บทที่ 10 EP 02 การกลับมา [2]

Rrrr~

แล้วโทรศัพท์มือถือของฉันก็สั่นขึ้นมาจริงๆ แบบที่ฉันคิดเอาไว้

ฉันยืนจ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถืออยู่อย่างนั้นสักพัก สลับกับมองกลับไปที่โทโมะที่ยังคงรอสายอยู่

ลึกๆ แล้วฉันรู้สึกสับสนนิดหน่อยว่าฉันควรจะรับสายเขารึเปล่า เพราะคิดว่ารู้อยู่แล้วว่าเขาต้องโทรมาบอกฉันเรื่องผู้ชายคนนั้นอย่างแน่นอน

“ฮัลโหล”

แต่แล้วฉันก็ตัดสินใจกดรับ

บางทีโทโมะอาจจะโทรมาบอกเรื่องที่ผู้ชายคนนั้นอยากจะมาบอกกับฉันก็ได้ แต่การที่ฉันกดรับสายมันไม่ได้แปลว่าฉันจะยอมเดินออกไปนี่นา ถึงแม้ว่าระยะห่างระหว่างเราตอนนี้จะแค่ข้ามฟากถนน แต่ระยะเวลาสี่ปีที่ฉันถูกขายมา แค่ก้าวเดียวฉันก็จะไม่ยอมถอยกลับไป

ฉันแค่อยากรู้ว่ามีเหตุผลอะไรทำให้ผู้ชายคนนั้นกลับมาหาฉันเท่านั้นเอง มีเหตุผลหรือว่าเรื่องอะไรที่ทำให้คนขี้ขลาดอย่างผู้ชายคนนั้นกล้าผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กับคุณโอยามะ

บางทีมันอาจเป็นเรื่องสำคัญที่ฉันควรจะรู้ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กล้ามาทั้งที่รู้ว่าคนที่ผิดคำพูดกับคุณโอยามะ ไม่เคยมีจุดจบที่ดีสักราย และที่สำคัญที่ฉันยังคงสงสัยก็คือเขารู้ได้ยังไงว่าฉันเรียนอยู่ที่นี่ทั้งที่ฉันเพิ่งจะย้ายมาได้ไม่นาน

[ริโกะๆ นี่ฉันเองนะ]

น้ำเสียงของโทโมะเหมือนตื่นเต้นดีใจมากที่ฉันกดรับสายเขาได้สักที

“อืม ว่าไงโทโมะ ฮานะไม่ได้บอกนายเหรอว่าฉันไม่สบายก็เลยไม่ไปโรงเรียนน่ะ” ฉันแสร้งเกริ่นนำเหมือนคนไม่รู้เรื่องรู้ราวทั้งที่กำลังยืนมองเขายิ้มกว้างด้วยความดีใจที่ฉันกดรับสาย

[อ้าวเหรอ เธอเป็นอะไรมากรึเปล่า]

“ไม่หรอก แค่ปวดหัวนิดหน่อยน่ะ กินยาแล้ว พรุ่งนี้ก็น่าจะกลับไปเรียนได้แล้ว” ฉันพูดพลางหันหลังให้โทโมะกับผู้ชายคนนั้น เพราะคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องหันกลับไปมองอีกแล้ว

ตอนนี้เหลือแต่รอให้โทโมะบอกว่าเขาเจอผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง (ทั้งที่ฉันเห็นอยู่แล้วกับตา) และรอให้เขาพูดเรื่องที่ผู้ชายคนนั้นตั้งใจจะมาบอกฉันดีกว่า ฉันเชื่อว่าถ้ามันเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ และเขาไม่เห็นฉันไปตามนัด เขาต้องฝากโทโมะมาบอกฉันแน่ๆ เพราะท่าทางของผู้ชายคนนั้นดูร้อนใจเหมือนมันเป็นเรื่องเร่งด่วน

[อืม] น้ำเสียงของโทโมะเบาลงนิดหน่อยคล้ายกับว่าเขาเริ่มลังเล

“นายมีอะไรรึเปล่าโทโมะ หรือว่าฮานะเป็นอะไร” ฉันยังคงแสร้งถามต่อ

[เปล่าๆ ฉันเองก็ยังไม่ได้เดินเข้าโรงเรียนเลยน่ะ พอดีวันนี้ฉัน....]

