บทที่ 17 พบอดีต
หลังจากมื้ออาหารผ่านไป ร่างบางเดินมาส่งเพื่อนชายหน้าบ้าน กวินภพยิ้มให้ เขาเอื้อมมือทำท่าจะเปิดประตูเข้าไปในรถแต่กลับชะงัก แล้วหันกายกลับมามองอีกครั้ง เธอแปลกใจเมื่อเห็นเขาเดินมาหายืนนิ่งไม่พูดอะไรแต่กลับรั้งร่างบางมากอดไว้แน่น คนถูกกอดตกใจกับท่าทีของเพื่อนชายแต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามผลักไส เพราะเธอเองได้รับความช่วยเหลือจากเขามามาก ไม่นานอ้อมกอดถูกคลายเขายิ้มเขินๆ ให้
ในที่สุดเขาก็ยอมกลับไปขึ้นรถตนเองแล้วขับออกไป ดวงตาคมจ้องมองการกระทำที่ผ่านมาสักครู่ของทั้งสอง เขาขบกรามเป็นสันนูน ในอดเดือดดาลอยากกระชากไอ้ผู้ชายคนนั้นมาซัดให้หมอบราบคาบ แต่เขาไม่มีสิทธิ์ทำอะไรแบบนั้นผู้หญิงคนนั้นเธอไม่ใช่ของเขา และไม่เคยเป็นมาตั้งแต่แรก การพบกันในวันนี้ทำให้เขาได้รู้ว่า เธอทั้งรังเกียจและกลัวเขามากเพียงใด
มาติชส่ายหน้า ทำอะไรไม่ได้คงได้แค่เอาใจช่วยเจ้านายเท่านั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตไม่ง่ายเลยที่จะทำให้หญิงไทยยอมรับ เพราะเธอได้รับความกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจและร่างกายมากมาย ถอนหายใจเฮือกใหญ่ หวังแค่เธอคนนั้นจะยอมอ่อนลงบ้างให้นายได้แก้ตัว
ปรางค์ปรียาจูงมือบุตรชายออกมาจากบ้าน วันนี้เธอสัญญากับไทม์ว่าจะพาไปเที่ยวที่สวนสนุก เด็กชายตัวน้อยยิ้มด้วยความดีใจ
“พร้อมไปเที่ยวกับแม่หรือยังครับไทม์?”เธอถามบุตรชาย
“พร้อมแล้วครับ”เด็กชายรีบตอบ
“งั้นก็ไปกันเลย”
หญิงสาวจูงมือบุตรชายพากันเดินมานอกบ้าน เโบกแท็กซี่แล้วพากันเข้าไปนั่ง ไม่นานนักรถก็มาจอดยังสวนสนุกใจกลางเมือง ไทม์ยิ้มออกมาด้วยความดีใจวิ่งนำมารดาอย่างรวดเร็ว ดวงตาซุกซนมองเครื่องเล่นมากมายด้วยความตื่นเต้นยิ่งเห็นมารดาเดินช้ายิ่งขัดใจ มือเล็กจึงรีบจูงมือแม่ไว้แล้วลากให้ตามมาทันที เกือบเย็นถึงจะสิ้นฤทธิ์ของจอมซนลงได้
“ง่วงหรือยังครับ?”หญิงสาวถามเมื่อเห็นบุตรชายตาปรือ
“ครับแม่”
“งั้นกลับบ้านเรากันนะครับ”
ปรางค์ปรียาจูงมือบุตรชายมายืนรอรถที่หน้าสวนสนุก รถแท็กซี่จอดรอรับ ไทม์รีบเข้าไปก่อน รถเคลื่อนได้สักระยะเด็กน้อยผล่อยหลับศีรษะหนุนตักแม่ มือบางลูบไล้ใบหน้าบุตรชายเบาๆ ด้วยความเอ็นดูแล้วจุมพิตที่หน้าผาก
รถแท็กซี่แล่นมาตามทาง แต่ดันเกิดอาการรวน รถเลยจอดเทียบข้างทาง โชเฟอร์แท็กซี่รีบลงมาดูแล้วส่ายหน้า
“ขอโทษนะครับ พอดีรถผมเสีย”
“เหรอคะ ไม่เป็นไรค่ะงั้นฉันลงตรงนี้เลยก็ได้เพราะใกล้ถึงบ้านแล้ว...”
