บทที่ 3 EP.3 ต้องรับผิดชอบ

EP. 3 ต้องรับผิดชอบ

ไลลาหลุดเสียงสบถเบา ๆ ในลำคอ ขณะที่หางตาหันไปมองลียาที่เอาแต่นั่งนิ่งน้ำตาท่วมใบหน้า

"อย่าร้อง ห้ามร้องเข้าใจไหม" เธอหันไปบอกน้องสาวด้วยน้ำเสียงดุจัด แม้ตัวเองจะตัวแข็งและกลัวไม่แพ้กัน

"พี่~ พวกเขาจะทำอะไรเรา" ลียาน้ำตาไหลพราก หน้าซีดด้วยความตื่นกลัว ตั้งแต่เกิดมาจากท้องแม่ยังไม่เคยเจออะไรน่ากลัวขนาดนี้มาก่อน

"เงียบ! ลียา ห้ามแสดงความกลัว ห้าม!"

แต่คำพูดนั้น...ก็ดูเหมือนจะใช้หลอกตัวเองมากกว่าปลอบน้อง

ไลลาหันซ้ายแลขวาหาอะไรสักอย่างที่จะใช้ป้องกันตัว รองเท้าส้นสูง กระเป๋าแบรนด์เนม บัตรนักศึกษา ไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์เลย...แต่แล้วสายตาก็สะดุดกับมือถือที่วางอยู่ตรงคอนโซล

"ผู้ติดตามฉันเกือบสองล้าน เอาซิ" เธอหยิบมือถือขึ้นมา เปิดโหมดไลฟ์สดทันที

"ใครก็ได้ที่ดูอยู่ ตอนนี้ฉันอยู่หน้าโชว์รูม KTC Auto มีผู้ชายชุดดำประมาณสิบกว่าคน กำลังล้อมรถฉันไว้ ถ้าฉันเป็นอะไรไป..."

ปึ้ง ๆ ๆ เสียงเคาะกระจกฝั่งคนขับดังขึ้น ไลลาค่อย ๆ เงยหน้ามองผ่านกระจกบานใส ก่อนจะพบว่ามีหนึ่งในชายชุดดำยืนจ้องเธออยู่

"ลียา อยู่บนรถห้ามลงไปเด็ดขาด" สั่งน้องสาวเรียบร้อยเธอก็กลืนน้ำลายลงคอเพื่อตั้งหลัก มือเรียวเล็กข้างถนัดค่อย ๆ เปิดประตูลงจากรถพร้อมกับมือถือในมืออีกข้างที่ยังยกขึ้นไว้ในระดับอก

"หยุดอยู่ตรงนั้น" ชายหนุ่มคนนั้นพูดขึ้นเสียงเข้ม พร้อมยกมือขึ้นให้ลูกน้องรอบ ๆ ถอยห่างออก

"จะคุยก็เรียกประกันมาสิ" ไลลาจ้องตาเขา พยายามแสดงความมั่นใจ ทั้งที่ขาสั่นจนแทบยืนไม่อยู่

"ค้นให้ทั่ว" เขาออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สายตากวาดมองเธอจากหัวจรดเท้าอย่างประเมิน

"อะไรกัน นี่มันอุบัติเหตุนะ จะมาค้นรถฉันได้ยังไง นี่พวกนาย ถ้ายังไม่หยุดฉันมีสิทธิ์ฟ้องได้นะ หยุดเดี่ยวนี้!" ไลลาแหวกเสียงดังลั่นเท่าที่เธอจะทำได้ แต่ก็ดูเหมือนอีกฝ่ายจะหูตึงจนไม่ได้ยินคำพูดพวกนั้น

"ไม่พบความผิดปกติครับ" หนึ่งในชายชุดดำเดินเข้ามารายงานคนตรงหน้าเธอ เขาพยักหน้าสองครั้ง ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้ตัวเธอ ไลลารีบถอยหนึ่งก้าวตามสัญชาตญาณ ในมือยังคงถือโทรศัพท์ไว้แน่น

"ถอดแมส" เขาสั่งเสียงนิ่ง

"อะไรนะ?"

