บทที่ 8 ตอนที่8

“คุณป้าครับ…”ขุนศึกเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและสุภาพ

“ครับ?”ป้าเจ้าของร้านหันมาขานรับขุนศึกที่เขายกมือพร้อมกับเรียกป้าเจ้าของร้าน

“ผมขอแบบนี้เพิ่มอีกสองครับ^_^”ขุนศึกว่าพร้อมกับชูชามก๋วยเตี๋ยวที่แห้งเหือดไม่หลงเหลือน้ำซุปแม้สักหยดเดียวให้ป้าเจ้าของร้านดู ป้าเจ้าของร้านก็ยิ้มแก้มแทบปริกับการที่ขุนศึกกินก๋วยเตี๋ยวเขาไม่หลงเหลือแบบนี้ กินอย่างกับคนอดอยากแหนะ ฉันที่อดมื้อกินมื้อยังกินไม่หมดถึงแบบเขาเลย

“ได้จ้า^_^”ป้าแม่ค้ารับคำก่อนจะหันไปทำก๋วยเตี๋ยวให้ขุนศึก เขาก็หันกลับมาฉีกยิ้มกว้างให้ฉันที่มองหน้าเขาอยู่ ฉันจึงรีบหลบตาเขาและลงมือทานก๋วยเตี๋ยวของฉันต่อบ้าง โดยมีสายตาของขุนศึกมองฉันอยู่ตลอดเวลา

พรึบ

“ก๋วยเตี๋ยวเป็ดเส้นเล็กสองมาแล้วจ้า…”

“ขอบคุณครับ…^_^”ขุนศึกเอ่ยขึ้นแววตาและน้ำเสียงของเขาเหมือนเด็กน้อยที่ดีใจเวลาได้ของเล่นอย่างงั้นแหละ เวอร์จริงๆ!

พรึบ

“?”ฉันมองหน้าขุนศึกพลางขมวดคิ้วงุนงงที่เขายื่นชามก๋วยเตี๋ยวตรงหน้ามาให้ฉัน เขาก็ยิ้มกว้างจนปากจะฉีกถึงรูหู

“ปรุงให้เราหน่อย….เอริปรุงน้ำซุปอร่อยที่สุด^_^”เขาว่าเสียงแจ๋ว ฉันก็พยักหน้ารับรู้ก่อนจะวางช้อนกับตะเกียบลงและเริ่มลงมือปรุงเครื่องปรุงพริกป่นน้ำตาลทรายน้ำปลาน้ำส้มสายชูตามที่ทางร้านจัดมาให้ใส่ลงไปในชามก๋วยเตี๋ยวของขุนศึก

พรึบ

“ชามนี้ด้วยครับ^_^”ขุนศึกว่าในขณะที่ฉันยื่นชามก๋วยเตี๋ยวที่ปรุงเครื่องเสร็จแล้วให้เขาไป ฉันก็ปรุงอีกชามให้เขาโดยใส่เครื่องปรุงในปริมาณเท่าเดิม ขุนศึกก็กินก๋วยเตี๋ยวอย่่างเอร็ดอร่อยทั้งสองชาม

พรึบ

“คิดเงินด้วยค่ะ”ฉันเรียกป้าเจ้าของร้านให้มาคิดเงินเมื่อฉันกินก๋วยเตี๋ยวของฉันหนึ่งชามกับขุนศึกกินก๋วยเตี๋ยวสามชามเสร็จแล้ว

“จ้า…”ป้าเจ้าของร้านรับคำและเดินมุ่งมาที่โต๊ะของฉันกับขุนศึกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

พรึบ

“ก๋วยเตี๋ยวเป็ดชามละห้าสิบบาท…สี่ชามสองร้อยบาทจ๊ะ^_^”

พรึบ

“เดี๋ยวเราจ่ายเอง…”ขุนศึกว่าอย่างอาสาโชว์ความเป็นป๋าและความรวย ฉันก็ไหวไหล่ให้เขา

“มันแน่นอนอยู่แล้ว..”ฉันว่าพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและเดินออกมาจากโต๊ะนั้นเลย โดยที่ขุนศึกยังควักกระเป๋าตังค์จ่ายให้ป้าเจ้าของร้านไม่เสร็จเลย

ตึกๆๆๆๆๆๆ

“เอริ”

“ว่า?”ฉันหันไปมองหน้าขุนศึกที่วิ่งตามหลังฉันมาอย่างไวจนตอนนี้เขามาเดินเสมอกับฉันแล้ว

“บ้านเธออยู่ไหน….เดี๋ยวเราไปส่ง^_^”ขุนศึกว่าพลางยิ้มหวานแววตาหวานหยดย้อยอย่างหว่านเสน่ห์ฉันเต็มที่

“หึ….ฉันไม่อยากรับความหวังดีจากนาย”

“แต่เราอยากไปส่งเธอจริงๆนะ…”

“ไม่จำเป็น…นายกลับบ้านนายไปเถอะ..”ฉันบอกเขาและเริ่มเดินเรียบไปตามทางฟุตบาทโดยมีร่างของขุนศึกเดินตามมาด้วย

“นี่นายจะไปไหน?”

“เดินไปส่งเธอที่บ้านเธอไง…”

“อยากเดินก็เรื่องของนาย…”ฉันเอ่ยบอกขุนศึกไปในขณะที่เราสองคนมากินก๋วยเตี๋ยวเป็ดได้เพราะฉันนั่งวินมอเตอร์ไซค์มาโดยขุนศึกเองก็นั่งวินมอเตอร์ไซค์มาด้วยเหมือนกันแต่คนละคันกับฉันน่ะ

“ขากลับ…ไม่มีรถนะดึกๆแบบนี้น่ะ…”ฉันบอกเขาไปตามความจริงแวบหนึ่งฉันแอบเห็นหน้าของขุนศึกเหวอและซีดลงกับคำพูดของฉัน เพราะคนรวยๆแบบเขาคงไม่เคยเดินไกลๆแบบนี้ แต่สำหรับมันชินไปแล้วล่ะ

“แล้วเธอเดินกลับดึกๆแบบนี้…ทุกๆวันไม่กลัวหรือไง?”เขาเอ่ยถามฉันพลางใช้แววตาอ่อนโยนมองฉัน ฉันก็ยิ้มให้เขา

“ไม่…เพราะปกติฉันกลับเช้ามืด..มีรถวินวิ่งแล้ว..”

“อ้าวแล้วทำไมวันนี้เธอถึงกลับตอนนี้ล่ะ?”

“งานฉันไม่มีน่ะ”

“เธอทำงานอะไรเหรอ?”

“ทุกงาน…ที่ได้เงิน”ฉันตอบเขาไปตามความจริง ฉันทำทุกงานไม่หมิ่นเงินน้อยไม่อายทำกิน ฉันทำทุกงานยกเว้นการขายตัวแต่ต่อไปก็อาจจะไม่แน่ถ้าฉันยังอยากมีอนาคตที่ดีกว่านี้เเบบที่ฉันวาดฝันไว้….ฉันคงจะต้องเดินอาชีพ

ที่ได้เงินดีเพื่ออนาคตของฉันแล้วล่ะ

วันต่อมา

มหาลัยE

คลาสเรียน

15:30น.

เอริ ฐิติมน….

พรึบ

“เห้อ”ฉันผ่อนลมหายใจออกมาเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้เพราะมันนับครั้งไม่ถ้วนแล้วน่ะสิ ฉันไม่มีกระจิตกระใจจะเรียนในคลาสนี้เลย เพราะฉันเอาแต่คิดเรื่องเงินและงานที่ฉันจะทำเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเทอมยังไง และงานอะไรที่จะได้เงินไวๆและได้เงินเยอะๆเงินหลักแสนสำหรับเด็กกำพร้าที่ต้นทุนชีวิตต่ำแบบฉันมันเป็นเงินที่มีมูลค่าสูงมากจริงๆแค่งานที่ฉันทำทุกวันนี้เงินก็แทบจะไม่พอแล้วไหนจะค่ากินค่าน้ำค่าไฟ ค่าเช่าแฟลตค่า ค่าเทอมค่าอะไรต่างนาๆที่มันเกินตัวของฉันไปมาก เด็กอายุยี่สิบที่ดิ้นรนหาเงินหลักแสน

“ได้ข่าวว่าเมื่อคืน…ขุนศึกเดินไปส่งเธอถึงที่แฟลตเลยเหรอ?”เสียงกระซิบเชิงแซวๆฉันดังมาจากเพลงขวัญเพื่อนสนิทที่สุดของฉันในรั้วมหาลัยเอกชนที่อยู่ในเพื่อนแก๊งเดียวกับฉันซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับเพื่อนๆของขุนศึกนั้นแหละ ที่เพลงขวัญรู้คงเป็นเพราขุนศึกคงจะบอกเพื่อนๆเขาที่เป็นเพื่อนของฉันเหมือนกัน เห็นว่าวันนี้เขามาไม่ไหวเพราะแพ้ขนหมีจนคันเป็นผื่นแดงขึ้นทั้งตัวแล้วไหนจะต้องเดินตากน้ำค้างตอนกลางคืนที่เขาเดินไปส่งฉันที่แฟลตและไหนจะต้องเดินกลับไปที่ร้านสะดวกซื้อที่เขาเอารถไปจอดทิ้งไว้อีก ซึ่งระยะทางก็หลายกิโลเมตรอยู่แล้ว แล้วใครใช้ให้เขาทำล่ะ เขาอยากทำมันเองหนิ ฉันไม่ได้บังคับซะหน่อยเขาเลือกเองทั้งนั้น…..

“อืม…”ฉันตอบเพลงขวัญไปเสียงแผ่วเบา

“เขามองดูชอบเธอมากเลยนะเอริ…”เพลงขวัญบอกฉันอีกพลางยิ้มหวานให้ฉัน ฉันก็ทำหน้าเอือมๆให้เธอไปผู้ชายคาสโนว่าตัวพ่ออย่างขุนศึกก็ชอบผู้หญิงไปทั่ว มั่วไปทั่วนั้นแหละ

“เขาก็ชอบผู้หญิงทุกคน….”ฉันแย้งเพลงขวัญไปตามความจริงเพราะขุนศึกชอบผู้หญิงทุกคนจริงๆ ซึ่งฉันก็พอจะได้ยินชื่อเสียงของเขาผ่านหูมาบ้าง ผู้ชายที่หล่อหน้าตาดี รวยขนาดนั้นมีเหรอที่จะไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเขาน่ะ

“ก็ใช่…แต่เธอไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป