บทที่ 11 ความรู้สึกที่ไม่อาจบอก
พินอาภามองหน้าเพื่อนอีกครั้งด้วยความสงสาร แต่หากไม่ยอมทำตามคำขอของเขาเธอเชื่อว่าเขาคงรั้งให้เพื่อนเธออยู่ที่นี่จริงๆ แน่
“ปรางค์... จะเอายังไง”
“ก็ได้เราคุยกับเขาก็ได้” หญิงสาวตอบรับเสียงสั่น
ยอมเดินเลี่ยงออกมาเพื่อให้เพื่อนได้พูดคุยกับเขาให้จบเรื่องไป ไม่เข้าใจว่าทำไมชายคนนั้นยังต้องการรั้งเพื่อนเธอไว้อีก
ปรางค์ปรียายืนสั่นสะท้านเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ลุคส์ข่มความรู้สึกบางอย่างไว้ เขารู้ว่าตนเองได้เข้าใจผิดไป เรื่องทุกอย่างกระจ่างแล้ว และเขาไม่รู้ว่าควรเอ่ยคำใด เมื่อทุกอย่างมันสายไป
“คะ...คุณมีเรื่องอะไรที่ต้องการพูดกับฉัน”เสียงสั่นเครือถามเขา
เขาชะงักพร้อมกับสูดหายใจเข้าปอดมือหนาจัดการปลดสร้อยที่อยู่รอบคอออก แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งจับมือเธอไว้แล้วหย่อนสร้อยเส้นนั้นไว้ในมือ ปรางค์ปรียามองสร้อยสีเงินมีจี้รูปหยดน้ำในมือแล้วเหลือบมองหน้าเขาด้วยความงุนงงหมายความว่ายังไง ให้สร้อยคอเส้นนี้กับเธอเพื่ออะไรกัน
“หมายความว่ายังไงคะ?”หญิงสาวมองหน้าเขาด้วยความสงสัย
“เก็บเอาไว้!”
“ฉันไม่ต้องการ!”เธอไม่ต้องการอะไรจากเขาทั้งนั้น ไม่อยากได้สมบัติจากเขาสักชิ้น แค่นี้ก็เจ็บปวดมากพออยู่แล้ว ไม่อยากได้อะไรจากเขาให้มาย้ำเตือนความเจ็บปวดอีก
“ถ้าเธอไม่เก็บมันไว้ตามที่ฉันสั่ง เธออาจจะได้อยู่ที่นี่ตลอดไปก็ได้!”
เธอรีบสวมสร้อยไว้ที่คอของตนเองทันที ไม่ต้องการอยู่ต่อแค่นาทีเดียวก็ไม่อยาก
“ฉันไปได้แล้วใช่ไหม!”
“เชิญ!”
หญิงสาวรีบเดินเลี่ยงเขาออกมา พินอาภารีบเดินมาจูงมือเพื่อนไว้แล้วพากันออกไปจากคฤหาสน์นั้น มือบางจับสร้อยที่เขาให้มาไว้แน่น จำใจยอมรับมันเพื่ออิสรภาพ
ชายหนุ่มมองแผ่นหลังบอกบางลับจากสายตา ทั้งๆ ที่ได้อยู่ด้วยกันไม่นาน แต่ทำไมหัวใจเกลับรู้สึกวูบไหวอย่างประหลาด ในหัวสมองสับสน ความรู้สึกที่แท้จริงในเวลานี้เขาไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนนั้นเดินจากไป
พินอาภาพาเพื่อนมาพักที่บ้านของลุง คิดว่าจะพักที่นี่สักระยะให้เพื่อนได้ปรับตัวและลืมเรื่องเลวร้ายไปเสียก่อน ค่อยกลับเมืองไทย เสียงน้ำตกกระทบผิวกระเบื้องดังอย่างต่อเนื่องพินอาภานั่งครุ่นคิด เธอรู้สึกว่าเพื่อนมีบางอย่างที่แปลกไป ผู้ชายหน้าหล่อแต่ใจโฉดได้ทำอะไรปรางค์หรือเปล่า
สายน้ำที่กำลังไหลผ่านร่างกายไม่ได้ทำให้จิตใจกำลังปวดร้าวทุเลาลงได้เลย เธอเอาแต่เฝ้านึกถึงวันคืนเลวร้ายที่ผ่านมาไม่นาน แขนสองข้างยกขึ้นกอดตัวเองท่ามกลางสายน้ำ น้ำตาไหลออกมาผสมปนเป เธอไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดีกับอนาคตข้างหน้า แล้วชายที่เธอหวังฝากชีวิตจะยอมรับเธอได้หรือไม่ กับอดีตอันเลวร้ายเช่นนี้
ร่างบางนุ่งผ้าขนหนูสีขาวนวลเดินออกมาจากห้องน้ำ พินอาภาหันมองเพื่อนสาวเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบา ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อเห็นผิวขาวเนียนของเพื่อนมีแต่รอยจ้ำเต็มไปหมด เดินเข้าไปหาด้วยความรู้สึกผิด เธอไม่รู้ว่าเพื่อนต้องเผชิญอะไรมา
พินอาภาจ้องมองน้ำตาไหลอาบแก้ม รั้งเพื่อนมาโอบกอดไว้แน่น ไม่รู้จะเอ่ยคำใดออกมา
“เราขอโทษปรางค์...”
“ไม่เป็นไรพิน มันจบแล้ว...”ปรางค์ปรียาสะอื้นในอ้อมกอดเพื่อน
ร่างสูงใหญ่นั่งอยู่บนเตียงกว้าง มือลูบไล้บนเตียงเบาๆ เขารู้ดีว่าเธอคนนั้นไม่ใช้หลานสาวของไมเคิแต่เพราะความโกรธ เห็นเธอบังอาจต่อปากต่อคำ และยังไม่กลัวตายเสียอีก เขาเกลียด! เธอกล้าท้าทายเขา ดังนั้นจึงลงทัณฑ์หญิงสาวอย่างเลือดเย็น เขาไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่พอเธอจากไปเหมือนใจกำลังทรมาน
ชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสจะให้สร้อยเส้นนั้นกับใคร เขารู้ดี เธอเป็นเพียงคนเดียวที่เขารู้สึกมากมายจนอยากจะมอบสิ่งล้ำค่า ไว้ให้ หวังว่าเธอคงจดจำเขาได้บ้าง ในแง่ไหนก็ตาม เพราะมันแสดงว่าเธอยังคงมีเขาหลงเหลือในความทรงจำ
ปรางค์ปรียายืนนิ่งอยู่ตรงสนามบินพร้อมกับเพื่อนสาว ไม่นานนักคนขับรถมารับทั้งคู่ หญิงสาวเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง โดยที่มือข้างหนึ่งจับจี้ที่สร้อยคอไว้ เธอก้มลงมองมัน อยากให้ทุกอย่างมันเป็นแค่เพียงความฝันที่ผ่านมาแล้วผ่านไป กำลังภาวนาขออย่าให้ตนเองได้พบกับเขาอีกเลย น้ำตาเหมือนกำลังอยากไหล แต่จำต้องกล้ำกลืนมันเอาไว้ ไม่อยากเสียน้ำตาเพราะชายใจร้ายอีกต่อไปแล้ว... จากกันแล้วก็ขออย่าได้พบกันอีกเลย
พินอาภาเหลือบมองเพื่อนเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดี จึงเอื้อมมือไปจับมือไว้แน่น เวลาผ่านไปไม่นานรถยนต์จอดลงที่หน้าบ้าน พีรยามารดาของพินอาภารีบเดินออกมาต้องรับพร้อมกับภูมิชัยซึ่งเป็นบิดา ร่างผอมบางเดินเข้ามาหาปรางค์ปรียาแล้วโอบกอดไว้สะอื้นไห้ด้วยความสงสาร คนถูกปลอบเลยต้องมาปลอบแทนเพื่อให้คลายสะอื้น มารดาเพื่อนคลายอ้อมกอดพร้อมใช้มือลูบไล้ใบหน้าหญิงสาวเบาๆ
“ขอบคุณมากนะลูก ที่ปกป้องยัยพิน... แม่ขอบคุณหนูมากนะ”พีรยาบอกทั้งน้ำตา
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูเต็มใจ”
“ขอบใจมากนะปรางค์ ที่ทำเพื่อครอบครัวลุงมากขนาดนี้...”ภูมิชัยสมทบ
พีรยาจูงมือปรางค์ปรียาเข้าบ้าน เพื่อพูดคุยกันสักพักก่อนแยกย้ายกลับห้อง ปรางค์ปรียาทิ้งกายลงบนเตียงกว้างเม้มริมฝีปาก เวลานี้ต้องเข้มแข็ง รอดพ้นจากเรื่องเลวร้ายมาควรเริ่มต้นชีวิตใหม่เสียที
พินอาภาทอดสายตามองวิวผ่านหน้าต่าง คำพูดของลุงไมเคิลยังวนเวียนในหัว สร้อยเส้นนั้นซึ่งลุคส์ให้กับเพื่อนมามีความหมายมากมาย มันเป็นสมบัติประจำตระกูล ไว้สำหรับผู้สืบทอดเท่านั้น แล้วเหตุใดชายคนนั้นจึงยอมถอดมันให้กับปรางค์ มันน่าแปลกมากจริงๆ เธอคงได้แค่หวังให้ปรางค์อย่าพบเจอเรื่องเลวร้ายอีก ปรางค์ปกป้องเธอมาแล้ว และเธอไม่มีวันทอดทิ้งเพื่อนอีกครั้งแน่นอน หญิงสาวแน่วแน่กับตนเอง
