บทที่ 10
เฮเลน
หลังสุนทรพจน์ พิธีกรก็ประกาศว่าถึงเวลาสำหรับการเต้นรำครั้งแรกแล้ว ขอบคุณพระเจ้าที่งานนี้ใกล้จะจบลงเสียที ฉันไม่รู้เลยว่าจะได้เต้นรำกับใคร แต่ดูจากนิสัยพี่สาวฉันแล้ว เธออาจจะจับคู่ฉันกับใครสักคนที่เต้นไม่เป็นเลยก็ได้ แต่ที่น่าประหลาดใจคือจอห์นนี่เดินเข้ามาใกล้แล้วยื่นมือมาให้ฉัน “ให้เกียรติเต้นรำกับผมได้ไหมครับ” “ค่ะ” เขาโอบฉันไว้ในอ้อมแขนแล้วเราก็เต้นรำกัน เราไม่ได้พูดอะไร แค่เต้นรำ ดูเหมือนว่าเราทั้งคู่แค่อยากจะให้เรื่องหยุมหยิมน่าเบื่อพวกนี้มันพ้นๆ ไป พอเราเต้นรำวนรอบฟลอร์เป็นรอบที่สอง เราก็ดึงคนอื่นเข้ามาร่วมวงด้วย จากนั้นเราทั้งคู่ก็แยกตัวออกจากฟลอร์เต้นรำ ฉันเดินตรงไปที่บาร์เพราะอยากดื่มจินโทนิกใจจะขาด ฉันสั่งจินโทนิกแล้วหันกลับมามองผู้คนรอบตัว และตอนนั้นเองที่ฉันเห็นจอห์นนี่กำลังเดินเข้ามาหา ให้ตายสิ เขารูปหล่อชะมัด ด้วยผมสีดำและดวงตาสีเขียวคู่นั้น...ดวงตาที่ดูเหมือนหิวกระหายในตัวฉัน ขณะที่เขาเดินเข้ามาและฉันมองเขา ฉันรู้สึกได้ถึงความรู้สึกเก่าๆ และความรู้สึกใหม่ๆ ที่ปั่นป่วนอยู่ข้างใน “ในที่สุด ก็อยู่กันตามลำพังเสียที” เขาพูดเมื่อมาถึงตัวฉัน ฉันมองไปรอบๆ แล้วพูดว่า “ถ้าคุณเรียกแบบนี้ว่าตามลำพังได้น่ะนะ” “โอเค งั้นผมควรจะพูดว่าเราหนีจากคู่บ่าวสาวแสนสุขมาได้แล้วสินะ” “ให้ตายสิ นั่นมันอะไรกัน” ฉันถามเขา “ผมไม่รู้สิ ผมมาที่นี่เพื่อคุณคนเดียวเท่านั้น” คำพูดนั้นทำเอาฉันแทบหยุดหายใจ มันช่างตรงไปตรงมาเสียจนฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี ได้แต่มองหน้าเขา เขาใช้นิ้วแตะปิดปากฉันเบาๆ “เราคงไม่อยากให้แมลงวันบินเข้าปากคุณหรอก ใช่ไหม” ฉันส่ายหน้า แล้วฉันก็ได้สติกลับคืนมา “คุณหมายความว่ายังไงที่ว่ามาที่นี่เพื่อฉันคนเดียว” เราถูกขัดจังหวะโดยเจ้าบ่าวที่สั่งสก็อตช์ออนเดอะร็อก ทั้งจอห์นนี่และฉันต่างมองเขาขณะที่เขากระดกแก้วนั้นรวดเดียวหมดแล้วสั่งอีกแก้ว “คุณน่าจะเพลาๆ หน่อยนะ” ฉันถามเขา “อย่ามายุ่งเรื่องของฉันน่าเฮเลน เธอทำรองเท้าหนังโลฟเฟอร์อิตาลีคู่โปรดของฉันพัง” ก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไร จอห์นนี่ก็คว้าแขนเขาไว้ “เจค ถ้าแกพูดกับเธอแบบนี้อีกครั้งเดียว ฉันจะอัดแกให้เละ ได้ยินไหม” “ใจเย็นเพื่อน” เจคพูด “ฉันจะไม่ขอโทษ” ฉันแค่มองหน้าเจค รอคำขอโทษจากเขา “ขอโทษนะ เฮเลน” เขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดจริงๆ แต่ฉันเป็นผู้ใหญ่กว่า “รับคำขอโทษ ว่าแล้วก็กลับไปหาเจ้าสาวของคุณได้แล้ว” เขาทำเสียงประหลาดในลำคอก่อนจะเดินจากไปอีกครั้ง
พอเราอยู่กันตามลำพังอีกครั้ง ฉันก็ได้รับเครื่องดื่มของฉัน ส่วนจอห์นนี่ก็ได้ของเขา “คุณอยากออกไปนั่งข้างนอกไหม เรามีเรื่องต้องคุยกันอีกเยอะ” จอห์นนี่ถาม “ก็ได้ค่ะ” มีเรื่องต้องคุยกันอีกเยอะงั้นเหรอ มันหมายความว่าอะไรกันแน่ ตอนเด็กๆ เขาไม่เคยสังเกตเห็นฉันด้วยซ้ำ แล้วทำไมตอนนี้ถึงอยากจะมาคุยอัปเดตชีวิตกันล่ะ นั่นคือความคิดที่วิ่งวนอยู่ในหัว แต่ฉันก็จะไม่ปฏิเสธโอกาสที่จะได้อยู่กับจอห์นนี่ มัวร์ คนที่ฉันแอบชอบตามลำพังหรอก เราหาที่นั่งข้างนอกตรงที่มีเครื่องทำความร้อน เขาดึงเก้าอี้ให้ฉันแล้วรอจนฉันนั่งลงก่อนที่เขาจะนั่งตาม “เป็นไงบ้าง” เขาถาม “ก็...