“นายทำไม”

[ขอโทษนะริโกะ แต่วันนี้ฉันเองก็ตั้งใจจะไม่เข้าโรงเรียนเหมือนกัน]

เขาอยากรู้เรื่องของฉันสินะ…

“นายโดดเรียนเหรอโทโมะ”

[อืม ตอนนี้ฉันอยู่หลังโรงเรียนน่ะ ฉันอยากรู้ว่าผู้ชายคนนั้นโกหกฉันรึเปล่า แต่ว่าเขามารอเธอจริงๆ นะริโกะ ไม่ว่าเขาจะใช่พ่อเธอรึเปล่าแต่ฉันทนเมินเฉยกับเขาไม่ได้หรอก ท่าทางเขาน่าสงสารมาก]

โทโมะเป็นผู้ชายใจดีและอ่อนโยน เขามีน้ำใจกับคนรอบข้างเสมอนั่นแหละ และเท่าที่เห็น ผู้ชายคนนั้นก็ดูน่าสงสารมากจริงๆ ถ้าไม่ติดตรงที่ก่อนหน้านี้เมื่อสี่ปีที่แล้ว เขาเมาหยำเปและติดหนี้การพนันจนต้องลากลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างฉันมาเร่ขายให้มาเฟีย!

“ฉัน...”

[เธอจะลองคุยกับเขาก่อนมั้ย ฉันเองก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อหรอกนะว่าเขาเป็นพ่อเธอ เขานั่งอยู่ข้างๆ ฉันนี่เอง] โทโมะถามขึ้นมาอย่างนั้น

“รบกวนนายถามเขาให้ฉันทีได้มั้ยโทโมะว่าเขามีเรื่องอะไรสำคัญรึเปล่า แต่ไม่ต้องให้ฉันพูดกับเขาได้มั้ย ฉันกลัวว่าจะเป็นพวกโรคจิตหรือมิจฉาชีพน่ะ” ฉันเสแสร้งอ่อนแอใส่ ทั้งที่ความจริงแล้วนั่นมันนิสัยฮานะต่างหาก

[ได้ๆ งั้นเธอรอแป๊บนึงนะ ขอโทษที ฉันก็มัวแต่สงสารเขาจนลืมคิดเรื่องความปลอดภัยของเธอไปเลย รอแป๊บนึงนะริโกะ] โทโมะย้ำซ้ำๆ ว่าให้รอ ก่อนที่ปลายสายจะเงียบไป ซึ่งก็ทำให้ฉันแอบหันกลับไปมองเขาและผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง ซึ่งก็เห็นว่าโทโมะกำลังคุยกับผู้ชายคนนั้นอยู่จริงๆ

เหมือนจะพูดคุยกันได้แค่ไม่กี่คำ ดวงตาของโทโมะก็เบิกโพลงขึ้นราวกับว่าเรื่องที่ผู้ชายคนนั้นบอกกับเขาเป็นเรื่องที่น่าตกใจ ท่าทางแบบนั้นของโทโมะพลอยทำให้ฉันรู้สึกใจคอไม่ดีตามไปด้วย แม้จะพยายามบอกตัวเองว่าการกลับมาของผู้ชายคนนั้นจะต้องนำพาความเดือดร้อนมาให้ฉันอยู่แล้วไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะถ้าเขามีความสุขดี เขาคงไม่นึกถึงฉันแน่นอน

[ริโกะ]

“ว่ะ ว่าไงโทโมะ”

[คือเขาบอกฉันว่า...]

“แค่นี้ก่อนนะโทโมะ ฉัน...”

[แม่เธอป่วยเป็นมะเร็ง]

บทก่อนหน้า
บทถัดไป