บทที่ 5 งานที่ทำ

บทที่5

ดีแล่นหัวเราะสะใจขับรถไปตามถนนลูกรัง ถ้าป่านทอทองอยากมาก็ต้องมาเอง แต่ถ้าไม่มา แม่ของเขาคงบ่นจนอยู่บ้านไม่ได้ แค่นี้ก็สะใจแล้วในความรู้สึกของเขา

แม้จะสะใจกับแฝดน้องแต่ก็อดห่วงแฝดพี่ไม่ได้ อะไรหลายๆอย่างทำให้เขามั่นใจว่าปอแก้วไม่ได้หนีไปเอง

เขากับปอแก้วรักกันมาก ก่อนวันแต่งงานเธอกับเขายังพร่ำบอกพูดคำว่ารักกันอยู่เลย ใบหน้าแสนหวานรอยยิ้มแสนสดใส รสจูบที่ดูดดื่ม เขายังคิดถึงรสสัมผัส ทุกอย่างยังตราตรึงอยู่ในใจไม่รู้ลืม

แต่พอถึงวันงานกลับเป็นแฝดน้องที่ได้มาแต่งงานแทน จะยกเลิกก็ไม่ได้ด้วยมารดาของเขาห่วงหน้าตาของตัวเอง ทำให้เขาจำใจต้องแต่งงานกับป่านทอทอง

เขาแต่งงานเพราะความจำเป็น แต่ถ้าวันใดที่เขาเจอปอแก้ว หรือปอแก้วกลับมาเอง วันนั้นจะเป็นวันที่เขากับปอแก้วกลับมาอยู่ด้วยกัน ส่วนป่านทอทองเธอก็ต้องไป เหมือนที่เธอเคยรับปากและสัญญากับเขาเอาไว้

ดีแล่นจอดรถกระบะเอาไว้ต้นไม้ใหญ่ข้างทาง แล้วเดินตรงไปหากลุ่มคนงานที่เริ่มเก็บส้ม  เขาหันไปมองทางลูกรังที่เขาเพิ่งขับรถมาเพียงเล็กน้อย แล้วหัวเราะออกมาเบาๆ

ถ้าป่านทอทองจะเดินมา ก็คงเดินขาลาก แต่ถ้าจะขับรถมอเตอร์ไซค์หรือรถกระบะที่อยู่ในโรงรถ เธอก็คงขับมาไม่ได้ เพราะเขาเอากุญแจรถมาหมดแล้ว

ที่พอจะขับได้ตอนนี้ก็คงจะเป็นรถคู่ใจของพ่อซึ่งมีสภาพเก่ามาก ถ้าคนไม่รู้ใจขับไม่ถึงไหนมันก็ดับรับรองว่าเดินจนลิ้นห้อยแน่นอน

ส่วนรถแทรกเตอร์เธอไม่มีทางขับได้ เขามั่นใจผู้หญิงบอบบางแบบนั้น คงไม่เคยขับหรือเคยทำงานลำบาก

คิดแล้วก็สะใจ เธออยู่บ้านไม่ได้แน่ถ้าไม่มาเพราะแม่ของเขาคงจะบ่น หรือพูดกระแนะกระแหนให้เธออยู่ไม่ได้ แค่นี้ก็สะใจผู้ชายอย่างเขาแล้ว

"พ่อเลี้ยงให้คนงานเอาส้มไปคัดเลยไหมครับ" ศรหัวหน้าคนงานพูดขึ้น

"อืม เอาไปคัดเลย กำชับคนงานด้วยให้ดูดีๆ ผลไหนมีตำหนิให้แยกออกไว้เลย เสร็จงานจะเลี้ยงเหล้า"

"ครับพ่อเลี้ยง"

เขาสั่งงานลูกน้อง แล้วมองทางอีกครั้ง ป่าทอนทองยังไม่มา แสดงว่าแผนของเขาสำเร็จ ป่านนี้คงร้องไห้กระซิกเดินมาขาขวิดแล้ว หรือไม่ก็หนีกลับบ้านสะใจพิลึกเลย

แต่เขาคิดผิด รถแทรกเตอร์สีเขียวคันใหญ่ขับตรงมาที่เขากับศรอยู่อย่างรวดเร็ว

"เชี่ย หลบเร็ว เดี๋ยวโดนเหยียบขี้แตก" เขาตะโกนบอกคนงาน รถแทรกเตอร์วิ่งตรงเร็วมาก จนต้องกระโดดหลบกันไปคนล่ะทิศล่ะทาง

รถแทรกเตอร์เบรกล้อลากฝุ่นตลบอบอวน ป่านทอทองลงจากรถแล้วหัวเราะอย่างชอบใจ สภาพของดีแล่นดูไม่จืดเลย เศษหญ้าติดเต็มหัวพร้อมกับฝุ่นของถนนติดเต็มหน้า

"ยัยบ้า ขับรถอะไรของเธอ ถ้าเหยียบฉันกับคนงานตายจะว่ายังไง" เขาพูดเสียงห้วนอย่างไม่พอใจ จ้องหน้าหญิงสาวอย่างโกรธจัด ตาแทบถลนออกมานอกเบ้า

"ป่านก็ตั้งใจจะเหยียบให้ตายนั่นแหละค่ะ โทษฐานที่ทิ้งป่าน ไม่ให้ป่านนั่งรถมาด้วย เป็นผัวภาษาอะไรทิ้งเมียให้เดินมา" เธอกล่าวแล้วเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยอย่างถือดี คนงานผู้หญิงเริ่มมองมาที่ดีแล่นแล้วซุบซิบพูดกันเบาๆ

"ป่านทอทอง! อย่ามาปากดีกับฉัน"

"ป่านพูดความจริงทุกอย่าง" เธอพูดแล้วเดินเลี่ยงไปหาคนงานกลุ่มผู้หญิงที่กำลังเก็บส้ม "พี่สาวจ๋า เดี๋ยวป่านช่วยนะจ๊ะ"

"นายหญิงไม่ต้องช่วยหรอกค่ะ นายหญิงไปนั่งพักตรงกระท่อมเถอะ"

"ไม่เป็นไรค่ะ ป่านอยากช่วย พี่สาวคนสวยให้ป่านช่วยนะคะ"

"ถ้านายหญิงอยากช่วยก็ได้ค่ะ" คนงานวัยกลางคนเอ่ยแล้วยิ้มให้ภรรยาเจ้านาย

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

ป่านทอทองTALK

"พี่คะหนูชื่อป่านนะคะ พี่ไม่ต้องเรียกป่านว่านายหญิงอะไรทั้งนั้น พวกพี่เรียกว่าป่านเฉยๆก็พอค่ะ" ฉันแนะนำตัวกับพี่ๆคนงาน ผู้หญิงไม่ชอบให้คนเรียกป้าสักเท่าไหร่หรอก ถึงทุกคนจะอายุเยอะกว่าฉันมาก แต่ผู้หญิงก็ชอบให้เรียกพี่มากกว่า

"จะดีหรือคะ?" พี่ผู้หญิงที่ดูอายุมากสุดเอ่ยพร้อมทำหน้าหนักใจ ส่วนฉันต้องหาพวกไว้ก่อนแหละ ดีกว่าอยู่หัวเดียวกระเทียมลีบ

"ดีที่สุดค่ะ เรียกว่าป่านก็พอ ป่านน่าจะอายุน้อยที่สุด ป่านจะเรียกพวกพี่ว่าพี่นะคะ แล้วพวกพี่ชื่ออะไรกันบ้างล่ะคะ" ฉันว่าแล้วใช้กรรไกรตัดกิ่งส้ม ส้มเขียวหวานควรเก็บเกี่ยวหลังจากดอกบานประมาณ 8-9 เดือน

การเก็บเกี่ยวผลส้มควรใช้กรรไกรตัดที่ขั้วผลทีละผล อย่าใช้แรงดึง เพราะอาจทำให้ขั้วหลุดและเกิดเป็นแผลที่ผล ซึ่งเป็นจุดที่เชื้อโรคสามารถเข้าทำลายได้ง่าย ทำให้ผลเน่าเสียระหว่างเก็บรักษาได้

ที่บ้านฉันส่วนมากจะมีแต่องุ่น มีปลูกส้มบ้างแต่ไม่ได้ปลูกเยอะเท่าที่นี่

"พี่ชื่อพี่พร คนนั้นชื่อพี่มน พี่หวาน พี่ปลา พี่ส้ม พี่ด้าจ๊ะ"

"ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ" ฉันยิ้มให้ทุกคนอย่างเป็นมิตร ทุกคนดูชอบฉันเช่นกัน ส่วนคนน่ายักษ์ลูบคางตัวเองไปมา เหมือนกำลังครุ่นคิดหาวิธีแกล้งฉัน ตอนนี้ฉันมีพวกแล้ว ฉันคิดว่าเขาคงจะแกล้งฉันลำบากหน่อย

"ป่าน มายกลังส้มขึ้นรถหน่อย" ฉันว่าแล้วเขาต้องแกล้งฉัน พี่พรหันไปมองตาเขียวทันที

"ได้ค่ะ" ฉันแสร้งตีหน้าเศร้า พี่พรเห็นหน้าก็รีบพูดขึ้น

"ผู้ชายตั้งเยอะแยะให้ผู้ชายยกไป นายหญิงเป็นผู้หญิงยกหนักแบบนั้น กีหลุดกันพอดี ผู้ชายมีเอาไว้ทำกระปิขี้เกลืออะไรคะพ่อเลี้ยง ถ้ามันไม่มีคนยกพ่อเลี้ยงก็ยกขึ้นเองสิ ยืนสั่งอยู่ได้" พี่พรพูดเสียงดังอย่างไม่เกรงกลัว

"ฉันไม่ได้ใช้ป้านะป้าพร"

"ก็รู้ว่าไม่ได้ใช้ป้า แต่ป้าไม่ให้นายหญิงยก ถ้ายังไม่หยุดใช้ป้าจะฟ้องคุณชนะพล" คำพูดของพี่พรทำเอาพี่ดีแล่นเดินหน้าง้ำไปดูคนงานอีกฝั่งทันที

"พี่พรไม่กลัวพี่ดีแล่นไล่ออกเหรอคะ?" ฉันกระซิบคุยกับกลุ่มพี่ๆเบาๆ

"ไม่กล้าไล่ออกหรอก พี่พรเป็นญาติฝ่ายพ่อของนายหัวดีแล่น ถ้านายหัวชนะพลรู้ว่านายหัวดีแล่นไล่พี่พรออก นายหัวนั่นแหละที่จะโดนบ่นเสียเอง" พี่มนพูดขึ้น

"ขอบคุณทุกคนนะคะที่ปกป้องป่าน"

"อะไรที่ไม่ถูกต้องคุณป่านไม่ต้องกังวล พวกเราทุกคนจะปกป้องคุณป่านเอง" พี่หวานเอ่ย

"ขอบคุณค่ะ" ฉันยิ้มให้ทุกคนแล้วเก็บส้มต่อ เรามีเรื่องคุยกันเยอะมาก ในกลุ่มมีเรื่องเม้าท์มอยเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะ การทำงานวันแรกไม่ได้แย่เลยค่ะ ทุกคนน่ารักเป็นกันเองมาก

พอถึงกลางวันเราก็ไปทานอาหาร ฉันไม่ได้ห่อข้าวมากิน แต่ดีหน่อยที่พี่ดีแล่นซื้อข้าวกล่องมาให้ฉันด้วย ถ้าไม่ซื้อคงกลัวพี่พรบ่น

"วันนี้เตรียมครกสากเครื่องปรุงมะละกอมาตำส้มตำ ใครฝีมือดีช่วยตำให้ทานด้วย ฉันตำไม่ได้เรื่อง"

"เดี๋ยวป่านตำให้ทานเองค่ะ รับรองรสแซ่บสะท้านทรวงแน่นอน"

"จัดมาเลย พี่ปลาจะสับมะละกอเอง"

"ค่ะ" ฉันจัดแจงตำส้มตำรสเด็ด รับรองว่าการตำส้มตำให้ทานครั้งนี้ ทุกคนต้องอยากกินฝีมือฉันไปอีกนาน

ฉันขยันจะตำให้ทานทุกวันเลย...

++++++++++++++++

กดไลค์คอมเม้นให้ไรท์ด้วยนะคะ รัก❤️🙏🙏🙏🙏

บทก่อนหน้า
บทถัดไป