บทที่ 9 ทนไม่ได้

บทที่9

พอได้เงินพวกเขาก็มีดื่มกับบ้าง ฉันลุกขึ้นแล้วสะบัดมือตีกับเสื้อผ้าเพื่อปัดฝุ่น ฉันทำมันเบาๆ เพื่อให้ฝุ่นสีแดงที่ติดเสื้อฟุ้งกระจาย

"พรุ่งนี้เราทำอะไรกันดี"

"พ่อเลี้ยงให้หยุดหนึ่งวัน" พี่หวานพูด

"แล้วคุณป่านจะกลับแล้วเหรอคะ?"

"ค่ะ ป่านต้องรีบกลับไปเคลียร์อะไรหลายๆอย่างที่บ้าน ไม่รู้ว่าพี่ๆแม่บ้านทำอะไรก็เรียบร้อยหรือเปล่า" ฉันพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง

"มีแม่บ้านทำไมคุณป่านต้องทำอาหารเอง"

"ป่านอยากทำให้ทุกคนได้ทาน มันเป็นความสุขเพียงสิ่งเดียวที่ป่านทำได้"

"เหนื่อยงานก็เหนื่อยแล้ว ยังมีพวกงานบ้านให้หงุดหงิดอีก สำหรับพี่พรคนนี้ทำงานได้ทุกอย่างยกเว้นงานบ้าน พี่พรเกลียดการล้างจาน" พี่พรหัวเราะเบาๆ มันก็จริงการล้างจานไม่มีคนชอบหรอก แต่ก็ต้องทำ

"ที่จริงป่านก็ไม่ชอบค่ะพี่พร"

"นั่นไง การล้างจานมีนคือสิ่งไม่ชอบ คุณป่านนั่งสักห้านาทีคุยกันก่อนค่อยไป" พี่พรดึงแขน ฉันหัวเราะนั่งลงข้างๆพี่พร ส่วนพี่หวานรินเหล้าให้

"เอาสักหน่อยพอร้อนคอ"

"ไม่ดีกว่าค่ะพี่ เดี๋ยวพ่อแม่สามีมองป่านไม่ดี"

"กินก็ว่าไม่กินก็ว่า กินไปเหอะยังไงก็โดนอยู่ดี ถ้าพูดมากก็ซัดหน้าหงายเลย" พี่พรกระซิบแล้วหัวเราะคิกคัก ฉันก็เลยรับมาแล้วดื่มมันลงคอ

คนหน้ายักษ์มองฉันตลอด เขาดื่มกับพวกคนงานพูดคุยอย่างกันเอง พอพูดคุยเสร็จฉันก็ขอตัวกลับ ฉันจะไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวไปตลาดนัดวันนี้

มอเตอร์ไซค์คันที่ฉันขับมาเมื่อเช้าถูกสตาร์ท ฉันขับมันออกมาวันนี้ฉันไม่ขับเร็ว ขับช้าๆไปเรื่อยๆ

ฉันรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วแหละ แต่ฝืนทำงานเพราะต้องการเก็บส้มสวนสุดท้ายให้แล้วเสร็จ ฉันใช้มือลูบที่กระเป๋าเสื้อเบาๆ ในนี้มีซองเงินที่เป็นเงินเดือนเดือนแรกของฉันอย่างสุขใจ

วันนี้จะเป็นวันที่ฉันได้เลือกซื้อของที่เป็นของตัวเอง ของที่ฉันชอบไม่ใช่ของตกทอดจากคนอื่น หรือของเหลือเดนของใคร

พอมาถึงที่บ้านแม่ดาราก็นั่งอยู่ที่ห้องรับแขก ฉันก้มหน้าเดินเลี่ยงไปอีกทาง พ่อชนะพลนั่งแกะสว่านคงกำลังซ่อมเครื่องมือ กดเปิดปิดเสียงดังลั่น

"กลิ่นเหล้าขนาดไปดื่มกับพวกคนงานใช่ไหม?!" น้ำเสียงห้วนเอ่ยขึ้น แม่ดารามองฉันอย่างไม่พอใจแล้วเดินตรงมาหา

"ค่ะ" ฉันพยักหน้า

"เธอควรจะทำตัวให้ดีกว่านี้ป่านทอทอง"

"ป่านพยายามทำอยู่ค่ะ แต่ดูเหมือนทุกคนจะไม่เห็นสิ่งที่ป่านทำ"

"มั่นใจเหรอว่าเธอทำดี เมื่อเช้าเธอก็ขับรถแบคโฮไล่ทำร้ายหนูไพคากับลูกชายฉัน เธอเป็นบ้าอะไรป่านทอทอง!" ท่านเริ่มขึ้นเสียงดังขึ้น ที่จริงท่านไม่ได้สนใจเรื่องที่ฉันกินเหล้าเท่าไหร่หรอก แต่ท่านต้องการเปิดประเด็นเพื่อทะเลาะแล้วพูดเรื่องที่ฉันขับรถแบคโฮ ทำร้ายพี่ดีแล่นกับไพคา

"ป่านไม่ได้บ้าค่ะ"

"ถ้าลูกชายฉันตายจะว่ายังไง เธอมีปัญญารับผิดชอบไหม? ทำอะไรไม่รู้จักคิด ในหัวของเธอมีความคิดบ้างไหม"

"ถ้าป่านต้องการให้สองคนนั่นตาย พวกเขาคงไม่ได้อยู่พ่นคำพูดร้ายๆใส่ป่านอยู่แบบนี้หรอก ป่านไม่ชอบให้สองคนนั้นกอดจูบกัน เพราะเขาเป็นแฟนพี่สาวป่าน เป็นสามีที่ถูกต้องของป่าน ป่านมีสิทธิ์ไม่พอใจ"

"เธอมีสิทธิ์เหรอ? ฉันอยากจะหัวเราะ ปอแก้วกลับมาเธอก็ต้องระเห็จออกจากที่นี่แล้ว เธอมันก็แค่เงาไร้ตัวตน เป็นเพียงเงาของพี่สาวเธอ" ท่านพ่นคำพูดร้ายกาจออกมาไม่หยุด พี่ดีแล่นขับรถมาถึงแล้วเดินเข้ามาที่ประตู

"ป่านรู้ค่ะ ป่านรู้ดีว่าถ้าพี่ปอกลับมาป่านก็ต้องไปอยู่ที่อื่น งั้นก็ช่วยเอาลูกสะใภ้ที่แม่ดารารักกลับมาเร็วๆด้วยค่ะ ป่านจะได้ไปสักที"

"ที่จริงเธอไปเลยก็ได้นะ ฉันจะบอกคนอื่นๆว่าเมียลูกชายฉันไปทำงานที่อื่น เธอไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น ที่แต่งก็เพราะแต่งเอาหน้าเอาตา  แต่งเพื่อให้คนทั่วไปไม่ต้องนินทาครอบครัวฉัน ดีหน่อยที่คนแถวนี้ไม่รู้ว่าพี่สาวเธอมีฝาแฝด ไม่งั้นฉันคงโดนนินทา ที่พี่สาวเธอหายจากงานแต่ง อยากไปใช่ไหมไปเลยสิ!" คำพูดของท่านทำเอาฉันชาไปทั้งร่าง

"ได้ค่ะ ป่านจะไป!" ฉันพูดอย่างหมดความอดทน ฉันรู้ว่าตัวเองผิดที่ทำเรื่องร้ายแรงเมื่อเช้า ฉันขาดสติจริงๆเพราะฉันโมโห

"แต่พ่อไม่ให้ไป ป่านเป็นลูกสะใภ้พ่อ ใครนับหนูปอแก้วเป็นลูกสะใภ้ก็นับไป พ่อไม่นับคนหนีงานแต่ง พ่อนับคนที่จดทะเบียนถูกต้องกับลูกชายพ่อเท่านั้น!" พ่อชนะพลพูดขึ้นแล้ววางสว่านที่กำลังซ่อมใส่กล่องเสียงดัง ส่วนแม่ดารามองฉันอย่างเกลียดชัง ท่านเกลียดเพราะฟังสิ่งที่แม่ฉันพูดหลายๆอย่าง

แม่ฉันชอบพูดว่าฉันไม่ดีหลายอย่าง ลิ้นไม่มีกระดูกพูดให้เกลียดฟังมากๆก็เกลียดตาม ถ้าคนๆนั้นไม่รู้จักเราดีพอ

แม่ฉันชอบเอาฉันไปเปรียบกับพี่ปอเสมอ ซึ่งฉันไม่เคยสู้ได้

"คุณไม่ต้องเข้าข้างป่านทอทองคุณชนะพล"

"คุณน่ะใจบอดคุณดารา ใจบอดเหมือนลูกชายคุณ มองไม่เห็นว่าอันไหนกรวดอันไหนเพชร วันไหนที่คุณตาสว่างคุณจะรู้ว่าสิ่งที่คุณคิดว่าดีมันไม่ใช่"

"คุณไม่ต้องพูด ฉันมั่นใจว่าหนูปอดีกว่าเด็กนี่"

"ถ้าดีคงไม่ทำให้คุณต้องมานั่งปวดหัวอยู่แบบนี้หรอก สะใภ้คนโปรดดีสุดหนีงานแต่ง จนงานแต่งแทบล่ม ดีนะที่หนูป่านแต่งแทนไม่งั้นคงอายทั้งอำเภอ"

"คุณปริมบอกว่าที่ปอแก้วไปเพราะความจำเป็น"

"หึ!" พ่อชนะพลแค่นหัวเราะ "แล้วคุณก็เชื่อเหรอ?"

"ป่านจะไปจากที่นี่ จะได้จบปัญหา" ฉันพูดอย่างถือดี ส่วนพี่ดีแล่นยืนนิ่งเป็นตอไม้มองทุกคนทะเลาะกัน ฝนตกปรอยๆพร้อมกับเสียงฟ้าร้องเป็นระยะ ลมเริ่มกรรโชกรุนแรง

"ฉันล่ะเกลียดผู้หญิงแบบเธอจริงๆ ไม่แปลกที่พ่อแม่เธอไม่รัก ไม่แปลกที่เธอไม่ดีเท่าพี่สาว เพราะเธอมันนิสัยไม่ดีแบบนี้นี่เอง"

"ค่ะ ป่านมันไม่ดี! แม่ดาราไม่ต้องรักป่านหรอก ตลอดชีวิตป่านไม่มีคนรักอยู่แล้ว" ฉันพูดแล้วเดินออกไปที่โรงรถ

"เธอจะไปไหน?!" พี่ดีแล่นออกมาจากบ้านแล้วถามฉัน

"ไปจากที่นี่ไง ต่อไปนี้สบายใจได้แล้วค่ะ ไม่มีป่านคงดี" ฉันกระแทกเสียง

"แต่ฝนมันจะตกแล้ว" ฟ้ามืดทะมึนปกคลุมมืดครึ้มจนดูน่ากลัว

"ตกก็ช่างแม่ง"  ฉันพูดแล้วสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว น้ำตาฉันไหลออกมาทันทีที่ออกมาพ้นรั้วบ้านหลังนั้น  ความเข้มแข็งที่ฉันสร้างถูกกัดกร่อนด้วยความอ่อนแอ น้ำตาไหลพรากแข่งกับฝนที่ตกลงมาราวกับกำลังร้องไห้ไปกับฉัน

อย่างน้อยฉันก็มีฝนที่ร้องไห้อยู่เคียงข้างกัน ในวันที่ฉันไม่เหลือใคร

++++++++++++++++++

กดไลค์คอมเม้นให้ไรท์ด้วยนะคะ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป