บทที่ 5 ตอน แสงตะวันของหัวใจ/2
แต่ความสุขช่างแสนสั้นเมื่ออลิชาเรียนจบมหาวิทยาลัย แอนิต้าประสบอุบัติเหตุเรือล่มเสียชีวิต ทิ้งเขากับลูกสาวไว้ลำพังสองพ่อลูก
เขาผูกพันกับคารัสซีเลียมากจึงไม่กลับเมืองไทย เมื่ออลิชาพาย้ายจากในตัวเมืองคาซาญ่ามายังเซริตาน่า
เขาช่วยลูกสาวเลี้ยงหลานและสร้างโฮมสเตย์แห่งนี้ขึ้นมา หวังจะใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสุขสงบ ณ ดินแดนชายทะเลแห่งนี้
“หนูก็ภูมิใจในตัวแกค่ะพ่อ ถ้าแม่ยังอยู่แม่คงดีใจที่หลานมีส่วนคล้ายแม่มาก”
อลิชาเอ่ยขึ้น ภาพจำของมารดาคล้ายซ้อนทับอยู่บนตัวลูกน้อย ตัวเธอไม่มีพรสวรรค์เรื่องดนตรีเลย แต่กลับมีความสามารถเรื่องการทำอาหารและขนม เพราะคนเป็นพ่อเก่งในด้านนี้ นายพัชรพ่อของเธอเป็นเชฟทำงานในเรือสำราญมาก่อน ท่านมาพบรักกับแม่ของเธอซึ่งเป็นสาวชาวเกาะ เรื่องราวความรักแสนโรแมนติกของพ่อแม่ ทำให้อลิชาอยากเลียนแบบบ้าง แต่หนุ่มที่เข้ามาแจกขนมจีบล้วนยังไม่เข้าตา ยิ่งตอนนี้เธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมีลูกสาวตัวน้อย ทำให้อลิชาไม่กล้าตัดสินใจรับไมตรีจากผู้ชายคนไหน ที่สำคัญโรซี่น้อยหวงแม่มาก หนุ่มที่เข้ามาใกล้เธอถูกลูกสาวของเธอเล่นงานมาแล้วทุกคน ไม่มีใครทำให้แม่หนูยอมรับได้สักคน สงสัยเธอคงต้องเป็นโสดไปตลอดชีวิต
อลิชาคิดอย่างปลงๆ ก่อนจะหันไปเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน เขาถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่มาส่งให้เธอ พร้อมคำอวยพรที่ทำเอาคนรับดอกไม้ถึงกับงง
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับ คุณอลิชา”
ชายหนุ่มนามว่าโรแบร์โต้เจ้าของอู่เรือ หนึ่งในชายหนุ่มที่เข้ามาหมายปองคุณแม่ลูกติด หอบดอกไม้มาอวยพรวันเกิดให้เธอ
“เอ่อ... วันนี้ไม่ใช่วันเกิดฉันค่ะ”
อลิชาจำต้องบอกความจริง แม้จะทำให้อีกฝ่ายหน้าแตกก็ตาม
“ไม่ใช่วันนี้เหรอครับ ก็โรซี่บอกผม...”
คนฟังทำหน้าเหวอยกมือขึ้นลูบท้ายทอยตัวเองไปมา ยิ้มเขินให้อย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี หันไปมองหนูน้อยที่อยู่บนเวที ก็พบว่าแกกำลังหัวเราะคิกคักชอบใจ รู้ตัวว่าโดนแม่หนูหลอกเสียแล้ว เขาอุตส่าห์ติดสินบนด้วยตุ๊กตาเจ้าหญิงครบเซตตามที่แม่หนูร้องขอ แลกกับการทราบวันเกิดของผู้เป็นแม่ แต่เจ้าตัวน้อยกลับตลบหลังเขาจนหน้าแตกเป็นผุยผง ฝ่ามือคันยิบๆ อยากฟาดก้นให้หายเจ็บใจ ใครจะคิดว่าหน้าตาน่ารักแบบนี้ จะซ่อนความแสบสันไว้ข้างใน เขาเคยได้ยินเพื่อนที่เข้ามาจีบอลิชาหลายคนเตือนแล้วแต่ไม่เชื่อ ตอนนี้เขาเริ่มเชื่อแล้วว่าแม่หนูน้อยร้ายกาจเกินวัยจริงๆ
“ขอบคุณมากนะคะ วันนี้เป็นวันเกิดพ่อของฉันค่ะ สงสัยโรซี่จะจำสลับวันกัน”
อลิชาอมยิ้มขำความแสบของลูกสาว โรซี่น้อยแกล้งโรแบร์โต้ได้แบบหน้าตาย แถมยังหลอกให้เขาซื้อตุ๊กตาให้อีก
