บทที่ 4 ถูกใครทำร้าย

ทว่าสิ่งที่ทั้งสองคนบอกเธอมันเป็นเรื่องโกหก อีกทั้งแจ็คสันยังไม่ได้สนใจเลยว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร สำหรับเขาการแต่งงานครั้งนั้นก็เหมือนกับว่าเธอเป็นแค่สมบัติชิ้นเล็ก ๆ ที่มีเลือดเนื้อซึ่งถูกส่งมาขัดดอก เพื่อที่ลุงกับป้าของหญิงสาวจะได้ไม่ต้องถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมด ฝ่ายเขาก็แค่ทำตามหน้าที่เจ้าบ่าวไปเท่านั้น ทว่าเรื่องราวดังกล่าวกลับสร้างบาดแผลในใจแก่ม่านอวี้อันจนเธอไม่อาจลืม

หลังจากนั้น แจ็คสัน สามีคืนเดียวของเธอต้องไปเซ็นสัญญาทำธุรกิจ ซึ่งเธอทราบในภายหลังว่าเขาตกอยู่ในเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งใหญ่ และเกิดการจลาจลจนมีผู้เสียชีวิตนับสองร้อยคน ซ้ำร้ายยังมีร่างที่ถูกเผาไหม้อยู่ในอาคารจนไม่อาจระบุได้ว่าเป็นใครอีกหลายศพ

และชื่อ แจ็คสัน หยวน เองก็อยู่ในรายนามผู้เสียชีวิต ทำให้เธอต้องถูกผลักไสจากคนในตระกูลหยวน รวมถึงลุงกับป้าที่กล่าวหาว่าเธอเป็นตัวซวย สุดท้ายม่านอวี้อันจึงต้องมาอยู่ที่ร้านขายอาหารเล็ก ๆ แห่งนี้ ในถนนเนี่ยอินที่มีแก๊งมังกรซิ่งคอยรีดไถเงินผู้คน

“คุณผู้หญิง” เมื่อเยว่จือยังคงเรียกซ้ำ ๆ อยู่เช่นนั้น หญิงสาวเลยต้องยกมือห้าม

“ฉันคือใคร?”

“เอ๋ ทำไมถามแบบนั้นคะ” เยว่จือตกใจ แต่ไหนแต่ไรม่านอวี้อันเป็นผู้หญิงที่ใช้เสียงเบา ไม่ชอบโวยวายหรือปั้นสีหน้าตึง ๆ ทว่าตอนนี้กลับไม่ใช่อย่างนั้น!

“เอาใหม่ ตั้งสติ แล้วฟังคำถามให้ดี ๆ ฉัน-คือ-ใคร?”

ม่านอวี้อันคนใหม่นี้ลงเสียงหนัก ดวงตากลมโตที่จ้องเยว่จือพลอยให้เด็กสาวตัวสั่น

“คะ คุณผู้หญิง คือม่านอวี้อัน...”

เมื่อได้ยินแบบนั้น วิญญาณที่สวมร่างผู้อื่นพลันขนลุกซู่ขึ้น เธอคือ ม่านอวี้อัน สตรีแสนอาภัพ ตอนนี้ในหัวของเธอมีหลายสิ่งวนเวียนอยู่เต็มไปหมด

“เอาละ ต่อไปเรียกฉันว่า ‘มาดาม’ หรือไม่ก็พี่อัน ได้หรือไม่”

เยว่จือยกมือขึ้นปิดปากตนทันที เหตุใดเธอจะกล้าเรียกคนที่มีบุญคุณกับตนเช่นนั้น

“ฉันบอกไม่เข้าใจหรือ”

“เอ่อ ค่ะ... มาดาม”

“ดี แบบนี้ฉันถึงรู้สึกเป็นตัวเองขึ้นสักหน่อย”

จากนั้นหญิงสาวจึงหลับตาลง พึงระลึกว่าต่อจากนี้เธอคือ ม่านอวี้อัน และจะไม่มี ลิซ่า จาง อีกต่อไปในโลกยุค 80s นี้

เมื่อเข้าไปในครัวโดยมีสองฝาแฝดเดินป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ ๆ ม่านอวี้อันรู้สึกมีชีวิตชีวาไม่น้อย พวกเขาจะว่าไปก็ทำให้เธอกระตือรือร้นอยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป

ทว่าพอหยุดมองภาพในห้องครัว ม่านอวี้อันก็แทบทรุดลงไปนั่งกองบนพื้น ครอบครัวนี้ช่างยากจนข้นแค้น ให้ตายเถอะแม้แต่ข้าวสารยังไม่มีกรอกหม้อ กระนั้นจากที่กวาดตามองอย่างคร่าว ๆ ม่านอวี้อันจึงได้ใจชื้นขึ้นมาสักหน่อย เมื่อเธอเห็นน้ำตาลทราย เกลือ และแป้งหลายชนิด ถัดไปที่อยู่หลังสุดคือตู้เย็นที่นับว่ายังใช้การได้ดี และพอเปิดประตูออก เธอก็ต้องยกมือขึ้นทาบอก ก่อนจะหัวเราะพรืดใหญ่ เพราะในตู้เย็นมีเนยจืดก้อนใหญ่วางอยู่ แถมยังมีเครื่องปรุงรสอย่างละนิดละหน่อย นอกจากนั้นเป็นนมจืดไม่กี่กล่อง แยมส้ม ลูกเกดอบแห้ง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และของจุกจิกที่เธอมั่นใจว่าจะทำให้ตนเองกับสองฝาแฝดอิ่มท้องได้ นี่คงเป็นตู้ต่างมิติมหัศจรรย์ของเธอสินะ สิ่งที่จะช่วยทำให้ทุกคนในบ้านอิ่มท้อง

“มัมมี้ นม...” เซียงเจียวว่าก่อนจะเอานิ้วส่งเข้าปากแล้วเริ่มดูด เขาคงหิวนั่นเอง

“แม่จะทำของอร่อย ๆ ให้หนูกินดีไหมจ๊ะ”

“น้องอยากกินของอร่อย ไม่เอาไข่ต้ม...” เด็กชายเลียนแบบคำพูดของเธอพร้อมกับบอกสิ่งที่เขาเบื่อมาก ๆ นั่นก็คือไข่ต้ม ที่ไข่แดงมักสุกเกินไปจึงทำให้ฝืดคอ

“แล้วผิงเกอของแม่ล่ะ”

เธอหันไปถามลูกชายคนโตที่เดินตามหลังมา เขาถือหมอนข้างเล็ก ๆ มาด้วย ดวงตากลมโตมองม่านอวี้อันแป๋ว ผิงกั่วสื่อสารไม่เก่ง แต่ยิ้มหวานจับใจ

“ผิง... หิว!”

“ดี แม่จะทำของอร่อยที่สุดให้พวกหนูกิน” ม่านอวี้อันว่าแล้วก็ฮึกเหิม เธอไม่ได้รู้สึกมีพลังเช่นนี้มานานแล้ว โลกที่จากมาเธอหวังแต่เงินทองและชื่อเสียงจนบางครั้งอาจลืมจิตวิญญาณของอาหารไป!

เยว่จือถึงกับตกใจกับอาการของม่านอวี้อัน เมื่อปกติคุณผู้หญิงห่วงข้าวของในครัวจนใครจับต้องไม่ได้ และตู้เย็นดังกล่าวยังเป็นเหมือนสมบัติล้ำค่า เพราะเหลือเพียงชิ้นเดียวที่มีราคาแพงที่สุดในบ้าน เธอจึงไม่ยอมให้เด็ก ๆ เข้าใกล้เป็นอันขาด

“ฉันหลับไปกี่วัน”

“มะ มาดามนอนซมไปเกือบห้าวันค่ะ และเราไม่เหลืออะไรเลย มีขนมปังก้อนสุดท้าย หนูเอาให้น้องกินตอนเช้า ตอนนี้เหลือกล้วยหอมหนึ่งหวี แป้งทำขนมสามถุง แล้วก็ไข่ที่เฮียข่ายแบ่งไว้ให้ครึ่งแผง”

เยว่จือว่าจบจึงขยี้ตาตนเองแรง ๆ ไม่ใช่ว่าอ่อนแอ แต่เธอพยายามทำให้ตนไม่ส่งเสียงร้องไห้ออกมาต่างหาก ด้วยของเพียงเท่านี้จะพอกินถึงสิ้นเดือนได้อย่างไร!

“เธอหิวไหม” ม่านอวี้อันถาม

เด็กสาวเงยหน้าขึ้น เป็นตอนนั้นที่ม่านอวี้อันเห็นชัดเต็มสองตาว่าแก้มข้างหนึ่งของเยว่จื่อมีรอยแดงช้ำ เธอฉงนในตอนแรก ก่อนถามเสียงเข้มว่า

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

“น่ะ หนูหกล้ม”

ม่านอวี้อันไม่เชื่อ เธอเอื้อมมือไปจับคางของเด็กสาว หมุนซ้ายหมุนขวา จากนั้นก็ทั้งโกรธและหงุดหงิดใจเมื่อเห็นว่ามันเป็นรอยฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ทำให้ใบหน้าเรียวเล็กนี้บอบช้ำ

“ใครทำร้ายเธอ!” ม่านอวี้อันเดือด ใจเธอเต้นแรงจนเกือบจะกระโจนออกมาอยู่นอกอก!

บทก่อนหน้า
บทถัดไป