บทที่ 4 ตอนที่4

วันต่อมา

16:30น.

ห้องพักอาจารย์

มหาลัย E

เอริ ฐิติมน….

พรึบ

“เทอมนี้ทางมหาลัยขอเพิ่มค่าหน่วยกิตนะคะ….นางสาวฐิติมน…”

“ค่ะ…อาจารย์”ฉันสบตากับอาจารย์พลางเอ่ยรับคำของท่านไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“แต่หนูขอผ่อนจ่ายเป็นงวดๆได้ไหมคะ?”ฉันเอ่ยถามท่านต่อด้วยน้ำเสียงสั่นๆอย่างกล้าๆกลัวๆ

“ผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ?…นี่เธอคิดว่าเป็นการเล่นขายของอย่างงั้นเหรอ?”อาจารย์เอ่ยถามฉันเสียงเข้มอย่างไม่พอใจ

“นี่มันมหาลัยอินเตอร์นะ!”เสียงตะโกนของอาจารย์ทำเอาฉันสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ

“ถ้าเธอไม่มีเงินมาจ่ายทั้งยอดเก่าจากการค้างค่าเทอมของเทอมที่แล้วกับค่าของหน่วยกิตในเทอมนี้..”

“ฉันคงต้องให้คุณดรอปเรียนไว้ก่อน…”

“แต่อาจารย์คะ…”ฉันกำลังจะเอ่ยแย้งอาจารย์

“ฉันให้เวลาเธอสามวัน….ค่อยเข้ามาหาฉันอีกที…”แต่อาจารย์ก็เอ่ยเสียงเรียบตรึงตอบฉันกลับมาซะก่อน

“เชิญ…”อาจารย์เอ่ยบอกฉันพลางยกมือผายไปทางประตูของทางออกห้องพักอาจารย์

“ค่ะ…สวัสดีค่ะอาจารย์…”ฉันยกมือไหว้อาจารย์ท่านไม่ได้ยกมือรับไหว้ฉันแต่อย่างใด ก็เป็นอย่างนี้แหละที่คนจนๆอย่างฉันที่ยังจะดื้อดันทุรังตัวเองให้มาเรียนในรั้วมหาลัยอินเตอร์แบบนี้ ที่ฉันเลือกเรียนที่นี้ก็เพื่ออนาคตฉันจะได้มีงานดีๆทำมีเงินเดือนหกหลักอัพแต่กว่าจะไปถึงวันนั้นฉันคงจะหมดแรงหรือไม่ก็หมดกำลังใจที่จะเดินต่อสู้กับค่าเทอมต่อไปแล้วล่ะ

พรึบ

ฉันหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้นั่งด้านข้างของสวนในรั้วมหาลัยอินเตอร์อย่างคนที่หมดแรงและหมดหนทางที่จะไปต่อ

“เห้อ….ถ้าทำงานมากกว่านี้…มีหวังฉันไม่มีเวลานอนแน่…”ฉันพึมพำขึ้นเมื่อหยิบสมุดโน้ตของตัวเองออกมาเพื่อดูตารางงานของฉันในแต่ละวันว่าคิวงานพาร์ทไทม์ของฉันทำที่ไหนเวลาไหนถึงเวลาไหนและค่าจ้างในแต่ละวันที่ฉันจะได้รับเอามาคิดคำนวณกับเงินรวมทั้งหมดว่าจะพอจ่ายค่าเทอมไหม

พรึบ

“อ่ะ….”

“?”ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของมือที่ถือขวดน้ำเปล่าเย็นๆที่ยื่นมาให้ฉันด้วยท่าทางสงสัยก่อนจะมองสูงขึ้นไปเพื่อมองหน้าของคนคนนั้น

“ขุนศึก?”

