บทที่ 6 EP 01 หน้าที่ของบอดี้การ์ด [3]
ถึงผมจะรู้สึกยังไงกับริโกะ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าผมจะสามารถละเลยหน้าที่ที่ผมได้รับมอบหมายได้หรอก ยังไงซะสิ่งที่คุณโอยามะย้ำกับผมและคนอื่นๆ มาตลอดนั่นก็คือเรื่องของการเรียงลำดับความสำคัญ
...ถ้าเราเรียงลำดับความสำคัญไม่ถูกต้อง ผลกระทบที่ตามมาอาจเป็นการสูญเสีย...
ผมลงลิฟต์มารอคุณโอยามะที่ชั้นล่างตามที่ได้รับคำสั่ง แต่ก่อนอื่นเลยผมคงต้องบอกคนที่ยังคงนั่งรอผมอยู่ในรถซะก่อนว่าวันนี้ผมคงไม่สามารถขับรถไปส่งเธอกลับบ้านได้แล้ว
ฟึ่บ!
เริ่มจากการเปิดประตูรถทันทีที่เดินมาถึง
การที่อยู่ๆ ผมเปิดประตูรถออกโดยไม่ได้ส่งสัญญาณบอกคนด้านในก่อน ทำให้ริโกะหันมามองผมด้วยสองตาที่เบิกโพลงขึ้นเพราะความตกใจ
“ถ้าฉันเป็นคนร้าย เธอคงตายไปแล้ว ทำไมไม่ล็อกประตูรถ” ผมถามเสียงขุ่นเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเตือนเรื่องนี้กับเธอ ไม่อย่างนั้นผมจะตั้งใจเดินมากระชากประตูรถทำไม
“เอ่อ ริโกะขอโทษที่ประมาทค่ะ”
“เวลาโดนยิง คำขอโทษมันไม่ได้ทำให้เธอหายเจ็บหรอกริโกะ” ผมดุใส่ ซึ่งเธอก็ทำหน้าหงอใส่ผมเหมือนทุกที แต่ไม่เคยจำเลยสักครั้งเดียว
“ลงมา”
“คะ?”
“บอกให้ลงมา เดี๋ยวฉันต้องไปทำงานต่อ โยชิจะเป็นคนไปส่งเธอแทนฉัน” ผมถือโอกาสบอกริโกะไปในตัว ซึ่งถึงแม้ว่าเธอจะยังงงๆ อยู่กับคำสั่งปุบปับของผม แต่เธอก็รีบก้าวเท้าลงจากรถพร้อมกับกระเป๋าเป้นักเรียนที่เธอมักจะวางมันเอาไว้บนตักของตัวเองเสมอ
“ช่วงนี้โยชิจะทำหน้าที่ไปรับไปส่งคุณฮานะกับเธอแทนฉันชั่วคราว”
“ทำไมเหรอคะ มีเรื่องอะไรรึเปล่า ริโกะทำอะไรผิดรึเปล่าคะ” ริโกะรีบถาม สายตาของเธอฉายแววกังวลขึ้นมาอย่างชัดเจน นั่นทำให้ผมต้องรีบส่ายหัวปฏิเสธ
“ไม่หรอก ฉันต้องไปทำงานน่ะ” ผมตอบสั้นๆ ซึ่งผมดูออกว่าริโกะน่าจะยังมีคำถามที่เธออยากจะถามต่อ แต่เธอคงไม่กล้าพอจะถามออกมา เธอถึงได้เลือกที่จะเม้มริมฝีปากเบาๆ แล้วเปลี่ยนเป็นส่งยิ้มให้ผมแทน
“ริโกะเข้าใจค่ะ”
“เป็นเด็กดีด้วยล่ะ” ผมทิ้งท้ายสั้นๆ ก่อนจะปิดประตูรถลงเมื่อหางตาเหลือบไปเห็นเงาของโยชิสะท้อนออกมาจากกระจกรถทางด้านหลังของริโกะ
ผมหันไปมองหน้าโยชินิ่งๆ ซึ่งทันทีที่เขาเดินมาถึงจุดที่ผมกับริโกะยืนอยู่ เขาก้มหัวให้ผมนิดหน่อยก่อนจะมองเลยไปที่ริโกะที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“รถฉันจอดอยู่ข้างหลังน่ะ”
