บทที่ 7 EP 01 หน้าที่ของบอดี้การ์ด [4]
“ถ้าฉันให้เปิดโอกาสให้นายถามคำถามฉันได้หนึ่งคำถาม นายอยากถามอะไรคิราวะ” คุณโอยามะถามพลางเหลือบสายตามองผมผ่านกระจกมองหลังตรงหน้าผม ซึ่งก็ทำให้ผมเหลือบมองเขากลับไปเช่นกัน
“ผมไม่มีคำถามครับ”
“แม้แต่เรื่องริโกะก็จะไม่ถามงั้นเหรอ”
“ครับ”
“ทำไม หรือนายกลัวว่าฉันจะสั่งให้นายวนรถกลับไปแบล็กวิลล์”
น้ำเสียงของคุณโอยามะเย็นเยียบแบบนี้เสมอ ผมเชื่อสนิทใจว่าถ้าคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ไม่ใช่ผม มันคงกลัวจนหัวหดไปแล้ว แต่สำหรับผม ไม่ว่าน้ำเสียงของคุณโอยามะจะเย็นหรือนิ่งมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถสื่อหรือแสดงออกได้ถึงอารมณ์ของเขาเท่ากับสายตาหรอก และเป็นเพราะว่าผมมองเห็นได้ชัดเจนว่าสายตาของเขาในเวลานี้ดูนิ่งสงบ นั่นแปลว่าเขาไม่ได้กำลังคิดจะหลอกถามเพื่อให้ผมเปิดปาก หากแต่กำลังประเมินความคิดของผมอยู่ต่างหาก
“เปล่าครับ แต่ที่ผมไม่ถาม เพราะผมไม่ได้สงสัยอะไร”
“อย่างเช่นเรื่องที่ฉันสั่งให้โยชิไปทำหน้าที่รับส่งริโกะแทนนายด้วยใช่มั้ย”
คำถามชี้นำของคุณโอยามะทำให้ผมนิ่งไปสักพัก แต่ถึงจะเอะใจอยู่บ้าง ผมก็ยังไม่คิดจะถามออกไปอยู่ดี
“คุณโอยามะวางใจให้เขาทำหน้าที่นั้นก็เพราะเขามีความสามารถครับ อีกอย่างหน้าที่หลักของโยชิคือรับส่งคุณฮานะต่างหาก ส่วนริโกะเป็นผลพลอยได้” ผมตอบอย่างพยายามแยกแยะ ซึ่งก็ทำให้ผมได้เห็นรอยยิ้มมุมปากของผู้ชายที่ใครๆ ก็มักจะบอกว่าเขาไร้ซึ่งอารมณ์ขัน
“นายไม่ควรเชื่อใจฉันขนาดนั้นหรอกคิราวะ”
“ผมเชื่อในเหตุและผลของคุณโอยามะครับ เชื่อเพราะรู้และมั่นใจว่าเหตุผลนั้นมันจะเป็นผลดีกับเราทุกคนเสมอ” ผมตอบพลางยิ้มตอบคุณโอยามะนิดหน่อย ก่อนจะตั้งใจขับรถต่อไปเงียบๆ
“ขอบใจที่นายเชื่อใจฉัน”
คำตอบของคุณโอยามะทำให้ผมรู้สึกใจโล่งใจขึ้นมาได้บ้างนิดหน่อย ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าเหตุผลที่คุณโอยามะออกคำสั่งแบบนั้นคืออะไร แต่ผมเชื่อว่ามันเป็นทางเลือกที่คุณโอยามะคิดว่ามันดีที่สุดแล้วสำหรับสถานการณ์ในตอนนี้
“คุณโอยามะมีอะไรจะบอกผมงั้นเหรอครับ” ผมถามเมื่อสบโอกาส รู้สึกได้ว่าตั้งแต่ที่ผมขับรถออกมาคุณโอยามะเหลือบสายตามองผมอยู่หลายครั้ง ซึ่งถึงจะเป็นเพราะคุณโอยามะมีเรื่องจะพูดกับผม แต่มันก็บ่อยเกินไปอยู่ดี บวกกับการที่ผมเห็นว่าเขายกข้อมือซ้ายขึ้นมามองนาฬิกาข้อมือ ทำราวกับว่ากำลังรอเวลาอะไรสักอย่าง
“สมกับเป็นคนที่ฉันไว้ใจให้ดูแลฮานะ”
“เกี่ยวกับเรื่องของพวกเสือขาวใช่มั้ยครับ” ผมพยายามคาดเดาอย่างไม่อ้อมค้อม ซึ่งคำตอบของคุณโอยามะก็คือการพยักหน้าเบาๆ แล้วสบตาผมนิ่งๆ เหมือนเป็นสัญญาณเตือน
“ผมจะระวังตัวให้มากกว่านี้ครับ”
“นายรู้ตัวมานานเท่าไหร่แล้ว”
นี่ต่างหากสิ่งที่คุณโอยามะต้องการจากปากผม
“สองวันครับ”
“เพราะแบบนี้นายถึงไม่สงสัยเรื่องที่ฉันสั่งให้โยชิไปดูแลฮานะสินะ” คุณโอยามะพูดต่ออย่างรู้ทัน ซึ่งผมก็ได้แต่พยักหน้าตอบเขาอย่างตรงไปตรงมาเหมือนเคย
ก่อนหน้านี้ประมาณสองวันก่อน ผมรู้สึกว่ามีคนคอยสะกดรอยตามผม เพียงแต่ยังไม่มั่นใจเท่านั้นว่าเป็นพวกไหน มันปฏิเสธได้ยากว่ายิ่งคุณโอยามะนำพาแบล็กสกอร์เปี้ยนให้แข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่ คนที่คิดจะล้มเขาก็มีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
แต่การที่จะล้มเขาโดยตรงมันไม่ง่าย แต่ขั้นตอนมันก็ไม่ได้ยาก เพราะก็คือการต้องเริ่มจากการข้ามศพผมไปก่อน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ค่าหัวของผมจะพลอยสูงตามไปด้วย เพราะถ้ากำจัดผมได้ก็ไม่ต่างอะไรกับการตัดแขนของคุณโอยามะ
“ผมทราบครับว่าคุณโอยามะเป็นห่วงคุณฮานะ และต้องขออภัยที่ผมไม่ได้บอกให้คุณโอยามะทราบตั้งแต่ต้น จนอาจทำให้คุณฮานะต้องตกอยู่ในอันตราย”
“ไม่ใช่ความผิดของนายหรอก คนที่ทำให้ฮานะต้องตกอยู่ในอันตรายคือฉันต่างหาก เป็นคนของฉัน จะอยู่ตรงไหนกับใครก็อันตรายทั้งนั้น นายเองก็เหมือนกัน” คุณโอยามะพูดด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ซึ่งผมรู้ดีว่าเป็นเพราะความห่วงใยที่เขามีต่อคุณฮานะ ก่อนหน้าที่เขาจะได้รู้จักเธอ ไม่ว่าจะปัญหาอะไรหรือแม้แต่ความตาย ผมก็ไม่เคยเห็นคุณโอยามะยี่หระต่ออะไรสักอย่าง แต่ตั้งแต่ที่เขามีคุณฮานะ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
จากที่รอบคอบอยู่แล้ว เขาก็รอบคอบขึ้นอีกหลายเท่าในทุกๆ ด้าน ระวังตัวเองมากขึ้น และก็ดูเหมือน...จะอ่อนโยนมากขึ้นอีกด้วย
“ผมจะพยายามลากตัวมันออกมาให้ได้เร็วที่สุดครับ”
“อย่าวู่วามจนกว่าจะแน่ใจ ไม่ว่าจะฮานะหรือนาย ต่างก็มีความสำคัญกับฉันทั้งนั้น”
“ครับผม”
ปัง!
แล้วอยู่ๆ ก็มีเสียงปืนดังขึ้นจากทางด้านหลัง สายตาของผมเหลือบมองไปยังกระจกรถด้านข้างทันทีพร้อมกับที่พยายามจะประคองรถเอาไว้ในเส้นทาง ส่วนคุณโอยามะก็เอื้อมหยิบปืนที่ถูกเก็บไว้ในช่องเก็บของด้านหลังด้วยความรวดเร็ว
“ปลอดภัยนะครับ”
“ขับตรงไปเรื่อยๆ ข้างหลังฉันจัดการเอง” คุณโอยามะสั่งเสียงเข้ม ก่อนที่เขาจะยกกระบอกปืนในมือขึ้นมาแล้วกลับตัวเพื่อหันหน้ากลับไปทางด้านหลัง ซึ่งหน้าที่ของผมก็คือการขับรถตรงไปต่อไปเรื่อยๆ รวมถึงการติดต่อขอกำลังเสริม
“ขอกำลังเสริมที่ถนนฮาดะ คุณโอยามะตกอยู่ในอันตราย”
ปัง!
เอี๊ยดดด~~~