ถ้าไม่นับเรื่องละครสัตว์นี่ ฉันก็สบายดี แล้วคุณล่ะ” “สบายดีครับ แต่ช่วงนี้ยุ่งๆ” “ยุ่งก็ดีแล้วค่ะ ตอนนี้คุณทำอะไรอยู่เหรอ” ฉันต้องถามออกไป ทั้งที่จริงๆ ก็รู้อยู่แล้ว แอบส่องโซเชียลมาน่ะสิ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยโพสต์อะไรมากก็เถอะ เหมือนฉันเลย “ผมเป็นนายหน้าค้าหุ้น แล้วคุณล่ะ” “การเงินเหมือนกันค่ะ แต่ฉันเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของซีอีโอที่บริษัทการเงินแห่งหนึ่งใจกลางชิคาโก” “โอ้ ว้าว แปลกดีนะที่เราไม่เคยเจอกันมาก่อนเลยจนถึงวันนี้” “ทำไมเหรอคะ” ฉันถามอย่างประหลาดใจ “ผมก็ทำงานในชิคาโกเหมือนกัน ใจกลางเมืองอย่างที่คุณเรียกนั่นแหละ” “อ้อ ค่ะ” “ทำไมคุณไม่ทำงานให้ธุรกิจของพ่อคุณล่ะ” เขาถาม “นั่นเป็นคำถามที่ลึกซึ้งมากเลยนะคะ” “จริงเหรอครับ” เขาถามอย่างแปลกใจ “ค่ะ ในแง่หนึ่ง พ่อฉันเป็นพวกหัวโบราณ เขาอยากให้ผู้ชายมาสืบทอดบริษัท และฉันก็กำลังต่อต้านด้วยการไม่ทำงานให้บริษัทของเขา เพราะเขาไม่อยากยกบริษัทให้ฉันหรือไม่ก็ไม่ยอมให้ฉันอยู่ในตำแหน่งผู้บริหาร” “อ้อ โอเค ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว ส่วนที่ว่าลึกซึ้งน่ะ”
จอห์นนี่
ตอนที่เจคทำตัวหยาบคายกับเฮเลน ผมอยากจะซัดเขาร่วงลงไปกองกับพื้นตรงนั้นเลย แต่ทำไม่ได้ เพราะยังไงนี่ก็เป็นงานแต่งงานของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อยากอยู่ที่นี่เลยก็ตาม เฮเลนกับผมกำลังคุยกันเรื่องงานและอาชีพที่ทำกันอยู่ จริงๆ ผมนึกว่าเธอจะทำงานที่บริษัทของพ่อเธอเสียอีก ผมรู้ว่าเธอเรียนด้านการเงิน แต่ผมก็เห็นด้วยกับเธอนะที่ไปทำงานที่อื่นถ้าไม่ได้รับการยอมรับในครอบครัว “จอห์นนี่ ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม” “ได้สิ แน่นอน อะไรก็ได้” “อะไรก็ได้เหรอ” “คุณหมายความว่ายังไงที่พูดว่าคุณมาที่นี่เพื่อฉันคนเดียว” ผมจับมือเธอขึ้นมาแล้วพลิกไปมา เล่นกับฝ่ามือด้านในของเธอ ลากนิ้วขึ้นลงบนฝ่ามือเพื่อหยอกเย้า โดยไม่ละสายตาไปจากเธอเลย ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ แล้วผมก็ดึงเธอเข้ามาใกล้แล้วกระซิบข้างหู “จำได้ไหม...ตอนที่เธอจับได้ว่าฉันกำลังฝังมิดอยู่ในตัวพี่สาวเธอ” ผมเห็นว่าเธออยากจะปฏิเสธ แต่ก็ฉลาดพอที่จะไม่ทำ “ค่ะ มันฝังอยู่ในสมองฉันเลย” “คือ...ผมหวังว่าคนนั้นจะเป็นคุณ ตลอดเวลาที่ผมกำลังเอากับพี่สาวเธอ ผมคิดถึงแต่เรื่องของคุณ ผมอยากให้คุณมาจับได้ พี่สาวคุณล็อกประตู แต่ผมเป็นคนปลดล็อก แล้วก็จงใจทำเสียงดังเพื่อให้คุณเดินมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ให้ตายสิ จอห์นนี่ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าคุณจะใจร้ายได้ขนาดนี้ ฉันคาดหวังเรื่องแบบนี้จากเจคหรือคนอื่นได้ แต่ไม่ใช่จากคุณ...ไม่เคยเลย” เธอพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนเพื่อเดินหนีผมไปทั้งน้ำตา “โธ่เว้ย ไม่นะเฮเลน เดี๋ยว ให้ผมอธิบายก่อน ขอโทษ ผมทำผิดไปหมดแล้ว” เธอหันกลับมา กอดอกมองหน้าอกที่สวยงามของตัวเองแล้วพูดว่า “ก็ได้ ฉันจะฟัง”