“ค่ะคุณโยชิ” ริโกะตอบรับพร้อมกับยิ้มเจื่อน เธอหันมาทำความเคารพผมก่อนจะเดินนำออกไปตามทางที่โยชิบอก ส่วนผมก็คงต้องรอคุณโอยามะอยู่ตรงนี้
“ผมจะดูแลคุณฮานะกับริโกะอย่างดี คุณคิราวะวางใจเถอะครับ” โยชิบอกผมอย่างนั้นก่อนจะเดินตามริโกะออกไป ซึ่งผมรู้ดีว่าเขาต้องทำได้แน่ๆ ไม่อย่างนั้นคุณโอยามะคงไม่เลือกให้เขาทำหน้าที่สำคัญแบบนั้น
“คุณคิราวะคะ”
แล้วอยู่ๆ เมื่อผมกำลังจะละสายตาออกเส้นทางการเดินออกไปของทั้งริโกะและโยชิ เสียงของริโกะก็ทำให้ผมต้องหันกลับไปสบตากับเธออีกครั้ง
“ริโกะรอได้ค่ะ” ริโกะยกมือขึ้นมาป้องปากแล้วพูดโดยไม่เปล่งเสียงออกมา แต่ผมอ่านปากของเธอออก เพราะจำได้ว่ามันเป็นประโยคเดียวกับที่เธอเพิ่งจะพูดกับผมไปเมื่อตอนก่อนที่ผมจะขึ้นไปข้างบน มีเพียงโยชิเท่านั้นที่คงไม่เห็นว่าเธอพูดอะไร
ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพียงแค่พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะสะบัดมือไล่ให้เธอรีบเดินออกไปเท่านั้น
ผมไม่อยากให้โยชิสงสัยอะไรมากมาย ไม่ชอบให้เขามองผมหรือเธอด้วยสายตาที่เหมือนจะลอบสังเกตตลอดเวลาแบบนั้น รวมถึงไม่อยากให้คุณโอยามะเดินลงมาเห็นริโกะในท่าทีแบบนั้นด้วย เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าผมทำให้เธอตกที่นั่งลำบากที่ต้องตอบคำถามคุณโอยามะ
แล้วนี่ตกลงแล้วสาเหตุที่เธอพูดแล้วยิ้มได้แบบนั้นเป็นเพราะเธออยากให้ผมสบายใจ หรือเป็นเพราะตัวเธอเองรู้สึกสบายใจที่ไม่ต้องตอบคำถามของผมแล้วกันแน่
ยัยเด็กแสบ รู้มากขึ้นทุกวันจริงๆ
เฮ้อ~
ผมได้แต่ถอนหายใจก่อนจะสะบัดหัวเบาๆ เพื่อไล่ความคิดที่กำลังฟุ้งซ่านอยู่ออกไป พอดีกับจังหวะที่คุณโอยามะเดินมาถึงตัวรถพอดี และหน้าที่ของผมก็คือการเปิดประตูรถให้เขา
“ไปแบล็กทาวน์”
คำสั่งจากคุณโอยามะทำให้ผมคำนวณเส้นทางการขับรถในหัวทันที แม้จะยังไม่รู้ว่าคุณโอยามะจะกลับไปที่นั่นทำไมในเวลานี้ ทั้งที่เขาเองก็เพิ่งจะกลับออกมาได้ไม่นานด้วยซ้ำ แต่คิดว่าเดี๋ยวอีกสักพักผมคงได้รู้คำตอบ
ทันทีที่ผมเข้ามานั่งประจำที่คนขับ ผมก็ขับรถออกมาเพื่อตรงไปยังแบล็กทาวน์ตามคำสั่ง แบล็กทาวน์คือตึกแฝดที่สูงที่สุดในย่านมารุ ศูนย์รวมคำสั่งและการปฏิบัติงานทุกอย่างของแบล็กสกอร์เปี้ยน