“ใช่…ดีใจนะที่เธอจำเราได้ด้วย^_^”เขาว่าพลางหมุนเปิดฝาขวดน้ำเปล่าพร้อมกับใส่หลอดดูดเสร็จสรรพและยื่นมาให้ฉันอีกครั้ง

“มองเธอดูเหนื่อยๆดื่มน้ำก่อนดิ…เผื่อจะทำให้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้บ้าง”ขุนศึกว่าพลางยิ้มละมุนให้ฉันอย่างหว่านเสน่ห์เพราะฉันไม่ยอมยื่นมือไปรับขวดน้ำเปล่ามาจากเขา เป็นอันแสดงว่าฉันไม่ยินดีรับไมตรีที่เขายื่นให้

“ไม่อ่ะ…นายดื่มเองเถอะ..”ฉันบอกเขาและละสายตาจากร่างสูงโปร่งที่อยู่ในชุดนักศึกษาที่ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่เสื้อเชิ้ตสีขาวหลุดลุ่ยออกจากกางเกงสแลคสีดำขาเต่อผ้าเนื้อดีแถมปลดกระดุมสองเม็ดบนอวดหน้าอกสีขาวรองเท้าก็รองเท้าผ้าใบรุ่นดังที่เป็นของแบรนด์เนมสีดำผมเผ้าเซตขึ้นเป็นทรงเท่ๆรับกลับโครงหน้าหล่อของเขาให้ดูแบดขึ้นไปอีก ที่หูข้างซ้ายของเขาก็ใส่ต่างหูห่วงสามอันเรียงตัวกันที่ติ่งหูขึ้นไป

พรึบ

“ขอนั่งด้วยคนนะ^_^”ขุนศึกว่าพลางยิ้มร่าให้ฉันอย่างคนที่ไม่รู้ไม่ชี้ เพราะฉันหันขวับกลับไปมองเขาอย่างเอาเรื่องที่เมื่อฉันไม่ยอมรับน้ำดื่มจากเขา เขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆตัวฉันทันทีแถมใกล้ชิดร่างฉันอีกด้วย

พรึบ

ฉันขยับหนีเขาเพื่อเว้นระยะห่างในการนั่งเขาก็ไหวไหล่เล็กน้อยกับอาการและท่าทางที่แสดงออกอย่างชัดเจนของฉันที่มีต่อเขา ไม่รู้ว่าเขาจะเอาอะไรจากฉันทั้งๆที่คนอย่างฉันก็ไม่ได้มีอะไรให้เขา

“เห้อ!”ฉันผ่อนลมหายใจออกมา

“เห้อ!”และเสียงผ่อนลมหายใจของคนข้างๆก็ตามมาติดๆทำให้ฉันหันไปมองหน้าเขาทันที เขาก็ทำเป็นยิ้มหวานจนแก้มปริตาปิดให้ฉัน ทำให้ฉันนึกไม่พอใจเขาที่กล้าล้อเลียนอารมณ์ฉันในตอนนี้ ใช่สิคนรวยๆแบบเขาจะไปเข้าใจอะไรกับคนจนๆอย่างฉันล่ะ

“ไม่มีเรียนรึไง?”

“ถึงได้มานั่งเลียนแบบท่าทางคนอื่นแบบนี้น่ะ?”ฉันเอ่ยถามขุนศึกไปอย่างสงสัยที่เขาไม่มีทีท่าว่าจะลุกออกไปจากตรงนี้เลย แต่เขากลับทำท่าทางเลียนแบบอิริยาบถของฉันทุกอย่างแม้กระทั่งการนั่งไขว่ห้าง

“แล้วเธอไม่มีเรียนเหรอ?”เขาไม่ตอบคำถามฉันแต่กลับทำหน้ากวนและถามฉันกลับทำให้ฉันมองหน้าเขาพลางทำสีหน้าหงุดหงิดใส่เขา

“เรื่องอะไรที่ฉันจะต้องตอบนาย..”ฉันถามเขาเสียงเข้ม

“แต่เธอถามเราก่อนนะ?”ขุนศึกว่าพลางทำท่าจะขยับตัวเข้ามาหาฉันอีกครั้งแต่เจอเข้ากับสายตาคมกริบของฉันเข้าซะก่อนเขาจึงยิ้มแหยๆให้ฉันและกลับไปนั่งตัวตรงหลังพิงพนักเก้าอี้ไม้ตัวเดียวกับฉันนิ่งและไม่ขยับเข้าใจฉันแบบเนียนๆอีก

พรึบ

“จะไปไหนอ่ะ?”ขุนศึกเอ่ยถามฉันด้วยสีหน้าและน้ำเสียงตกใจที่ฉันลุกขึ้นยืนเต็มความสูงอย่างรวดเร็วจนเขาที่นั่งอยู่ข้างๆตกใจ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป