเรื่องเมื่อสิบกว่าปีก่อน อีกอย่างเด็กนั่นก็น่ารักดีและตรงสเปก แต่หลายปีที่ผ่านมา คงถูกตามใจไปหน่อย เขาเลยเป๋และกำลังเดินทางผิด