"แมสปิดหน้า ถอดซะ"

"ไม่!" ไลลาขมวดคิ้ว

ไม่ถึงหนึ่งวินาที อีกฝ่ายก็ปัดมือถือของเธอทิ้งอย่างง่ายดาย รองเท้าหนังสีดำเงาเหยียบซ้ำจนมันแหลกเหลือแต่ซาก

"เห้ย!! มือถือฉัน" ไลลาถลึงตาโกรธจัด ตอนนี้อารมณ์ของเธอเริ่มเดือดปุดจนแทบไม่สนชุดดำชุดขาว

"ถอดแมสซะ ก่อนที่ฉันจะสั่งคนมาถอดให้" แต่น้ำเสียงเย็นเฉียบ กลับทำเอาไลลาขนลุกวูบจนลืมคำด่าในหัว เขาไม่ได้ตะโกน ไม่ได้ขู่ แต่แววตาแบบนั้นทำให้ใจเธอหล่นวูบไปอยู่ตาตุ่ม

"ไอ้เผด็จการ" ไลลาพึมพำ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกแล้วค่อย ๆ ดึงแมสออกอย่างไม่มีทางเลือกอื่น

ทันทีที่ใบหน้าของเธอปรากฏ ชายหนุ่มคนนั้นกะพริบตาช้า ๆ ริมฝีปากหยักยกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปที่รถตู้สีดำเงาคันที่จอดอยู่ด้านหลัง

"บอสครับ" เขาวิ่งไปเปิดประตูรถ หย่อนตัวเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว

"ว่าไง" น้ำเสียงเรียบนิ่งดังขึ้นจากเบาะหลัง สายตายังคงไม่ละจากหน้าจอมือถือที่โชว์ประวัติส่วนตัวของใครบางคน

"เป็นผู้หญิงครับ ใส่แมสตอนแรกเลยไม่มั่นใจ...แต่ตอนนี้ชัดเจนแล้วครับ"

"ใคร?"

"คุณหนูไลลาครับ"

"....." เทลวินกดปิดหน้าจอทันทีที่รู้ว่าคนที่เขากำลังดูประวัติอยู่นั้น ตอนนี้มายืนอยู่แค่ฝ่ามือกั้น ดวงตาคมเข้มเงยขึ้นมามองหน้ามือขวาอย่างอดีน

"ขอโทษครับ บอสคจะงจำเธอไม่ได้ คุณหนูไลลาก็คือคนที่ด่าบอสเมื่อคืนว่า ไอ้เหี้ยเทลวิน ไงครับ จำได้รึยัง?"

เทลวินลอบถอนหายใจหนัก ๆ หากไอ้อดีนมันไม่ใช่คนที่คอยรับใช้กันมาอย่างรู้ใจ ป่านนี้มันคงโดนกระสุนอุดปากไปแล้ว

เทลวินเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนคำสั่งสั้น ๆ หลุดจากปากเจ้าของเสียง

"พายัยนั่นขึ้นรถ"

คำสั่งจากนายเหนือหัวดังชัดเจนจนบอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบขยับตัวทันที

ฮิม มือซ้ายคนสนิทซึ่งยังยืนอยู่ด้านข้างรถ เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย สีหน้าไม่มั่นใจ ก่อนจะก้าวมาใกล้ประตู เขาชะโงกหน้าเข้าไปมองเจ้านายของตัวเองผ่านกระจกสีชา

"แต่คุณเทลครับ...เรากำลังจะไปท่าเรือ แล้วนี่ก็..."

"ฉันสั่ง" น้ำเสียงราบเรียบ ตัดบทสั้น ๆ ไม่มีแม้แต่การหันมามองหน้า

ฮิมเม้มปากแน่น ค้อมศีรษะเล็กน้อยเป็นการรับคำ เขาไม่มีสิทธิ์พูดมาก เพราะคำสั่งของเทลวิน ไม่มีพื้นที่ให้ต่อรองตั้งแต่แรก

"ครับ"

ฮิมพยักหน้า ลูกน้องชุดดำสองคนก็รีบเดินตรงไปยังหญิงสาวหน้ารถที่ยังคงอาละวาดเสียงดังลั่นถนนทันที

"เดี๋ยว! พวกคุณจะทำอะไร! อย่าแม้แต่จะคิดแตะตัวฉันนะ!" ไลลาถอยหนึ่งก้าว มือข้างหนึ่งยกขึ้นกั้นตัวเองไว้อย่างเอาเรื่อง

"คุณครับ เราขอความร่วมมือด้วยครับ ขึ้นรถไปดี ๆ เราไม่อยากต้องใช้กำลัง"

"ฉันไม่ไปกับใครทั้งนั้น! ฉันจะฟ้อง! จะเรียกตำรวจ! แล้วไลฟ์ฉันเมื่อกี้มีคนดูเยอะด้วยนะ..."

"ลากขึ้นรถ" อดีนที่ยืนรออยู่ห่าง ๆ ออกคำสั่งเสียงนิ่ง ดับความหวังไลลาอย่างเลือดเย็น

"อย่าเข้ามานะ...ไอ้....ว้าย!!" แต่ยังไม่ทันได้สบถจบ บอดี้การ์ดคนหนึ่งพยักหน้าให้เพื่อน ก่อนทั้งคู่ขยับเข้ามาคนละข้างอย่างเร็ว

"หยุดนะ! อย่ามาจับ! ปล่อย! ไอ้พวกบ้า ปล่อยฉันนะ! ฉันเป็นลูกสาวรัฐมนตรีนะเว้ย!" เสียงเธอเริ่มดังลั่นขณะถูกล็อกแขนทั้งสองข้างไว้กลางอากาศ

กระเป๋าราคาแพงหลุดจากมือ รองเท้าปลิวหลุดไปคนละทาง ทางด้านลียาที่อยู่ในรถ พอเห็นพี่สาวโดนลากขึ้นรถก็ยิ่งกลัวจนตัวสั่นกว่าเก่า น้ำตาไหลพรากจนเป็นลมไปในที่สุด

และไม่กี่วินาทีต่อมา บานประตูของรถตู้คันใหญ่ก็เปิดออก หญิงสาวร่างบางถูกอุ้มขึ้นไปพร้อมแรงดิ้นและคำด่าที่ยิ่งพ่นก็ยิ่งไร้ผล

ภายในรถเงียบกริบ ข้างกายของเธอคือชายหนุ่มร่างสูงนั่งไขว่ห้างอยู่เบาะในสุด ใบหน้าคมเข้ม สไตล์ลูกครึ่งไทยอิตาลี ผิวขาวจัดแบบคนต่างชาติ ตาสีเข้มเฉียบคมตวัดมองมาที่เธอ

"นี่คุณ!!"

"ดีใจที่ได้พบกันอีกครั้งนะครับ" เทลวินนั่งพิงเบาะ สบาย ๆ ใช้ปลายนิ้วเคาะกระจกเล่นเบา ๆ ขณะมองไลลาที่กำลังมองซ้ายมองขวาเหมือนแมวป่าถูกจับ

"นี่พวกคุณกำลังลักพาตัวฉันอยู่นะ ทำแบบนี้มันผิดกฎหมายนะ ฉันจะแจ้งความ" รถคันหรูเริ่มเคลื่อนตัวออกไปช้า ๆ ไลลาแทบนั่งไม่ติดเบาะ แต่พอกวาดสายตามองไปทั่วทั้งรถความกลัวก็พลันแล่นเข้ามาจุกอก

"เธอขับรถเฉี่ยวรถของพวกเรา เธอต้องรับผิดชอบ" ดวงตาสีเทาเข้มเหลือบมองเธอเพียงแวบเดียว แล้วเบนสายตาออกนอกหน้าต่างอย่างไม่ใส่ใจ

"ก็เรียกประกันสิ จะจับฉันมาด้วยทำไม?"

"ฉันไม่ได้มีเวลารอใครขนาดนั้น"

"แล้วไง ก็เลยพาฉันมาด้วยเนี่ยนะ อ้อ..นี่คงกลัวฉันหนีใช่มั้ย คุณคงไม่รู้สินะว่าฉันเป็นใคร?"

"หุบปาก น่ารำคาญ" เขาสั่งเสียงนิ่งแต่เต็มไปด้วยอำนาจ จังหวะนั้นไลลาสังเกตุเห็นว่าทุกคนในรถต่างก็ก้มหน้าลง ก็คงจะกลัวเจ้านายกันตามประสาลูกน้องรับเงินเดือน แต่เธอไม่ใช่ลูกน้องของเขา...

"รำคาญก็ปล่อยฉันลงสิ จะพาฉันมาด้วยทำไม"

"หูตึงรึไง ฉันบอกให้ปล่อยฉันไง ส่วนค่าเสียหายคุณส่งบิลไปที่บ้านฉันได้เลย ฉันชื่อไลลา อลิษาเวศ" ไลลาพยายามประนีประนอมอย่างที่ไม่เคยยอมลงให้ใครมาก่อน

"คุณ? เงียบทำไมล่ะ ตกลงจะเอาไง?"

เทลวินยกยิ้มมุมปาก พลางใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม ในขณะที่สายตากำลังจ้องมองใบหน้าของไลลานิ่ง

"ฉันจะทำให้เธอพูดน้อยลงเอง ไม่ต้องห่วง" พูดจบเขาก็เบือนหน้าหนี ทิ้งไลลานั่งหน้าเหวออยู่อย่างไม่เข้าใจ ก่อนเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

"เอาเทปปิดปากเธอซะ"

บทก่อนหน้า
บทถัดไป