บทที่ 1 บทนำ [1]
ติ๊ด!
ติ๊ด!!
ติ๊ด!!!
เสียงอะไรสักอย่างดังขึ้นมารบกวนจนฉันไม่สามารถข่มตาหลับต่อได้ทั้งที่อยากจะนอนหลับต่ออีกสักพัก มันดังต่อเนื่องกันไม่หยุดจนฉันนึกอยากจะเอื้อมมือออกไปคลำหาที่มาของเสียงแล้วปามันทิ้งไปไกลๆ แต่กลับขยับตัวเองไม่ได้เลย ร่างกายเหมือนถูกกดทับด้วยอะไรหนักๆ จนเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก และที่สำคัญคือฉันไม่สามารถจะผลักมันออกไปได้
ปัง!
แต่แล้วอยู่ๆ ก็มีเสียงบางอย่างดังแทรกขึ้นมา เสียงนั่นคล้ายกับเสียงปืนที่ทำให้ทุกอย่างสว่างจ้าขึ้นมาฉับพลัน
ฉันสะดุ้งและลืมตาตื่นเพราะความตกใจ หากแต่แสงสว่างจ้าจากภายนอกกลับทำให้ฉันต้องหยีตาลงโดยอัตโนมัติ ก่อนจะต้องกะพริบตาถี่ๆ อยู่อีกหลายครั้งกว่าจะคุ้นชินกับแสงสว่างสีขาวนั่น
เมื่อการมองเห็นเริ่มกลับมาเป็นปกติ ฉันก็รีบกวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อสังเกตหาที่มาของไอ้เสียงประหลาดน่ารำคาญที่ได้ยินอยู่เมื่อครู่ ซึ่งสิ่งที่ฉันได้พบก็คือไอ้เครื่องสี่เหลี่ยมที่ตั้งอยู่ข้างๆ เตียง บนหน้าจอของไอ้เครื่องเครื่องนั้นมีคลื่นฟันปลาสลับขึ้นลงปรากฏอยู่ตลอดเวลา
กึก!
เสียงข้อมือของฉันกระตุกอย่างแรงเมื่อฉันพยายามจะยกมือไปผลักไอ้เครื่องบ้านั่นออกไป แต่กลับพบว่าข้อมือรวมไปถึงข้อเท้าของฉันทั้งหมดถูกมัดติดกับที่กั้นเตียง แรงกระตุกเมื่อครู่ทำให้ฉันรู้สึกปวดแปลบที่ไหล่ด้านซ้ายจนต้องนอนนิ่วหน้า ก่อนที่ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดจะเริ่มหลั่งไหลเข้ามาราวกับมันถูกตั้งเวลาเอาไว้ และทั้งหมดนั่นทำให้ฉันพึงระลึกขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านี้ฉันถูกยิง!
“ฉันคิดว่าเธอจะไม่ฟื้นขึ้นมาแล้วซะอีก”
เสียงนั่นมัน...
“โอยามะ”
หัวใจกระตุกวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อเห็นว่าใครบางคนกำลังเดินเข้ามา
ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ในชุดสูทที่ดูภูมิฐานกำลังเดินตรงเข้ามาหาฉันชื่อโอยามะ เป็นประธานกลุ่มแบล็กสกอร์เปี้ยน กลุ่มมาเฟียที่มีอิทธิพลที่สุดในย่านมารุ ซึ่งนอกจากจะมีโอยามะแล้ว ก็ยังมีคนของเขาอีกสองคนที่เดินตามเขาเข้ามา
โอยามะเป็นมาเฟียหนุ่มที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับฉัน ต่างกันก็ตรงที่เขามีทั้งเงิน มีทั้งอำนาจ ในขณะที่ตอนนี้ฉันไม่มีแม้แต่อิสรภาพ เพราะแค่อยากจะลุกขึ้นจากเตียงตอนนี้ฉันก็ยังทำไม่ได้เลย
“แปลว่าสมองไม่ได้เสื่อม ถ้าอย่างนั้นเธอคงจำได้ว่าเพราะอะไรเธอถึงมาอยู่ที่นี่” น้ำเสียงของโอยามะเยียบเย็นจนฉันรู้สึกขนลุก ทั้งสีหน้าและท่าทางของโอยามะทำให้ฉันสัมผัสได้ถึงบรรยากาศรอบกายที่ไม่น่าไว้วางใจ
คำว่า ‘ที่นี่’ ของเขาทำให้ฉันกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องอีกครั้งถึงได้รู้ว่าที่นี่ที่เขาหมายถึงคือโรงพยาบาล และตอนนี้ฉันก็นอนอยู่บนเตียงคนไข้ ในสภาพที่สองมือและสองเท้าถูกมัดติดกับเตียงไม่ต่างจากนักโทษ และถ้าจะพูดกันตามตรง นั่นคือสถานะจริงๆ ของฉันในตอนนี้
ฉันเป็น ‘นักโทษ’ ของแบล็กสกอร์เปี้ยน
“ว่าไง จำได้รึเปล่า”
“ไอ้พวกคนสารเลว” ฉันตะโกนด่าออกไปโดยไม่คิดจะเกรงกลัวคนตรงหน้าเลยสักนิด วินาทีนี้ต่อให้ความตายเป็นทางเลือกเดียวที่ฉันมีฉันก็จะทำ แต่จะไม่มีวันก้มหัวให้พวกมันเด็ดขาด!
“นอกจากสมองจะไม่เสื่อมแล้ว ความจำเธอยังดีมากอีกด้วย เพราะฉะนั้นก็รู้เอาไว้เลยแล้วกันว่า...”
“อื้อออ” ฉันร้องออกไปพร้อมกับพยายามดิ้น เพราะถูกมือของปีศาจที่ชื่อโอยามะซึ่งแข็งแรงราวกับคีมเหล็กบีบเข้าที่ปลายคางจนรู้สึกปวด
“ฉันยังเลวได้มากกว่าที่เธอคิด”
“โอ๊ย!”
เขามันไม่ใช่คน!
“เข้ามาได้”
หลังจากสะบัดใบหน้าของฉันออกจากฝ่ามือ โอยามะก็เหลือบหางตามองไปที่หน้าประตูห้องพักของฉันพร้อมกับสั่งด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ฉันรู้สึกได้ถึงความเฉียบขาด จากนั้นฉันก็ได้ยินเสียงเปิดประตูอีกครั้ง ก่อนที่ใครบางคนจะเดินเข้ามา
การมาของใครคนนั้นทำให้ภาพความทรงจำที่เลวร้ายเริ่มฉายเข้ามาในหัวของฉันอีกครั้ง ทุกอย่าง ทุกเหตุการณ์ค่อยๆ ชัดเจนขึ้นทีละฉากทีละตอนเมื่อฉันได้สบตากับเขา และเมื่อภาพทั้งหมดชัดเจน มันก็ทำให้ฉันกำหมัดแน่นแล้วพยายามดิ้นสุดชีวิตเพื่อให้หลุดออกจากพันธนาการ
“ไอ้คนสารเลว! ไอ้คนชั่ว อื้อออ”