หญิงสาวรีบปลุกบุตรชาย ไทม์งัวเงียตื่นแล้วมองมารดาตนเองด้วยความงุนงง ร่างเล็กลงมาจากรถตามแรงจูงของมารดา
“เดินอีกหน่อยนะลูก นิดเดียวก็ถึงบ้านแล้วครับ”
“ครับแม่”
ไม่นานทั้งสองก็เดินมาถึงหน้าปากซอยบ้าน แต่ตอนนี้เป็นเวลาหัวค่ำแล้วทำให้ซอยนี้ค่อนข้างมืดและเปลี่ยวไม่น้อย ลุคส์นั่งดูสองแม่ลูกในรถเขาถอนหายใจหนัก มีบางอย่างสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเด็กคนนั้น ให้มาติชไปสืบมา เด็กคนนั้นไม่มีบิดาในเอกสารการเกิดที่โรงพยาบาล แล้วใครกันที่เป็นพ่อเด็กจากการคำนวณ ระยะเวลาที่เขาและเธอแยกจากกันมันประจวบเหมาะกับอายุของเด็กคนนี้พอดี แล้วจะให้ คิดยังไงได้ หน้าตาของเด็กคนนั้นไม่ได้เหมือนชาวเอเชียแต่กลับมีลักษณะบางส่วนที่ออกไปทางยุโรปผสมกับเอเชีย เด็กคนนี้เป็นลูกครึ่งแน่นอน
ร่างบางพาบุตรชายมาถึงหน้าบ้านแล้วรีบไขประตูเข้าด้านใน ไทม์วิ่งเข้าบ้านก่อนมารดา เธอจึงหันมาเพื่อปิดรั้วบ้านแต่กลับชะงักเมื่อพบใครบางคนกำลังยืนอยู่หน้าประตู กุญแจในมือหล่นลงพื้นทันที ร่างบางถอยหลังอ้าปากค้างด้วยความกลัวกายสาวสั่นเทา ดวงตาคมกริบกำลังจ้องมองมา ปรางค์ปรียาจำได้ไม่มีวันลืมว่าเขาคือใคร
“คุณมาทำไมออกไปนะ!”เธอตวาดไล่เขาลั่น
“ฉันมีเรื่องที่ต้องการรู้”
“เรื่องบ้าอะไร ออกไป! ออกไปนะ! ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจ!”
“เธอคิดว่าฉันกลัวตำรวจหรือไง ถ้ากลัวฉันคงไม่มาที่นี่หรอก!”
“คุณต้องการอะไร!”หญิงสาวถามเสียงสั่น
“เด็กคนนั้น ฉันต้องการพบลูกของเธอ”เขาประกาศกร้าว
“ไม่มีวัน อย่ามายุ่งกับลูกของฉัน ออกไปซะแล้วไม่ต้องมาเหยียบที่นี่อีก!”
ลุคส์เดินเข้าไปกระชากท่อนแขน แล้วรวบเอวบางไว้แน่น ดวงตากร้าวแข็งขึ้น ริมฝีปากหนายิ้มเหยียดออกมาเมื่อรู้สึกถึงอาการสั่นสะท้าน
“เธอยังไม่ลืมฉันใช่ไหม ถึงได้สั่นแบบนี้...”เขาเย้ย
หญิงสาวรีบดันแผงอก หันหน้าหนี พยายามดิ้นรนให้พ้นจากการกอดรัด แต่เธอรู้ดีว่ามันไม่มีประโยชน์
“ฉันขอร้อง... ปล่อยฉันไปเถอะ... อย่าทำร้ายฉันอีกเลย ฉันทรมานเพราะคุณมามากแล้ว ฮือๆๆๆ”ปรางค์ปรียาอ้อนวอนพร้อมกับสะอื้นออกมา
“เด็กคนนั้นเป็นลูกของฉันใช่ไหม?”เขาถาม
“ไม่! เขาไม่ใช่ลูกคุณ!”หญิงสาวปฏิเสธทันควัน
เสียงเอะอะหน้าบ้านส่งผลให้ร่างเล็กรีบวิ่งออกมา เด็กน้อยยืนนิ่งเมื่อเห็นแม่กำลังร้องไห้ต่อหน้าผู้ชายร่างสูงใหญ่ ดูเหมือนเป็นคนต่างชาติ
“แม่ครับ...”เด็กชายเรียกแม่
เสียงเล็กๆ ทำให้ทั้งสองหันมามอง ลุคส์จ้องมองไปยังร่างเล็กแล้วพิจารณาดู ไม่ผิดแน่ลักษณะของเด็กคนนี้มีเค้าโครงเหมือนเขาตอนเด็กมาก สีผมของเด็กคนนั้นก็คล้ายกับเขา จะให้คิดว่าเป็นลูกคนอื่นได้ยังไง นอกจากผู้หญิงคนนี้จะไปมีความสัมพันธ์กับชาวต่างชาติคนอื่นที่ไม่ใช่เขา