“ผมขออวยพรให้คุณลุงมีสุขภาพแข็งแรงนะครับ”
โรแบร์โต้หันมาอวยพรให้บิดาของหญิงสาวแทน คิดในแง่ดีว่าโรซี่น้อยยังเมตตาเขาอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นเขาคงเก้อทำอะไรไม่ถูก
“ขอบใจมากนะ คุณโรแบร์โต้”
นายพัชรเองก็กลั้นขำจนปวดแก้ม ระอาใจกับความแสบของหลานสาว ไม่รู้จะหวงแม่ไปถึงไหน นี่ก็เล่นงานหนุ่มๆ ที่มาวอแวกับแม่ตัวเองจนถอดใจไปหลายคน เมื่อไหร่ลูกสาวของเขาจะมีคนมาดูแลเสียที
“ครับคุณลุง เอ่อ... ผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีนึกได้ว่ามีเรือลำใหม่ต้องตรวจสภาพ”
โรแบร์โต้จำต้องหลบฉากออกมา เขาไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ หรอก คราวหน้าเขาต้องไม่พลาดอีก
“น่าสงสาร โรซี่น้อยเล่นงานซะไปไม่เป็น” นายพัชรส่ายหน้าระอาใจ
“จะมีใคร ที่ทำให้แกถูกใจได้ ตั้งป้อมหวงแม่แบบนี้”
อลิชามองลูกน้อยที่ร้องเพลงต่อ ด้วยท่าทางมีความสุขอย่างหมั่นไส้ ความแสบนี้ไม่รู้ได้มาจากใคร ตอนเด็กเธอเป็นเด็กเรียบร้อย ไม่เหมือนลูกสาวสักนิด หญิงสาวนึกเปรียบเทียบตัวเองกับลูกสาวแล้วถอนหายใจออกมา เมื่อคิดถึงดีเอ็นเออีกครึ่งในตัวลูก สงสัยนิสัยนี้คงจะได้มาจากพ่อ พ่อที่ไม่ต้องการลูกสาวอย่างแก...
“ริคคาโด้ คุณจะรู้ไหมว่าลูกสาวของคุณน่ารักแค่ไหน”
หญิงสาวรำพึงในใจ โดยไม่รู้ว่าคนที่เธอกำลังนินทา ตอนนี้จามฟุดฟิดอยู่บนเรือลำหนึ่งที่กำลังแล่นมายังท่าเรือเซริตาน่า...
เรือยอร์ชสีขาวลำหนึ่งแล่นอยู่กลางทะเล จุดหมายปลายทางคือเมืองเซริตาน่าแคว้นซานโตนี่ บนเรือริคคาโด้นั่งจิบไวน์บนเก้าอี้ ทอดสายตามองท้องทะเลสีฟ้าครามด้วยแววตาสงบนิ่ง เขากำลังจะเดินทางไปพบกับนิโคลัส เบตาโทรี่ หัวหน้าแก๊งไทก้าซานโตนี่ นิโคลัสเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียมีอายุมากที่สุดในสี่แก๊ง เขารุ่นเดียวกับนายฟรองซัวร์ปู่ของริคคาโด้ แต่ไม่ได้วางมือให้ทายาทสืบทอดตำแหน่ง เพราะบุตรชายคนเดียวของเขาได้ถูกลอบสังหารเสียชีวิตไปเมื่อสิบห้าปีก่อน ทิ้งหลานชายและหลานสาวไว้ให้เป็นผู้สืบทอดแทน ตอนนี้อเลสซานโดรหลานชายของนิโคลัสเพิ่งอายุได้ยี่สิบ ยังอ่อนเยาว์เกินกว่าจะมีบารมีให้คนในแก๊งเชื่อมั่น ส่วนหลานสาวในวัยยี่สิบห้านั้นนิโคลัสยื่นข้อเสนอให้แต่งงานกับริคคาโด้เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างแก๊ง แน่นอนว่าข้อเสนอนี้นายฟรองซัวร์เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าห้าปีก่อนริคคาโด้จะยอมมีทายาทตามที่คนเป็นปู่ขอร้องแล้วก็ตาม
ริคคาโด้นึกถึงวันที่เขาพาลูกชายไปส่งให้ผู้เป็นปู่ นายฟรองซัวร์ถึงกับน้ำตาไหลเมื่อเห็นเหลนตัวน้อย
“นี่คือลูกชายของผมครับคุณปู่ ทายาทรุ่นต่อไปของตระกูลมาร์เซียอาโน่”
ริคคาโด้พยักหน้าให้พยาบาลผู้ดูแลส่งลูกชายให้ผู้เป็นปู่อุ้ม นายฟรองซัวร์รับเด็กน้อยในห่อผ้ามาอุ้มด้วยความยินดี
