บทที่ 6 EP.6 เหตุผลที่ยังต้องเก็บเธอไว้
EP.6 เหตุผลที่ยังต้องเก็บเธอไว้
เสียงลมจากเครื่องปรับอากาศในรถหรูดังเบา ๆ แข่งกับเสียงครางต่ำในลำคอของเทลวินขณะที่ฮิมใช้แอลกอฮอล์เช็ดแผล
"ใกล้เสร็จแล้วครับบอส อดทนอีกนิดเดียว"
เทลวินนั่งนิ่งท่ามกลางความเจ็บ เขายังควบคุมสีหน้าได้ดี มือข้างหนึ่งกำแน่นกับเบาะ ส่วนอีกข้างวางพาดบนเข่าของตัวเอง
ไลลานั่งเบียดชิดอยู่ริมเบาะด้านในสุด ไม่ใช่เพราะกลัวจะโดนทำอะไร...แต่ภาพที่อยู่ตรงหน้า ทำเอาเธอพูดอะไรไม่ออก
"นี่พวกคุณจะเย็บแผลกันสด ๆ ตรงนี้เลยเหรอ ทำไมไม่ไปโรงพยาบาล?" เธอถามเสียงสั่นน้อย ๆ เมื่อเห็นเขาเลิกเสื้อเชิ้ตสีดำออกจากตัวช้า ๆ
กล้ามหน้าท้องชัดเป็นมัด ๆ ผิวขาวจัดแบบลูกครึ่งตัดกับรอยเลือดที่ยังไหลซึม รอยสักเส้นคมแนบอยู่ที่สีข้าง รูปอะไรเธอก็ไม่กล้าจ้องขนาดนั้น แต่ใต้ภาพมีคำภาษาละตินที่เธออ่านไม่ออก และมันก็ทำให้เขาดูอันตรายกว่าที่เคยเห็นมา
นอกจากเสียงสะกดกลั้นความเจ็บปวด ก็ไม่มีใครพูดอะไร ไลลาได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ หัวใจเต้นแรงไม่ใช่เพราะเขาหล่อ แต่เพราะเธอไม่เข้าใจว่าเธอกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน และกับคนประเภทไหนกันแน่
"เสร็จแล้วครับ" เสียงฮิมพูดขณะเก็บอุปกรณ์ทำแผลลงกล่อง ก่อนจะหันมาสบสายตากับเจ้านายอย่างสื่อความหมาย
"บอสครับ..." ฮิมเอ่ยเสียงเบาในรถ ก่อนเทลวินจะแทรกขึ้น
"ฉันจะจัดการเอง"
รถแล่นไปเรื่อย ๆ ผ่านความมืดและความเงียบ จนถึงทางแยกริมเขาลูกหนึ่ง ด้านล่างคือทะเลลึก เส้นทางเบื้องหน้าจะแตกออกเป็นสองฝั่ง ทางหนึ่งมุ่งกลับเข้าเมือง อีกทางคือเส้นลับที่ไม่มีใครใช้
"หยุดรถ" เสียงเครื่องยนต์ดับลงกะทันหัน พร้อมคำสั่งสั้น ๆ จากคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง
ประตูรถเปิดออก ก่อนเทลวินจะเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งของไลลา และบังคับให้เธอลงโดยไม่ต้องใช้คำพูดใด
ลมทะเลบนเนินสูง พัดสะบัดผมเธอจนยุ่งเหยิง ไลลารู้สึกเหมือนกำลังอยู่กลางฉากหนังมาเฟียที่ไม่มีบทให้เธอเล่น แต่เธอก็พยายามตั้งตัวให้มั่น สมองที่ผ่านการคิดทบทวนเริ่มประมวลผลเพื่อการเอาตัวรอด
"เธอเห็นอะไรในโกดังบ้าง" เทลวินยืนหันหลังให้ทะเล สายตาเยือกเย็นราวกับพายุ
"เห็นคนถือปืน แล้วก็พูดภาษาที่ฉันไม่เข้าใจ" คนตัวเล็กสูดลมหายใจยาว ๆ เข้าปอด เธอกัดฟันแน่นลุ้นไปกับประโยคที่จะหลุดออกมาจากปากคนตรงหน้า
เทลวินจ้องหน้าเธอนิ่ง เขาไม่ใช่คนโง่ เขารู้ว่าเธอรู้อะไรบางอย่างมากกว่านั้น
"อย่าเล่นลิ้น"
"แล้วคุณคิดว่าฉันควรพูดยังไงดีล่ะ? ให้ฉันพูดว่า...ใช่ค่ะ ฉันแอบฟังอยู่หลังลังไม้ ฟังทุกคำที่พวกคุณพูด แล้วคิดจะเอาไปแบล็กเมล?"
สิ้นคำพูดนั้น ลมจากทะเลก็พัดวูบเข้ามาแรงจนผมยาวของไลลาปลิวไหว มือหนาของเทลวินกระชากเข้าหาเธอในเสี้ยววินาที นิ้วทั้งห้าบีบรอบลำคอขาวนวลแน่นหนา
"อ๊ะ!" ไลลาสะอึก หายใจไม่ออกทันที หัวใจเธอเต้นแรงจนหูอื้อ ดวงตาพร่าเบลอ น้ำตาซึมด้วยแรงกดที่หลอดลม แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังพยายามไม่ยกมือขึ้นคว้ามือเขา เพราะรู้ว่ามันหมายการแสดงความยอมแพ้
"ฉันถามอะไรเธอ แค่ตอบก็จบ..." เสียงเทลวินกดต่ำ ดวงตาของเขาเย็นชาราวกับไม่มีความเป็นมนุษย์หลงเหลือ
"คนอย่างเธอ มันน่าจะถูกโยนลงทะเลตอนนี้ด้วยซ้ำ" เสียงเขาเย็นยะเยือก ความกรุ่นเกรี้ยวแผ่ซ่านไปถึงสันหลัง
ไลลาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ และสิ่งที่เธอทำได้ตอนนี้ก็คือการจ้องกลับด้วยสายตาที่ไม่ยอมแพ้ ทั้งที่ภาพรอบข้างเริ่มหมุนและลมหายใจกำลังหลุดลอย
แววตาที่ไม่สั่นไหว ไม่ใช่แววตาของการอ้อนวอน แต่มันคือแววตาของผู้หญิงที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง ซึ่งมันเต็มไปด้วยความท้ายทาย และอาฆาตแค้น
เทลวินชะงัก! แรงที่มือเขาค่อย ๆ ผ่อนคลายนิ้วออกจากลำคอของเธออย่างช้า ๆ ราวกับไม่เต็มใจ
ไลลาถูกปล่อยเป็นอิสระ เธอไอแรง ๆ ถี่ ๆ ก่อนจะยืดคอขึ้นใหม่ แววตาที่มองจ้องหน้าเขายังคงแน่วนิ่ง
"พาเธอขึ้นรถ" คำสั่งนั้นแม้ไลลาเลือกที่จะกระโดดลงไปข้างล่าง แต่เธอก็คงไม่สามารถทำได้ เพราะลูกน้องของเทลวินที่เข้ามายืนคุมตัวเธอในตอนนี้
"เราควรจะฆ่าเธอ…ก่อนที่เธอจะฆ่าเรา" เสียงของฮิมดังขึ้นจากด้านหลัง
"เธอกล้ากว่าที่ฉันคิด…และฉันไม่เคยฆ่าใครที่กล้าจ้องหน้าฉันแบบนั้นได้โดยไม่กระพริบตา"
"ผมจัดการได้นายก็รู้"
"ช้าก่อนฮิม ฉันมีหลายเหตุผลซึ่งฉันไม่จำเป็นต้องอธิบายให้นายฟังก็ได้ แต่เพราะฉัน เชื่อใจนาย" เทลวินเน้นคำว่าเชื่อใจชัด ๆ เพราะรู้จักนิสัยตรงไปตรงมาของมือซ้ายคนสนิทดีกว่าใคร ต่อให้เขาไม่สั่งแต่ถ้าอีกฝ่ายเป็นภัยฮิมก็พร้อมขัดคำสั่ง
"เธอช่วยชีวิตฉันไว้ และฉันจะไม่ฆ่าคนที่ช่วยฉัน ต่อให้เธอเป็นปัญหาก็ตาม" เหตุผลที่ฟังดูไม่ค่อยจะเข้าหูมือซ้ายคนสนิทนัก ทำเอาฮิมส่ายหัวเล็กน้อย
"พ่อของไลลามีอำนาจมาก การทำร้ายลูกสาวรัฐมนตรีคือการก่อสงครามกับฝั่งการเมือง ฉะนั้นการฆ่าเธอ เท่ากับยิงกระสุนนัดแรกใส่รัฐบาล…นายคิดว่าฉันอยากเริ่มสงครามตอนนี้เหรอ?" ฮิมนิ่งไป แววตาส่อแววลังเลเล็กน้อย เลือดมาเฟียอย่างเขาถนัดใช้ความตายจบทุกอย่างเป็นตัวเลือกแรกเสมอ เพราะคนตาย..พูดไม่ได้
"และเหตุผลสุดท้าย ไลลาคือเบี้ยตัวสำคัญ ในเมื่อฉันฆ่าเธอไม่ได้ ฉันก็จะเก็บเธอไว้ใกล้ตัว ไลลาอาจเป็นกุญแจสำคัญที่ฉันอาจจะใช้ต่อรองเรื่องที่เราทำอยู่ เพราะเธอคือหมากตัวเดียวที่จะเปิดประตูให้พวกนักการเมืองต้องยอมเป็นพวกของเรา"
"ถ้าเป็นแบบนั้นได้ มันก็ดีครับ แต่..ผู้หญิงแบบนี้…จะกลายเป็นหมากหรือเมีย ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครควบคุมใครได้ก่อน" พูดจบฮิมก็โค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับไปยืนรอเจ้านายที่หน้าประตูรถ สีหน้าแม้จะไม่สบอารมณ์นักแต่เขาก็ไม่อาจขัดคำสั่งของเทลวินได้
ตำแหน่งคนสนิทของนายใหญ่แห่ง วาเรนโซ่ ไม่ช่วยทำให้เทลวินเปลี่ยนใจที่แน่วแน่นั้นได้เลย...
รถสีดำคันหรูมุ่งหน้ากลับเข้าไปในเมืองหลวงด้วยความเร็วสูง ในระหว่างนั้นเทลวินก็จัดการเคลียร์ทุกเส้นทาง เพื่อเตรียมความพร้อมต่อการไปเยือนคฤหาสน์ใหญ่โตของรัฐมนตรีชื่อดัง
"ไปคฤหาสน์อลิษาเวศ์" นามสกุลที่ถูกเอ่ยขึ้นทำให้ไลลาเงยหน้าขึ้นมาทันที จากที่คิดว่าจะไม่พูดกับพวกดิบเถื่อนอย่างเขาอีกในชาตินี้
"นั่นมันบ้านฉันนิ คุณจะไปทำไม?"
"...."
"นี่คุณเทลวิน ฉันถามไม่ได้ยินรึไง?"
"....."
"บ้านฉันไม่ต้องรับคนเถื่อนอย่างพวกคุณ คอยดูนะฉันจะให้พ่อเล่นงานคุณให้สาสมเลย ตำรวจทั้งเมืองเป็นคนของพ่อฉันทั้งนั้น พวกคุณไม่รอดแน่!"
ยิ่งได้ฟังเรื่องของการมีอำนาจอยู่ในมือ มุมปากมาเฟียหนุ่มถึงกับยกยิ้มเล็กน้อย แต่ก่อนที่เขาจะได้ใช้อำนาจที่ว่านั้น แก้วหูคงได้พังซะก่อนหากไลลายังแหกปากอยู่แบบนี้
"อดีน กล่องทำแผลอยู่ไหน?"
"อยู่นี่ครับ บอสเจ็บตรงไหนอีก?"
"ถ้าได้ยินเสียงแหลม ๆ นั่นอีก ฉันอนุญาติให้เย็บปากเธอซะ"
