บทที่ 7 EP 01 เงื่อนไขของไดสึเกะ [4]
ก๊อกๆ ๆ
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นไม่ได้ทำให้ฉันตกใจหรือแม้แต่สนใจจะลืมตาตื่น จนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้เตียง ตามมาด้วยเสียงถาดอาหารที่วางลงบนโต๊ะด้านข้าง
อาหารโรงพยาบาลก็มาเวลานี้ทุกวันนั่นแหละ
“เอาออกไป” ฉันพูดโดยไม่ลืมตาขึ้นมองหน้าพยาบาลที่ยกถาดอาหารเข้ามาด้วยซ้ำ
“แต่คุณนามิไม่ได้ทานอะไรมาสามวันแล้วนะคะ”
“ไม่หิว เอาออกไป”
“เอาวางไว้ตรงนั้น หมดหน้าที่แล้วก็ออกไปได้” ไดสึเกะพูดแทรกอย่างตั้งใจ ฉันรู้ว่าเขาตั้งใจจะทำทุกอย่างเพื่อกดดันฉัน
หลังจากคำสั่งของไดสึเกะ ฉันก็ได้ยินเสียงพยาบาลคนนั้นเดินออกไปก่อนที่เธอจะปิดประตูห้องลงเบาๆ
...เหมือนทุกวัน...
ฉันยังคงนอนนิ่งไม่ขยับ นี่เข้าวันที่สี่แล้วที่ฉันช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เพราะสองมือและสองเท้าถูกมัดเอาไว้ ทางเลือกของฉันในเวลาที่ฉันหิวคือการให้พยาบาลที่ยกถาดอาหารเข้ามาให้เป็นคนป้อน เพราะโอยามะอนุญาตให้แก้มัดฉันเฉพาะเวลาที่จะไปเข้าห้องน้ำเท่านั้น และนั่นต้องมีคนของเขาเฝ้าอยู่ในห้องด้วย
คิดแล้วก็แอบนึกขำเหมือนกันที่เขากลัวแม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างฉัน ส่วนฉันก็กลัวอดตายจะแย่ เพราะตั้งแต่วันแรกที่ตื่นขึ้นมาบนเตียงของโรงพยาบาลจนกระทั่งถึงวันนี้ ฉันก็ยังไม่เคยร้องขอให้พยาบาลหน้าไหนมาป้อนอาหารสักคำ
บ้าฉิบ!
“ฉันรู้ว่าเธอชอบอวดเก่ง แต่มันผิดเวลาไปหน่อย ลืมตาแล้วหันมานามิ” ไดสึเกะลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาข้างเตียงอีกครั้ง เสียงฝีเท้าของเขาทำให้ฉันลืมตาขึ้นแล้วรีบหันไปมอง ถึงได้เห็นว่าเขาเพิ่งจะเปิดฝาถ้วยซุปนั่นออก และกำลังใช้ช้อนเขี่ยมันวนไปวนมาในถ้วย
“มีสองทางเลือก จะให้พยาบาลเข้ามาป้อน หรือให้ฉันกรอกปาก” ไดสึเกะถามพลางเคาะช้อนลงที่ขอบถ้วยซุปเบาๆ
“ไม่กิน”
“ไม่มีในตัวเลือก”
“ฉันบอกว่าไม่...อื้อ แค่กๆ ๆ ๆ” ฉันถึงกับสำลัก เมื่อไดสึเกะพยายามจะกรอกซุปสาหร่ายผ่านช้อนใส่ปากฉัน เขาบีบปากฉันเอาไว้ก่อนจะจ่อซุปร้อนๆ ที่เขาไม่แม้แต่จะเป่ามันก่อนที่จะกรอกใส่ปากฉันด้วยซ้ำ
“ถ้าจะให้กรอกปาก ก็อ้าปากดีๆ แต่ถ้าเรื่องมากฉันจะเอาช้อนงัด”
“พยาบาล” ฉันบอกสั้นๆ เมื่อไดสึเกะตักซุปใส่ช้อนขึ้นมาขู่อีกรอบ กับการกระทำที่เขากำลังทำ ฉันว่าคำว่าเลวมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ
“เหอะ!” ไดสึเกะแค่นหัวเราะในลำคอก่อนที่เขาจะวางช้อนกลับลงในถ้วยซุปตามเดิมแล้วเอื้อมมือไปกดอินเตอร์คอมที่หัวเตียงเพื่อเรียกพยาบาล
“คนไข้ห้อง 1212 หิวจะตายแล้ว”
คำก็ตาย สองคำก็ตาย ถ้าฉันตายไปสักคนเขาคงมีความสุขมากสินะ ถ้าอย่างนั้นทำไมวันนั้นเขาไม่ฆ่าฉันล่ะ เดาว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาคงทำ และฉันเองก็คิดว่าฉันก็คงไม่อยากอยู่จนถึงวันนี้เหมือนกัน
ก๊อกๆ ๆ
แล้วพยาบาลก็เคาะประตูห้องก่อนจะเปิดเข้ามา ใบหน้าที่แต่งแต้มสีสันด้วยเครื่องสำอางเจื่อนลงนิดหน่อยเมื่อถูกคนข้างเตียงถอนหายใจใส่
“จะเข้าห้องน้ำค่ะ ไม่ได้หิว”
“เอ่อ...”
“กินให้หมดแล้วค่อยไป”
“ค่ะๆ”
“ปวดฉี่ หรือจะให้ฉันฉี่บนเตียงเลย”
“คือว่า...”
“ให้ฉี่บนเตียงไปนั่นแหละ ถ้าไม่กินก็ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น”
“แต่ว่า...” พยาบาลที่ยืนอยู่ข้างเตียงมองหน้าฉันกับไดสึเกะสลับกันไปมาเมื่อฉันกับเขายังคงต่างคนต่างพูดโดยไม่สนใจฟังคำพูดของอีกฝ่าย และเมื่อมันมีปัญหามากนัก ฉันจะฉี่บนเตียงจริงๆ คอยดู!
“บนเตียงก็บนเตียง”
“อย่าค่ะๆ เดี๋ยวดิฉันพาไปเข้าห้องน้ำนะคะ” พยาบาลรีบร้องบอกเมื่อฉันยืนยันว่าจะฉี่บนเตียงจริงๆ นั่นทำให้ฉันถึงกับต้องถอนหายใจแรง
“คิดว่ายัยนั่นจะกล้าฉี่บนเตียงจริงๆ รึไง”
“จะลองดูก็ได้” ฉันหันไปพูดกับพยาบาล ซึ่งเธอคงไม่กล้าปล่อยให้ฉันทำแบบนั้นจริงๆ หรอก ไม่อย่างนั้นคนเดือดร้อนคงไม่ได้มีแค่ฉัน
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวดิฉันพาไปได้ค่ะ คุณโอยามะอนุญาตให้คุณนามิเข้าห้องน้ำได้นะคะ” พยาบาลรีบบอก ซึ่งถึงแม้ว่าน้ำเสียงของเธอจะสั่นเพราะเกรงไดสึเกะอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าตีความหมายจากคำพูดที่เธอเพิ่งจะพูดออกมา คนที่เธอกลัวและเชื่อฟังที่สุดดูเหมือนจะไม่ใช่คนที่ยืนหน้าตึงอยู่ตอนนี้ เหอะ!
บ้าชะมัด ข้อมือฉันแดงไปหมดเลย
